สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ตั้งสอบทุจริตสร้างสนามฟุตซอล จ่อหาตัวคนบงการ

ตั้งสอบทุจริตสร้างสนามฟุตซอล จ่อหาตัวคนบงการ

จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์

       “กมล” รับหนักใจกรณีสอบข้อเท็จจริงทุจริตโครงการก่อสร้างสนามฟุตซอล หวั่นกระทบงานเจ้าของเรื่อง กำชับ จนท. ทำงานหนุน ป.ป.ท. ด้านผู้บริหาร ครูโรงเรียนสังกัด สพป.อุตรดิตถ์ เขต 1 พร้อมเป็นพยานสือหาตัวผู้บงการ
       วันนี้ (14 ต.ค ) นายกมล รอดคล้าย เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวถึงการตรวจสอบโครงการก่อสร้างสนามฟุตซอลของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษา ขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ที่ใช้งบแปรญัตติกว่า 680 ล้านบาท ว่า ขณะนี้ตนได้เซ็นคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสืบหาข้อเท็จจริงกรณีการก่อสร้าง สนามฟุตซอลในโรงเรียนพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา และจังหวัดอุตรดิตถ์แล้ว ทั้งได้มอบหมายให้สำนักบริหารงานบุคคลและนิติการ ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ลงพื้นที่หาข้อมูลเพิ่มเติมด้วย และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ยังได้ประสานขอข้อมูลมาที่ สพฐ. ถึงประเด็นที่เกี่ยวข้อง อาทิ การได้มาของงบประมาณ วิธีคัดเลือกโรงเรียน วิธีการจัดสรร เป็นต้น โดย สพฐ.ได้จัดทำข้อมูลดังกล่าวไว้เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ ขั้นตอนการดำเนินการต่อจากนี้ไปเมื่อ สพฐ. ได้ข้อมูลจากการสืบข้อเท็จจริงเข้ามา ก็จะนำข้อมูลมาแชร์ร่วมกับ ป.ป.ท.
        
        “ต้อง ยอมรับว่าการทำงานในเรื่องนี้เป็นความลำบากใจค่อนข้างมาก เพราะหาก สพฐ. อยู่เฉยๆ โดยไม่ดำเนินการอะไรก็จะถูกมองว่าไม่ใส่ใจกับกรณีที่เกิดขึ้น แต่หากดำเนินการมากไปก็เกรงว่าจะไปกระทบกับเจ้าของเรื่องที่มีการตรวจ สอบอยู่แล้ว ดังนั้น ผมจึงได้กำชับเจ้าหน้านิติกรที่ลงพื้นที่ไปว่า ขอให้ดูข้อมูลเพื่อสนับสนุนการทำงานของ ป.ป.ท. และทำความเข้าใจกับครูและผู้บริหารโรงเรียนด้วยว่าหน่วยงานจากส่วนกลางไม่ ได้ปล่อยให้โรงเรียนแบกรับภาระโดยลำพัง อย่างไรก็ตาม จะรายงานเรื่องดังกล่าวให้แก่นายยงยุทธ ยุทธวงศ์ รองนายกรัฐมนตรี รับทราบด้วยในฐานะที่ดูแลงานด้านสังคม” นายกมล กล่าว
       
        ด้านนายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) กล่าวว่า วันนี้ ป.ป.ท. จะประชุมคณะทำงานและจะประสานกับกรมสอบสนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อทำความเข้าใจในรายละเอียดของคดี และจะใช้อำนาจดีเอสไอ ในการเรียกสอบบริษัทเอกชนที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ในเบื้องต้นมีบริษัทที่ประมูลงานได้ 2 บริษัท และบริษัทที่เสนอราคาคู่เทียบอีก 2 บริษัท โดยสัปดาห์หน้าจะปูพรมตรวจทั้ง 101 โรงเรียนที่ได้รับงบสร้างสนามฟุตซอลว่ามีเท่าใดที่มีปัญหาบ้าง รวมถึงอีกหลายโรงเรียนใน 6 จังหวัด ที่ได้รับงบไปแต่กลับไม่มีการสร้างจริงซึ่งในการสอบจะขยายให้ถึงภาพรวมใหญ่ ที่เกี่ยวข้องกับระบบการใช้งบแปรญัตติของ สพฐ. ที่มีช่องโหว่ และอาจไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่แท้จริง
       
        ล่าสุดนายนเรศ โปร่งแสง รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) อุตรดิตถ์ เขต 1 มีหนังสือที่ ศธ 04180/5247 ถึงนายธีรพงษ์ ศรีเดช เครือข่ายคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ภาคประชาชน แล้ว นอกจากนี้ ยังส่งสำเนาหนังสือ สพฐ.ที่ ศธ 04006/ว 677 ลงวันที่ 3 เมษายน 2555 เป็นหนังสือการจัดสรรงบประมาณปี 2555 งบลงทุน ค่าเช่าที่ดินสิ่งก่อสร้าง จำนวน 39,564,000 บาท และสำเนาหนังสือ สพฐ. ที่ ศธ04001/1017 ลงวันที่ 15 พฤษภาคม 2555 เป็นหนังสือที่ส่งแบบรายการสนามฟุตซอล ถึง ผอ.สพป.อุตรดิตถ์ เขต 1 ด้วยจากการตรวจสอบในเอกสารพบว่า บริษัท ลีกา ฟุตซอล จำกัด ขอให้กรมพลศึกษา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รับรองแบบสนามฟุตซอลให้ เพื่อนำมาใช้ในการก่อสร้างสนามฟุตซอล โรงเรียนสังกัด สพป.อุตรดิตถ์ เขต 1 ส่วนผู้รับการประมูลการก่อสร้างสนามฟุตซอลคือ บริษัท ออคตากอนมาร์เกตติ้ง โดยแบบสนามฟุตซอลกลางแจ้ง พร้อมอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน จากกรมพลศึกษา ประกอบด้วย ปรับบดอัดดิน ทรายหยาบบดอัดแน่น ดินถมบดอัดแน่น พลาสติกปูรองพื้น แบบหล่อคนกรีต เหล็กตะแกรง ผิวขัดเรียบ รวมราคา 655,250 บาท ส่วนครุภัณฑ์ประกอบด้วย พื้นสนามขนาด 22x42 เมตร เสาประตูพร้อมตาข่าย ป้ายบอกคะแนน และไฟฟาวล์ รวมราคา 1,852,000 บาท รวมยอดงานพื้นดินและพื้นสนามเป็น 2,507,250 บาท
       
        นายธีรพงษ์ ศรีเดช เครือข่ายคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ภาคประชาชน กล่าวว่า การก่อสร้างสนามฟุตซอลโรงเรียนสังกัด สพป.อุตรดิตถ์ เขต 1 จำนวน 40 แห่งนั้น ใช้งบประมาณก่อสร้างสนามละ 980,300 บาท เป็นไปได้ว่าเพื่อหลบหลีกการประกวดราคาอย่างเปิดเผย โดยการทำให้งบประมาณไม่ถึง 1 ล้านบาท ดังนั้นวัสดุอุปกรณ์อาจไม่ได้มาตรฐาน อุปกรณ์บางอย่างไม่มี เช่น ป้ายบอกคะแนน ไฟฟาวล์ ขณะที่ผู้บริหารโรงเรียนหลายแห่งให้ข้อมูลว่า หากโรงเรียนสร้างเองและใช้วัสดุที่ สพฐ.กำหนด งบประมาณสร้างสนามละไม่เกิน 350,000 บาท   นอกจากนี้ โรงเรียนบางแห่งที่มีโครงการก่อสร้างสนามฟุตซอลกลางแจ้งไปลง มีเด็กนักเรียน 40 คน ซึ่งไม่น่าได้โครงการแต่ก็ได้ บางแห่งสร้างไว้แต่ไม่มีคนเล่นเลยปล่อยร้าง และจากการตรวจสอบโครงการก่อสร้างสนามฟุตซอลกลางแจ้งของเทศบาลเมือง (ทม.) อุตรดิตถ์ ที่บริเวณสนามพระยาพิชัยดาบหัก หรือสนามหน้าอาคารศูนย์ราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ 1 สนาม ที่บริเวณศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ทม.อุตรดิตถ์ 2 สนาม และที่บริเวณสวนสาธารณะสำราญฤทัย หรือบุ่งคุก 1 สนามพบว่าแต่ละสนามใช้งบประมาณก่อสร้าง 2,480,000 บาท ส่วนสนามฟุตซอลในโรงเรียนเทศบาลวัดไผ่ล้อม ต.ท่าอิฐ อ.เมืองอุตรดิตถ์ ขององค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) อุตรดิตถ์ 1 แห่ง งบก่อสร้าง 1,997,350 บาท บริษัท ออคตากอนมาร์เกตติ้ง เป็นผู้สร้างเช่นเดียวกัน
       
        “มีผู้บริหารและครูใน โรงเรียนสังกัด สพป.อุตรดิตถ์ เขต 1 ที่มีโครงการก่อสร้างสนามฟุตซอลกลางแจ้งราว 10 แห่ง พร้อมที่จะมาเป็นพยานให้กับ ป.ป.ท. ในการตรวจสอบและสาวไปให้ถึงตัวผู้บงการโครงการนี้ เพราะเชื่อว่ามีการทุจริตเกิดขึ้นในการก่อสร้างสนามฟุตซอลครั้งนี้อย่างแน่ นอน และไม่อยากให้คนที่ทุจริตคอร์รัปชันงบประมาณบ้านเมืองลอยหน้าลอยตาอยู่ใน สังคมโดยไม่ยอมรับผิดและไม่โดนลงโทษ” นายธีรพงษ์ กล่าว


เลขาฯกพฐ.รับหนักใจสืบข้อเท็จจริงฟุตซอล

"กมล" เลขาฯ กพฐ.ยอมรับนักใจสืบข้อเท็จจริงกรณีการก่อสร้างสนามฟุตซอล มอบนิติการลงพื้นที่ปูพรมตรวจ

เลขาฯ กพฐ.เผย ตั้งคณะกรรมการสืบหาข้อเท็จจริงกรณีการก่อสร้างสนามฟุตซอลในร.ร.พื้นที่ นครราชสีมา และอุตรดิตถ์ ยอมรับนักใจสืบข้อเท็จจริง มอบนิติการลงพื้นที่ปูพรมตรวจ 101 ร.ร.และ อีก 6 จังหวัดที่ได้รับการจัดสรรงบแต่ไม่สร้างจริง เผยรายงาน"ยงยุทธ ยุทธวงศ์" รองนายกฯ ด้านสังคมแล้ว

นายกมล รอดคล้าย เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวถึงการที่ได้ตรวจสอบโครงการก่อสร้างสนามฟุตซอลของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) ที่ใช้งบแปรญัตติกว่า 680 ล้านบาท ว่า ขณะนี้ตนได้เซ็นคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสืบหาข้อเท็จจริงกรณีการก่อสร้างสนามฟุตซอลในโรงเรียนพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา และจังหวัดอุตรดิตถ์ แล้ว ขณะเดียวกันได้มอบหมายให้สำนักบริหารงานบุคคลและนิติการ ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ลงพื้นที่หาข้อมูลเพิ่มเติมด้วย อีกทั้งทาง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ( ป.ป.ท. )ยังได้ประสานขอข้อมูลมาที่ สพฐ.ถึงประเด็นที่เกี่ยวข้อง อาทิ การได้มาของงบประมาณ วิธีคัดเลือกโรงเรียน วิธีการจัดสรร เป็นต้น โดย สพฐ.ได้จัดทำข้อมูลดังกล่าวไว้เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ขั้นตอนการดำเนินการต่อจากนี้ไปเมื่อ สพฐ.ได้ข้อมูลจากการสืบข้อเท็จจริงเข้ามา ก็จะนำข้อมูลมาแชร์ร่วมกับ ป.ป.ท.ด้วย

“ต้อง ยอมรับว่าการทำงานในเรื่องนี้เป็นความลำบากใจค่อนข้างมาก เพราะหาก สพฐ.อยู่เฉยๆโดยไม่ดำเนินการอะไรก็จะถูกมองว่าไม่ใส่ใจกับกรณีที่เกิดขึ้น แต่หากดำเนินการมากไปก็เกรงว่าจะไปกระทบกับเจ้าของเรื่องที่มีการตรวจ สอบอยู่แล้ว ดังนั้นผมจึงได้กำชับเจ้าหน้านิติกรที่ลงพื้นที่ไปว่า ขอให้ดูข้อมูลเพื่อสนับสนุนการทำงานของ ป.ป.ท. และทำความเข้าใจกับครูและผู้บริหารโรงเรียนด้วยว่าหน่วยงานจากส่วนกลางไม่ได้ปล่อยให้โรงเรียนแบกรับภาระโดยลำพัง อย่างไรก็ตามจะรายงานเรื่องดังกล่าวให้แก่นายยงยุทธ ยุทธวงศ์ รองนายกรัฐมนตรี รับทราบด้วย ในฐานะที่ดูแลงานด้านสังคม” นายกมล กล่าว

ด้านนายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) กล่าวว่าวันนี้ ป.ป.ท.จะประชุมคณะทำงานและจะประสานกับกรมสอบสนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) เพื่อทำความเข้าใจในรายละเอียดของคดี และจะใช้อำนาจดีเอสไอ ในการเรียกสอบบริษัทเอกชนที่เกี่ยวข้อง

ทั้งนี้ในเบื้องต้นมีบริษัทที่ประมูลงานได้ 2 บริษัท และบริษัทที่เสนอราคาคู่เทียบอีก 2 บริษัท โดยสัปดาห์หน้าจะปูพรมตรวจทั้ง 101 โรงเรียนที่ได้รับงบสร้างสนามฟุตซอลว่ามีเท่าใดที่มีปัญหาบ้าง รวมถึงอีกหลายโรงเรียนใน 6 จังหวัด ที่ได้รับงบไปแต่กลับไม่มีการสร้างจริงซึ่งในการสอบจะขยายให้ถึงภาพรวมใหญ่ ที่เกี่ยวข้องกับระบบการใช้งบแปรญัตติของ สพฐ.ที่มีช่องโหว่ และอาจไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่แท้จริง

ล่าสุดนายนเรศ โปร่งแสง รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) อุตรดิตถ์ เขต 1 มีหนังสือที่ ศธ 04180/5247 ถึงนายธีรพงษ์ ศรีเดช เครือข่ายคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ภาคประชาชน แล้ว นอกจากนี้ยังส่งสำเนาหนังสือ สพฐ.ที่ ศธ 04006/ว 677 ลงวันที่ 3 เมษายน 2555 เป็นหนังสือการจัดสรรงบประมาณปี 2555 งบลงทุน ค่าเช่าที่ดินสิ่งก่อสร้าง จำนวน 39,564,000 บาท และสำเนาหนังสือ สพฐ.ที่ ศธ04001/1017 ลงวันที่ 15 พฤษภาคม 2555 เป็นหนังสือที่ส่งแบบรายการสนามฟุตซอล ถึง ผอ.สพป.อุตรดิตถ์ เขต 1 ด้วยจากการตรวจสอบในเอกสารพบว่า บริษัท ลีกา ฟุตซอล จำกัด ขอให้กรมพลศึกษา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รับรองแบบสนามฟุตซอลให้ เพื่อนำมาใช้ในการก่อสร้างสนามฟุตซอล โรงเรียนสังกัด สพป.อุตรดิตถ์ เขต 1 ส่วนผู้รับการประมูลการก่อสร้างสนามฟุตซอลคือ บริษัท ออคตากอนมาร์เกตติ้ง โดยแบบสนามฟุตซอลกลางแจ้ง พร้อมอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน จากกรมพลศึกษา ประกอบด้วย ปรับบดอัดดิน ทรายหยาบบดอัดแน่น ดินถมบดอัดแน่น พลาสติกปูรองพื้น แบบหล่อคนกรีต เหล็กตะแกรง ผิวขัดเรียบ รวมราคา 655,250 บาท ส่วนครุภัณฑ์ประกอบด้วย พื้นสนามขนาด 22x42 เมตร เสาประตูพร้อมตาข่าย ป้ายบอกคะแนน และไฟฟาวล์ รวมราคา 1,852,00 บาท รวมยอดงานพื้นดินและพื้นสนามเป็น 2,507,250 บาท

นายธีรพงษ์ ศรีเดช เครือข่ายคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ภาคประชาชน กล่าวว่า การก่อสร้างสนามฟุตซอลโรงเรียนสังกัด สพป.อุตรดิตถ์ เขต 1 จำนวน 40 แห่งนั้นใช้งบประมาณก่อสร้างสนามละ 980,300 บาท เป็นไปได้ว่าเพื่อหลบหลีกการประกวดราคาอย่างเปิดเผย โดยการทำให้งบประมาณไม่ถึง 1 ล้านบาท ดังนั้นวัสดุอุปกรณ์อาจไม่ได้มาตรฐาน อุปกรณ์บางอย่างไม่มี เช่น ป้ายบอกคะแนน ไฟฟาวล์ ขณะที่ผู้บริหารโรงเรียนหลายแห่งให้ข้อมูลว่า หากโรงเรียนสร้างเองและใช้วัสดุที่ สพฐ.กำหนด งบประมาณสร้างสนามละไม่เกิน 350,000 บาท

นายธีรพงษ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ โรงเรียนบางแห่งที่มีโครงการก่อสร้างสนามฟุตซอลกลางแจ้งไปลง มีเด็กนักเรียน 40 คน ซึ่งไม่น่าได้โครงการก็ได้ บางแห่งสร้างไว้แต่ไม่มีคนเล่นเลยปล่อยร้าง และจากการตรวจสอบโครงการก่อสร้างสนามฟุตซอลกลางแจ้งของเทศบาลเมือง (ทม.) อุตรดิตถ์ ที่บริเวณสนามพระยาพิชัยดาบหัก หรือสนามหน้าอาคารศูนย์ราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ 1 สนาม ที่บริเวณศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ทม.อุตรดิตถ์ 2 สนาม และที่บริเวณสวนสาธารณะสำราญฤทัย หรือบุ่งคุก 1 สนามพบว่าแต่ละสนามใช้งบประมาณก่อสร้าง 2,480,000 บาท ส่วนสนามฟุตซอลในโรงเรียนเทศบาลวัดไผ่ล้อม ต.ท่าอิฐ อ.เมืองอุตรดิตถ์ ขององค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) อุตรดิตถ์ 1 แห่ง งบก่อสร้าง 1,997,350 บาท บริษัท ออคตากอนมาร์เกตติ้ง เป็นผู้สร้างเช่นเดียวกัน

“มีผู้บริหารและครูในโรงเรียนสังกัด สพป.อุตรดิตถ์ เขต 1 ที่มีโครงการก่อสร้างสนามฟุตซอลกลางแจ้งราว 10 แห่ง พร้อมที่จะมาเป็นพยานให้กับ ป.ป.ท.ในการตรวจสอบและสาวไปให้ถึงตัวผู้บงการโครงการนี้ เพราะเชื่อว่ามีการทุจริตเกิดขึ้นในการก่อสร้างสนามฟุตซอลครั้งนี้อย่างแน่นอน และไม่อยากให้คนที่ทุจริตคอร์รัปชันงบประมาณบ้านเมืองลอยหน้าลอยตาอยู่ในสังคมโดยไม่ยอมรับผิดและไม่โดนลงโทษ”นายธีรพงษ์ กล่าว


ผู้บริหารบริษัทสร้างสนามฟุตซอลเลื่อนพบสตง.

คืบหน้า ทุจริตสนามฟุตซอล ผู้บริหาร 1 ใน 2 บริษัทที่ได้รับงานอ้างไม่สบายขอเลื่อนเข้าชี้แจงกับ สตง.

ความคืบหน้าการตรวจสอบโครงการก่อสร้างสนามฟุตซอลของโรงเรียนต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งได้รับงบประมาณในการก่อสร้างรวม 50 โรงเรียน แยกเป็นโรงเรียนละ 2.5 ล้านบาท จำนวน 39 โรงเรียน และโรงเรียนละ 5 ล้านบาท จำนวน 11 โรงเรียน

ล่าสุดบ่ายวันนี้ (14 ต.ค. 57) เวลา 15.00 น. นายธีระศักดิ์ วิริยะกมลพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบพิเศษภาค 4 สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน เปิดเผยถึงความคืบหน้าหลัง สตง.มีหนังสือเชิญให้ผู้บริหารบริษัททั้ง 3 แห่ง เข้าชี้แจงข้อมูลว่า ล่าสุดผู้บริหาร 1 ใน 2 บริษัทที่ชนะการเสนอราคาได้รับการว่าจ้างก่อสร้างสนามฟุตซอลได้ติดต่อขอเลื่อนเข้าชี้แจงกับทาง สตง.ออกไปก่อน โดยให้เหตุผลว่าไม่สบาย ขณะที่มีบริษัทอีก 1 แห่งที่ไม่ได้ชนะการเสนอราคาหนังสือถูกตีกลับแจ้งว่าไม่มีผู้รับหนังสือ ซึ่งทาง สตง.คงต้องตรวจสอบว่าเหตุใดถึงไม่มีผู้รับ

ขณะที่ขั้นตอนต่อไปทาง สตง.คงให้เวลาสักระยะ หากผู้บริหารบริษัทที่ถูกเรียกเข้าชี้แจงยังเพิกเฉย ทาง สตง.ก็จะออกหมายเรียกให้มาชี้แจงตามอำนาจของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ.2542 ซึ่งหากยังเพิกเฉยอีก ก็จะถูกแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาขัดคำสั่งเจ้าพนักงานต่อไป ทั้งนี้จากข้อมูลที่ทาง สตง.ตรวจสอบพบว่า บริษัทที่ชนะการเสนอราคาได้รับงานก่อสร้างสนามฟุตซอล 16 โรงเรียนในพื้นที่อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา มีจำนวน 2 บริษัท ซึ่งทั้ง 2 บริษัทมีผู้บริหารเป็นบุคคลเดียวกัน

อย่างไรก็ตามขณะนี้การดำเนินการทั้งหมดยังอยู่ในขั้นตอนของการรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ให้สมบูรณ์ ทั้งเรื่องการตรวจสอบคุณภาพมาตรฐานของสนามฟุตซอล และการสอบปากคำของผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งคาดว่าจะสามารถสรุปผลการดำเนินการทั้งหมดได้ภายในสิ้นเดือนตุลาคมนี้


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : ตั้งสอบทุจริต สร้างสนามฟุตซอล จ่อหาตัว คนบงการ

view