สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

พัฒนาตนให้เป็นคน AAA

พัฒนาตนให้เป็นคน AAA

จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์




คนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตและหน้าที่การงานนั้น สิ่งสำคัญที่สุดอย่างแรกคือ จะต้องมีจุดมุ่งหมายในใจ

มีทัศนคติที่ดี และท้ายสุดคือมีความรู้ความสามารถ มุ่งมั่นที่จะทำโดยไม่ย่อท้อ แม้จะเจอปัญหาอุปสรรคระหว่างทางก็ตาม ดังนั้นกว่าใครคนหนึ่งจะก้าวขึ้นมาเป็นมืออาชีพที่คนให้การยอมรับ จึงต้องผ่านการเวลาและการพิสูจน์ผลงานพอสมควร

จุดมุ่งหมาย (Aim) มีความสัมพันธ์โดยตรงกับเวลา เพราะถ้าไม่มีเป้าหมาย กำหนดไว้ไม่ชัดเจน หรือให้ความสำคัญกับสิ่งที่ไม่จำเป็น ก็ไม่ต่างจากนักเดินทางที่ไร้แผนที่ ไม่มีเข็มทิศ และเสียเวลาไปกับเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง ดังนั้นการกำหนดทิศทางและเป้าหมายจึงเป็นเรื่องสำคัญ ถ้าใครยังไม่รู้ ยังไม่ได้คิด ยังหาไม่เจอ หรือเอาไว้ก่อน ก็ไม่ต่างจากการพายเรือในอ่าง เหนื่อยก็พัก หนักก็วาง ฆ่าเวลาไปวันๆ ย่อมไม่สามารถพัฒนาตนเองให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอน

ทัศนคติ (Attitude) ผศ.ดร.ชลวิทย์ เจียรจิตต์ อาจารย์และวิทยากรผู้สร้างแรงบันดาลใจ ได้ยกประโยคของ Willie Nelson ที่ว่า “Once you replace negative thoughts with positive ones, you'll start having positive results“ และขยายความไว้ว่า ทัศนคติเชิงบวก จะนำมาซึ่งการนับถือตัวเอง ทำให้เรามองตนเอง และผู้อื่นในแง่ดี มีความคิดที่จะมุ่งสู่ทิศทางที่ต้องการ ทำให้เราปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงได้ง่าย แต่การสร้างให้เรามีทัศนคติเชิงบวกนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย วิธีการที่จะสร้างให้มีทัศนคติเชิงบวกมีหลากหลายวิธี วิธีที่ดีวิธีหนึ่งคือการคุยกับตัวเองและผู้อื่นในด้านบวกทุกวัน โดยพยายามพูดประโยคที่เป็นเชิงบวก ไม่พูดประโยคเชิงลบ พยายามมองตนเองและผู้อื่นในแง่ดี เมื่อเริ่มจะคิดลบเมื่อใดให้รีบใช้ตัวบวกเข้าช่วยทันที

ความสามารถ (Ability) อย่าดูถูกตัวเอง อย่าเกี่ยงงาน อย่าปฏิเสธโอกาส และอย่าท้อถอยเมื่อเจอปัญหาที่ยุ่งยาก เกือบจะเรียกว่าเป็นคาถาการฝึกฝนที่ดีและควรยึดถือไปแล้ว เพราะคนมีความสามารถในการเรียนรู้ นี่เองจึงทำให้มีความสามารถทั้งลึกถึงขั้นที่เรียกว่า “ทักษะ” และกว้างไกลดั่งผู้มี “วิสัยทัศน์”

ด้วย 3 องค์ประกอบดังกล่าว ถ้าใครก็ตามสามารถสร้างความตระหนักให้กับตนเอง ไฝ่รู้และกระตือรือร้นในการที่จะแสวงหา ติดตามความรู้ที่เป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติงานเพิ่มเติมอยู่เสมอ และนำความรู้ที่มีมาพัฒนาศักยภาพของตนเองและผู้อื่น ตลอดจนถ่ายทอดความรู้ที่มีต่อไปเพื่อประโยชน์ขององค์กรโดยรวม นอกจากจะได้ชื่อว่าเป็นคนที่มีคุณภาพระดับ AAA แล้ว ยังถือได้ว่าเป็นคนที่มีคุณประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติอีกด้วย

แต่สำหรับคนทั่วไปที่ไม่สามารถมองตนเห็น ไม่สามารถเป็นได้ในแบบที่ตนเองต้องการแล้ว การฝึกอบรมเป็นวิธีการที่ได้รับความนิยมที่สุดในการพัฒนา “คน” และการฝึกอบรมที่ดีจะต้องมีการวางแผน การเตรียมการ และดำเนินการอย่างเป็นระบบ โดยบุคคลที่สำคัญคือ วิทยากร ต้องมีความรู้ความเข้าใจในกระบวนการฝึกอบรมและแนวคิดเกี่ยวกับการสอนอย่างถูกต้อง จึงจะทำให้การฝึกอบรมมีประสิทธิผลและบรรลุเป้าหมายในที่สุด จึงไม่แปลกที่ทุกองค์กรจำเป็นต้องพัฒนาคนให้สอดรับกับทิศทางขององค์กร

ปัญหาประการหนึ่งสำหรับผู้ที่เป็นวิทยากรภายในหน่วยงาน ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในสาขาวิชาชีพหรือสายงานที่ปฏิบัติ คือการขาดความรู้ และทักษะด้านเทคนิควิธีการถ่ายทอด ความเข้าใจในลักษณะการเรียนรู้ของผู้เข้าอบรม การเตรียมแผนการสอน และอุปกรณ์ต่างๆ ที่เหมาะสม ตลอดจนกระบวนการสอนที่มีประสิทธิภาพ ทำให้เป็นอุปสรรคต่อการบรรลุจุดมุ่งหมายของการอบรมที่กำหนดไว้ ดังนั้นเพื่อให้ผู้ถ่ายทอดความรู้ มีจิตวิทยาและทักษะที่ถูกต้อง

การมีแผนพัฒนาตนเอง หรือที่เรียกว่า Individual Development Plan (IDP) จึงถือว่าเป็นขั้นสูงสุดของการพัฒนาคนในองค์กร เพราะนั่นหมายความว่าองค์กรใส่ใจในพนักงานแต่ละคน ยอมรับในความแตกต่าง และพร้อมที่จะผลักดันทุกคนในแบบที่คนคนนั้นเป็น โดยอาจแบ่งระดับของทัศนคติและความสามารถเป็นขั้นๆ โดยเริ่มต้นตั้งแต่ขั้นที่ 1 คือ เปิดใจพร้อมรับสิ่งใหม่ จนถึงขั้นที่ 4 เป็นตัวอย่างที่ดี และขั้นที่ 5 สามารถสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆให้เกิดขึ้นได้เสมอ ดังนี้

ระดับ 1 Developing ทำใจให้ว่าง เปิดสมองรับสิ่งใหม่ และหิวกระหายที่จะเรียนรู้ นี่คือคุณสมบัติขั้นพื้นฐานของคนที่ไม่เคยหยุดนิ่ง และพร้อมที่จะพัฒนาตนเองอยู่เสมอ เพราะทุกวันมีสิ่งใหม่ให้เราได้เรียนรู้เสมอ

ระดับ 2 Performer ไม่มีทางที่เราจะเข้าใจในอะไรได้ในทันทีที่เราเรียนรู้มัน ไม่ว่าจะตั้งใจฟัง คิดตาม ถามเมื่อมีข้อสงสัย และจดบันทึก แต่การได้ลงมือปฏิบัติ ทำซ้ำๆหลายครั้ง จะพบว่านอกเหนือจากทฤษฎีแล้ว ยังมีสิ่งที่เราต้องเรียนรู้จากการปฏิบัติอีกมาก ถ้าไม่ลงมือทำ ไม่สังเกต ย่อมไม่เข้าใจมันอย่างลึกซึ้ง และแน่นอนทักษะก็จะไม่เกิดขึ้น

ระดับ 3 Proactive ลำพังทักษะความสามารถในงานอันเนื่องมาจากการทำงานซ้ำๆ จนเกิดเทคนิควิธีการเฉพาะสำหรับงานนั้นๆ แต่ถ้าได้ผนวกความคิดเข้าไปด้วย จะทำให้เราสามารถวิเคราะห์สถานการณ์ แก้ปัญหา หรือหาทางป้องกันเพื่อให้บรรลุเป้าหมายในอนาคตได้ ระดับนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการทำงานเชิงรุก

ระดับ 4 Role model สำหรับใครหลายคนในองค์กรที่ก้าวขึ้นมาในระดับที่ 3 ได้แล้ว เพียงเพิ่มเติมทักษะเชิงสังคม อาทิ การสื่อสาร มนุษยสัมพันธ์ การกระตุ้นจูงใจ การสร้างสภาพแวดล้อมที่ดี และได้รับการอบรมเทคนิคการนำเสนอหรือถ่ายทอดเพิ่มเติม จะทำให้ศักยภาพและความสามารถนั้นไม่ได้หยุดอยู่แค่ตัวคุณ หากแต่มันจะแผ่ขยายไปยังคนอื่นรอบข้างด้วย องค์กรใดที่มีบุคลากรในระดับ 4 มาก ผลงานที่ได้ก็จะทวีคูณ

ระดับ 5 Innovator ระดับสูงสุดของการพัฒนาคน คือมีความคิดและจินตนาการที่กว้างไกลออกไป การสร้างสรรค์สิ่งใหม่ หรือการทดลองเพื่อค้นหาสิ่งใหม่ หรือแม้แต่การสร้างแรงบันดาลใจให้แก่คนอื่นๆให้ก้าวผ่านระดับชั้นต่างๆของการพัฒนาตนเองขึ้นมาได้

ทั้ง 5 ระดับ ควรจะมีอยู่ในตัวทุกคน แต่ขึ้นอยู่กับว่าเป็นเรื่องใด ถ้าเราต้องทำอะไรใหม่ๆ นั่นหมายถึงเราต้องทำตัวเป็นระดับที่ 1 ในเรื่องนั้น แต่เมื่อผ่านกาลเวลาไปควรที่จะมีการพัฒนาขึ้นไปในระดับที่สูงขึ้น อย่างน้อยทำให้ได้ในระดับ 4 เพียงเท่านี้คุณก็จะสามารถสร้างผลงานทวีคูณให้แก่องค์กร


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : พัฒนาตน คน AAA

view