สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ยิ่งสาวยิ่งลึก! ศึกส่วยป้ายโฆษณา

จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์

ยิ่งสาวยิ่งลึก “ศึกส่วย” ป้ายโฆษณาแอลอีดี เผยบริษัทยักษ์หน้าใหม่ “แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน)” ลงนามเอ็มโอยูกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ท่ามกลางสักขีพยานตำรวจนครบาล 88 โรงพัก ยิ่งไปกว่านั้น ถัดไปเพียง 3 วันเอกชนเปิดแถลงข่าวเตรียมเข้าตลาดหลักทรัพย์ วงการวิจารณ์แซ่ดงานนี้ “เด็ดดอกไม้ สะเทือนถึงดวงดาว”
       
       ส่วยป้ายโฆษณาที่กำลังส่งผลให้นายตำรวจระดับหัวหน้าสถานีต้องพากันร้อนๆ หนาวๆ ยังไม่มีท่าทีจะจบลงง่ายๆเพราะเมื่อสาวลึกลงไปกลับพบสิ่งไม่ชอบมาพากลมากยิ่งขึ้นจนอาจจะเลยเถิดไปถึงระดับ “บิ๊กตำรวจ” ที่พัวพันกับบริษัทโฆษณายักษ์ใหญ่ซึ่งมิได้มีแต่เพียงบริษัท บางกอกไตรวิชั่น จำกัด หรือ Hello Bangkok ของนายกิตติชัย ศรีจำเริญ เท่านั้น แต่ยังมีบริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) ยักษ์ใหญ่ของวงการสื่อนอกบ้านครบวงจรอีกรายหนึ่งที่กำลังแย่งชิงพื้นที่ทำมาหากินกันอย่างดุเดือด
       
       รายงานแจ้งว่า ภาพชัดเจนถึงความสัมพันธ์ที่ดีต่อ “บิ๊กตำรวจ” เป็นข่าวเผยแพร่ต่อสาธารณะ โดยเมื่อวันที่ 26 ส.ค.ที่ผ่านมาที่ห้องศรียานนท์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบ.ตร.(ขณะนั้น) ในฐานะ ผอ.ศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผอ.ศปจร.ตร.) พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้ช่วย ผบ.ตร.รักษาการแทน ผบช.น เปิดตัวโครงการปฏิทินหมายจับ The Most Wanten By ศปจร.น.โดยมีสมาคมประกันวินาศภัยไทย ชมรมสินไหมยานยนต์สนับสนุนเงินรางวัลนำจับแก่ผู้แจ้งเบาะแสเมื่อสามารถจับกุมผู้ต้องหาตามปฏิทินหมายจับ
       
       จากนั้น พล.ต.อ.สมยศได้ลงนามบันทึกข้อตกลง หรือเอ็มโอยู กับบริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) และมูลนิธิกระจกเงา-สมาคมประกันวินาศภัย เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารกับเผยแพร่ประชาสัมพันธ์การติดตามแจ้งและจับกุมผู้ต้องหาตามปฏิทินหมายจับ ศปจร.น. และข้อมูลคนหายผ่านสื่อดิจิตอล บิลบอร์ด ของบริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) ที่ติดตามสี่แยกต่างๆ ใน กทม.โดยมี พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี ที่ปรึกษา สบ 10 ผู้อำนวยการศูนย์บริการคนหายและศพนิรนาม พล.ต.ท.ก่อเกียรติ วงศ์วรชาติ ผู้ช่วย ผบ.ตร.รอง ผอ.ศูนย์ และข้าราชการตำรวจในสังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาล 88 สถานีร่วมเป็นสักขีพยาน
       
       พล.ต.อ.สมยศกล่าวอีกว่า ทาง ตร.ได้ประสานกับบริษัท แพลนบีฯ เพื่อนำภาพคนหายเผยแพร่ผ่านจอแอลอีดี ของบริษัทฯที่ติดตั้งอยู่ทั่ว กทม.มาตั้งแต่ปี 2556 แต่ยังไม่มีการประชาสัมพันธ์เนื่องจากยังรอดูผลตอบรับซึ่งปรากฏว่าได้ผลดีมาก สามารถตามเด็กหายได้กระทั่งครั้งนี้ พล.ต.ท.จักรทิพย์ และพล.ต.ต.ชาญเทพ เสสะเวส รอง ผบช.น.ในฐานะหัวหน้า ศปจร.น. มีแนวคิดนำหมายจับผู้ต้องหาในคดีโจรกรรมรถมาเผยแพร่ผ่านจอแอลอีดีโฆษณาด้วยเพื่อให้ประชาชนมีส่วนช่วยในการสืบสวน และในอนาคตจะพัฒนานำภาพรถหายเผยแพร่ไปด้วยเป็นการใช้ช่องทางสื่อให้เป็นประโยชน์ในการทำงานได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เป็นการคิดใหม่ คิดต่าง ทำต่างโดยจะเริ่มจาก กทม.ก่อนขยายไปทำแบบเดียวกันในเมืองใหญ่เช่นเชียงใหม่ หาดใหญ่ พัทยา และภูเก็ตต่อไป
       
       รายงานข่าวแจ้งว่า หลังจากนั้นอีกเพียง 3 วันเมื่อวันที่ 29 ส.ค. บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) ได้เปิดแถลงข่าวเตรียมเข้าตลาดหลักทรัพย์ในเร็วๆ นี้ โดยนายปรินทร์ โลจนะโกสินทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท แพลน บี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปีนี้บริษัทพร้อมเข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาเข้าตลาดหลักทรัพย์โดยได้ยื่นไฟลิ่งไปแล้วขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่เหมาะสมจึงจะเข้าสู่กระบวนการจดทะเบียนเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ต่อไป และขณะที่ทำแผนการดำเนินการธุรกิจนั้นช่วง 3-5 ปีหลังจากนี้ยังพร้อมลงทุนต่อเนื่อง มุ่งเน้นการจับมือพันธมิตรในการต่อยอดธุรกิจทั้งในไทยและต่างประเทศโดยเฉพาะในกลุ่มเออีซี
       
       สำหรับรายละเอียดที่บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) ยื่นไฟลิ่งขออนุมัติขายหุ้นไอพีโอ 89.76 ล้านหุ้น มีแผนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ตั้ง บล.บัวหลวงฯเป็นที่ปรึกษา นำเงินที่ได้จากการระดมทุนขยายธุรกิจทั้งใน-ต่างประเทศ ชำระหนี้เงินกู้ และเป็นทุนหมุนเวียน เปิดแผน 1-2 ปี เปลี่ยนสื่อโฆษณาภาพนิ่งเป็นสื่อดิจิตอลในบางจุด เพื่อเพิ่มรายได้
       
       บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) (บมจ.) ประกอบธุรกิจให้บริการและรับจ้างผลิตสื่อโฆษณาภายนอกที่อยู่อาศัยได้ยื่นแบบไฟลิ่งต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อขออนุญาตเสนอขายหุ้นแก่ประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 89.76 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1 บาท
       
       ในแบบไฟลิ่งระบุว่า มีแผนนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) โดยจะเสนอขายให้แก่ประชาชนจำนวน 88.26 ล้านหุ้น และอีก 1.50 ล้านหุ้น เสนอขายให้แก่กรรมการ หรือผู้บริหารของบริษัทและบริษัทย่อย โดยมีบมจ.หลักทรัพย์ (บล.) บัวหลวง เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย (อันเดอร์ไรต์)
       
       สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนจะนำไปใช้ในการขยายธุรกิจของบริษัททั้งในประเทศ และต่างประเทศ เช่น ลงทุนเพิ่มพื้นที่โฆษณาลงทุนติดตั้งจอดิจิตอลเพิ่มเติม รวมถึงขยายธุรกิจสู่ประเทศในอาเซียน นอกจากนี้ เงินบางส่วนจะนำไปชำระคืนเงินกู้ระยะยาว และหนี้ตามสัญญาเช่าการเงิน และที่เหลือใช้เป็นทุนหมุนเวียน และขยายธุรกิจในอนาคต
       
       ส่วนโครงการอนาคตในระยะ 1-2 ปีนี้ บมจ.แพลน บี มีเดีย วางแผนเปลี่ยนสื่อโฆษณาภาพนิ่งเป็นสื่อดิจิตอล ซึ่งจะเพิ่มรายได้สื่อโฆษณา และยังเป็นการเพิ่มทางเลือก และประสิทธิภาพของพื้นที่โฆษณาในตำแหน่งนั้นๆ ให้แก่ผู้ใช้บริการสื่ออีกด้วย อย่างไรก็ตามจะเปลี่ยนเฉพาะจุดที่มีศักยภาพ หรือเหมาะสมกับสื่อประเภทดิจิตอลเท่านั้น โดยยังให้ความสำคัญกับสื่อโฆษณาแบบภาพนิ่ง ด้วยการเน้นขยายสื่อโฆษณากลางแจ้งบริเวณริมถนนเส้นทางหลักทั่วประเทศบนทางด่วน และหรือสื่อโฆษณาภายในห้างสรรพสินค้า
       
       นอกจากนี้ยังมีโครงการขยายสื่อโฆษณาสู่ระดับภูมิภาค โดยเอ็มเทค กรุ๊ป (Emtek Group) ผู้ถือหุ้นรายใหญ่เชิงกลยุทธ์เข้ามาเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ จึงให้ความสำคัญกับการรักษาข้อได้เปรียบทางการแข่งขัน โดยเน้นการใช้จุดแข็งของบริษัท และพันธมิตรเข้ามาใช้ขยายธุรกิจ
       
       ทั้งนี้ โครงสร้างผู้ถือหุ้นรายใหญ่ บมจ.แพลน บี มีเดีย มีนายปรินทร์ โลจนะโกสินทร์ สัดส่วน 33.40% หลังขายหุ้นไอพีโอจะลดเหลือ 24.80% รองลงมา ได้แก่ บริษัท แพลน บี อินเวสเม้นท์ โฮลดิ้ง จำกัด และบริษัท เอ๊าท์ดอร์ มีเดีย อินเวสเม้นท์ จำกัด ซึ่งทั้ง 2 บริษัทจดทะเบียนในฮ่องกง ประกอบธุรกิจลงทุนถือหุ้นรายละ 19.90% ภายหลังไอพีโอ จะลดเหลือรายละ 14.80% และกลุ่มพีที อีลัง มาโคตา เทคโนโลยี ทีบีเค ถือหุ้น 10% ภายหลังไอพีโอจะลดเหลือ 7.4% (กลุ่มพีที อีลัง มาโคตา เทคโนโลยี ทีบีเค มีเอ็มเท็ค กรุ๊ป, แพลน บี อินเวสเม้นท์ โฮลดิ้ง และเอ๊าท์ดอร์ มีเดีย อินเวสเม้นท์ เป็นผู้ถือหุ้น)
       
       จากรายงานดังกล่าวจึงมีเหตุอันควรสงสัยว่า แท้จริงแล้วปฏิบัติการดับเครื่องชนของ พล.ต.ต.ศีวราห์ รังสิพราหมณกุล รรท.ผบช.น.ต้องการปัดกวาดบ้านตัวเอง หรือส่งแรงสะเทือนไปถึงใคร เนื่องจากในปัจจุบันบริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) ได้แชร์พื้นที่ในส่วนที่ตำรวจตามสถานีต่างๆ ทั่ว กทม.ไปจากบริษัท บางกอกไตรวิชั่น จำกัดแล้วในส่วนหนึ่ง และการลงเอ็มโอยูของ พล.ต.อ.สมยศ ในขณะที่ยังเป็นรอง ผบ.ตร.นั้นย่อมยืนยันเจตนารมณ์สนับสนุนป้ายโฆษณาแอลอีดีของบริษัท แพลน บี มีเดีย อย่างเต็มที่ ถึงกับประกาศต่อตำรวจนครบาล 88 โรงพักที่ร่วมเป็นสักขีพยานว่านี่คือการ “คิดใหม่ คิดต่าง ทำต่าง” ด้วยความภาคภูมิใจ


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : ยิ่งสาวยิ่งลึก ศึกส่วยป้ายโฆษณา

view