จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
ธีรพล แซ่ตั้ง
เคยสงสัยมั้ยว่าทำไมลูกน้องของท่านถึงแตกต่างกันมากทั้ง ลักษณะนิสัย พฤติกรรม ความขี้เกียจ เฉื่อยชา ขยัน ทุ่มเท
ความแตกต่างทั้งหมดนี้ ส่งผลให้เกิดความแตกต่างในเรื่อง "ผลงานของแต่ละคน" ที่ส่วนมาก ผลงานงั้นๆ บางคนผลงานแย่เอามากๆ แต่มีน้อยคนที่ผลงานดีหรือเป็นไปอย่างที่ท่านต้องการ!
ผมจะพาท่านย้อนเวลาไปหาอดีตของสาเหตุที่ทำให้ลูกน้องของท่าน..แตกต่างกันเหลือเกิน!
1.เริ่มต้นที่ ครอบครัว
ครอบครัวจำนวนไม่น้อย ไม่เคยหล่อหลอมให้ลูกเป็นนักสู้ แต่มักจะตามใจ จนทำให้กลายเป็นเด็กเอาแต่ใจตัวเอง ถูกเลี้ยงแบบโอ๋แบบตามใจไปซะทุกเรื่อง ปกป้องลูกในทางที่ผิด จนโตมากลายเป็นคนที่เอาตัวเองเป็นศูนย์กลางของจักรวาล!
หรือบางครอบครัว ก็หล่อหลอมอย่างไม่ตั้งใจแบบผิดๆ ดุด่าว่ากล่าว หรือตีลูกตลอดเวลา จนทำให้เด็กบางส่วนกลายเป็นเด็กที่ขาดความมั่นใจในตัวเอง ฝังลงไปในจิตใต้สำนึก ก่อให้เกิดบุคลิกภาพที่เป็นคนขี้กลัว ขาดความมั่นใจในการคิด การแสดงออกและการทำงาน
มีน้อยมาก ที่จะหล่อหลอมลูกอย่างถูกวิธี สอนด้วยเหตุด้วยผล ฝึกฝนลูกให้ลองเผชิญปัญหาและอุปสรรคตั้งแต่เด็กๆ เพื่อให้เติบโตเป็นคนที่มี "คุณภาพ" และประสบความสำเร็จด้วยจิตใจที่แข็งแกร่ง
(แต่ก็มีคนส่วนน้อยเท่านั้น ที่เติบโตมาโดยปราศจากครอบครัว และยากจน แล้วประสบความสำเร็จได้ แต่ก็เพราะได้รับการบ่มเพาะ หล่อหลอมจากสภาพแวดล้อมที่ลำบากจนทำให้มีสภาพจิตใจที่แข็งแกร่ง ใฝ่ดี มุ่งมั่น จนเป็นมหาเศรษฐีได้)
2.สถาบันการศึกษา และกลุ่มเพื่อนๆ
สถาบันการศึกษาก็มีส่วนไม่น้อยที่จะหล่อหลอมให้เป็นแค่ "นักศึกษาที่ได้แค่ปริญญา" หรือ "นักเรียนรู้ เพื่อเตรียมความพร้อม" ก่อนไปเผชิญโลกที่แท้จริงที่ไม่ได้มีแค่ เรียน-กิจกรรม-สนุกสนานไปวันๆ
ครู-อาจารย์จำนวนไม่น้อย เป็นผู้จุดประกาย สร้าง แรงบันดาลใจให้กับเด็กหลายคน เป็นคนที่มีเป้าหมายที่ชัดเจน ไปจนถึงประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่..
กลุ่มเพื่อนๆ ที่คบตั้งแต่อดีต มาจนถึงกลุ่มเพื่อนเก่าและเพื่อนใหม่ๆ ที่คบหา สนิทสนมในปัจจุบัน ก็เป็นองค์ประกอบที่สำคัญ ที่ "หล่อหลอมกันและกันแบบไม่ตั้งใจ" ให้เป็นคนเหลาะแหละ คนที่รักความสนุกสนานไปวันๆ หรือคนที่มีคุณภาพ..
แต่ถ้ากลุ่มเพื่อนสนิททั้งส่วนตัวและเพื่อนร่วมงาน เป็นกลุ่มคนที่มีคุณภาพ เป็นกลุ่มคนที่มีเป้าหมายที่ชัดเจนที่จะพัฒนาตัวเองให้ไปสู่ความสำเร็จ ลูกน้องของท่านก็จะมีลักษณะคล้ายๆ กลุ่มที่คบเช่นกัน..กฏแห่งแรงดึงดูดไงครับ!
"คนล้มเหลวก็จะแวดล้อมไปด้วยคนที่ล้มเหลว..คนที่ประสบความสำเร็จ ก็จะนำตัวเองไปพบและคลุกคลี เรียนรู้ พัฒนาร่วมกับกลุ่มคนที่ประสบความสำเร็จเช่นกัน!"
3.วัฒนธรรมของหน่วยงาน-องค์กร
เมื่อได้มาทำงาน ไม่ว่าจะเป็นที่ทำงานเดิม หรือที่ทำงานในปัจจุบัน..เป็นเบ้าหลอมล่าสุด ที่ทำให้ลูกน้องแต่ละคนของท่าน เป็นแบบนี้ในทุกวันนี้
ถ้าวัฒนธรรมขององค์กร โดยเฉพาะหน่วยงานที่ทำ เป็นแบบตัวใครตัวมัน เห็นแก่ตัว หรือเฉื่อยชาไปวันๆ ก็ไม่ต้องแปลกใจ ที่ลูกน้องของท่าน..จะด้อยคุณภาพและหน่วยงานอุดมไปด้วยปัญหาหมักหมม ที่ไม่มีใครใส่ใจจะแก้ไข!
จากองค์ประกอบหลักๆ ที่หล่อหลอม เริ่มตั้งแต่ ครอบครัว-สถาบันการศึกษาและกลุ่มเพื่อนสนิทที่คบในปัจจุบัน-จนถึงวัฒนธรรมองค์กรและหน่วยงานในที่ทำงาน..หล่อหลอมให้ ลูกน้องของท่านเป็นแบบนี้..
คราวนี้ก็ขึ้นอยู่กับ "บุคคลสำคัญ" ที่จะปล่อยให้ลูกน้องของท่าน..แย่แบบที่เป็นอยู่ หรือพัฒนาให้ดีขึ้น หรือถ้าดีอยู่แล้วจะรักษาและต่อยอดอย่างไร..คนๆ นั้นไม่ใช่ใครหรอกครับ คือ
4.หัวหน้า-เจ้านายในอดีต ถึง ปัจจุบัน (ก็คือตัวท่านนั่นแหละ)
ถ้าท่าน "เมินเฉย-ปล่อยปละ ละเลย" ให้ อดีตและปัจจุบัน "หล่อหลอม" ลูกน้องของท่าน โดยที่ท่าน "ไม่ได้มีส่วน หล่อหลอม" ปลูกฝัง บ่มเพาะ ทัศนคติที่ถูกต้องในการใช้ชีวิตและการทำงาน ไม่ได้พัฒนาเสริมสร้างทักษะให้กับลูกน้องของท่านเลย..ก็ไม่ต้องแปลกใจ ที่ลูกน้องของท่านจะแต่ลูกน้องที่ "ด้อยคุณภาพ"
แต่ถ้าท่าน หล่อหลอม คนของท่าน ไม่ว่าจะด้วยการ Coaching หรือในรูปแบบใดๆ ก็ได้ที่ท่านถนัดและเหมาะสม ก็ไม่ต้องกังวลว่าคนของท่านจะไม่มีคุณภาพ!
เพราะฉะนั้น ลงมือเถอะครับ เพราะ "หน้าที่หลักของท่าน" ไม่ว่าจะเป็นแค่ระดับ หัวหน้างาน หรือ ระดับผู้จัดการ หรือ ผู้บริหารระดับสูง คือ "การหล่อหลอม"
ไม่ใช่หมดเวลาไปวันๆ กับการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าและการประชุมที่ฟุ่มเฟือยกันทั้งวัน!
สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน
