จากประชาชาติธุรกิจ

คอลัมน์ สามัญสำนึก โดย สกุณา ประยูรศุข

จบลงอย่างเรียบร้อยและได้ประโยชน์ทุกฝ่ายสำหรับการสัมมนาของกองบรรณาธิการ "ประชาชาติธุรกิจ" ซึ่งจัดขึ้นเป็นการส่งท้ายปี 2557 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ในหัวข้อ "Looking Forward อนาคตไทยปี′58"

โดยปกติแล้วการจัดสัมมนาแต่ละครั้ง ของกองบรรณาธิการ เราจะคิดและทำการบ้านกันหนัก เพื่อให้ได้สิ่งที่คุ้มค่าเป็นประโยชน์กับคนหมู่มาก โดยเฉพาะกับผู้อ่านของเราอย่างแท้จริง

สัมมนาครั้งนี้ก็เช่นกัน เราคิดหนัก ทำการบ้านหนัก เพราะรู้ดีว่าปัญหาใหญ่ของชาติบ้านเมืองเวลานี้คือ เศรษฐกิจ ซึ่ง ไม่ใช่ปัญหาเศรษฐกิจธรรมดา แต่เข้าขั้นวิกฤต แบบเผชิญมรสุมและแผ่นดินไหวไปพร้อม ๆ กัน และไม่ใช่แค่ปีสองปี แต่เป็น อาฟเตอร์ช็อก ที่ต่อเนื่องกันมาหนึ่งทศวรรษ แรงบ้าง เบาบ้าง สลับกันไป

หาก จะยอมรับความจริงกัน ก็ต้องพูดว่า "เศรษฐกิจเราไม่เคยฟื้นเลย" มีแต่ทรงกับทรุด ที่กล่าวเช่นนี้ขอย้ำว่าเป็นความรู้สึกล้วน ๆ ไม่มีอ้างอิงทฤษฎีเศรษฐศาสตร์ใด ๆ และเป็นการมองโดยวัดจากฐานเดิมของเศรษฐกิจไทย กล่าวคือเมื่อฐานเดิมที่ผ่านมามันต่ำ ฐานของปีถัดไปเมื่อนำมาเปรียบเทียบวัดกัน ย่อมดีขึ้น โตขึ้น เป็นธรรมดา ไม่ใช่ดีขึ้นเพราะเศรษฐกิจดีจริง ๆ

ยิ่งสถานการณ์ในทุกวันนี้ สังเกตได้จากร้านค้าแถวบ้าน ไม่ว่าร้านขายอาหาร ร้านขายของชำ ฯลฯ ปกติแล้วจะมีคนซื้อข้าวของกันคึกคัก เดินเข้าเดินออก แต่ถึงวันนี้ค่อนข้างเงียบเหงาซบเซา มีบางร้านที่ต้องปิดร้านหายไป

จำได้ว่าเมื่อปีที่แล้วพูดกันว่า "ปีที่แล้วเผาหลอก ปีนี้เผาจริง" พอมาถึงปีนี้ก็ยังบอกอีกว่า "ปีนี้เผาหลอก ปีหน้าเผาจริง" เลยไม่รู้ว่าความจริงนั้นคืออะไร ปีไหนจะเผาจริงเสียที

เมื่อ ปัญหายังวกวน หาทางแก้ไขไม่ได้ มิหนำซ้ำยังมีการทำให้เกิดภาพมายา ทำให้เกิดการเข้าใจปัญหาหรือตรรกะบางอย่างเกี่ยวกับตัวเลขทางเศรษฐกิจผิด เพี้ยน ดังนั้น โอกาสนี้จึงเป็นช่วงเวลาที่ต้องนำเสนอ "ข้อเท็จจริง" ผ่านการสัมมนาดังกล่าว ให้ประชาชนได้รับรู้ เพื่อให้ทั้งภาครัฐ เอกชน โดยเฉพาะนักธุรกิจ นักลงทุน ผู้ประกอบการทั้งหลาย ได้มองเห็นหนทางที่จะเดินหน้าต่อไป

เป็นการ "สร้างความหวัง" ไม่ใช่ทำให้ "สิ้นหวัง"

ด้วย เพราะเชื่อว่า "ข้อเท็จจริง" ที่เรามองกันอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีการปรุงแต่งเท่านั้น ที่จะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาได้อย่าง "ถูกต้อง" และ "เป็นรูปธรรม" ไม่หลงเพ้อฝัน หรือคิดเข้าข้างตัวเอง

องค์ปาฐกครั้ง นี้ "ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์" ซึ่งเพิ่งได้รับแต่งตั้งเป็นประธานคณะที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีหมาด ๆ ให้เกียรติขึ้นเวทีพูดถึงอนาคตประเทศไทยในปี 2558 แม้จะไม่ได้ชี้ชัดลงไปว่าปีหน้าอนาคตไทยจะเป็นอย่างไร แต่สิ่งที่ได้รับฟังแล้วเป็น "ข้อเท็จจริง" รวมทั้งรู้สึกได้ คือ "ความหวัง"

เป็น "ความหวัง" ที่ว่าอนาคตข้างหน้าประเทศไทยยังมีโอกาสจะฟื้นคืนตัว ในด้านเศรษฐกิจ และด้านอื่น ๆ เราจะมีการเลือกตั้ง เราจะมีรัฐบาลประชาธิปไตย

"จริง ๆ เศรษฐกิจปีนี้ดูซบเซา แต่หากตั้งสติดี ๆ คิดถึงสิ่งที่เป็นมาตั้งแต่ต้นปี ในวันนี้สถานการณ์ทรงตัว และมีแนวโน้มดีขึ้น อย่างน้อยบ้านเมืองก็สงบขึ้น เพียงแต่ภาวะเศรษฐกิจไม่กระฉับกระเฉงเท่าที่ควร มนุษย์เป็นผู้กำหนดเศรษฐกิจ ถ้ามนุษย์ไม่มีความหวังก็จะหยุดกระทำสิ่งที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ เศรษฐกิจก็จะซบเซา ต่อให้ปั๊มเงินเข้าระบบเท่าไหร่ก็ไม่เกิดผล.."

เพราะ ฉะนั้น ถึงตอนนี้จึงขึ้นอยู่กับคนไทยทุกคน ที่จะต้องสร้างอนาคตของประเทศ ทำให้เกิดความเชื่อมั่น สร้างความหวัง เพื่อนำไปสู่การร่วมมือกันพัฒนาฟื้นฟูประเทศอย่างจริงจัง

โดยทุกอย่างต้องอยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริง

สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน