สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

เมกาเทรนด์-แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงธุรกิจโลก (1)

จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
เรวัติ ตันตยานนท์



เมกาเทรนด์ ก็คือแนวโน้มในอนาคตที่สำคัญของโลก และเป็นแนวโน้มที่จะต้องเกิดขึ้น เพียงแต่จะช้าหรือเร็ว เท่านั้น

มีผู้ให้คำนิยามไว้ว่า เมกาเทรนด์ (Mega Trend) คือ แรงขับเคลื่อนที่ผลักดันการพัฒนาเศรษฐศาสตร์มหภาคในระดับโลก ที่จะทำให้เกิดผลกระทบต่อ ธุรกิจ เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และการดำรงชีวิตของมนุษย์ ให้เป็นไปตามแรงขับเคลื่อนที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา

เมกาเทรนด์ จะเป็นตัวกำหนดความเป็นไปของโลกในอนาคต และความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ จะเกิดขึ้นในลักษณะที่ผันผวนและมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นได้ในช่วงเวลาที่สั้นลงเรื่อยๆ

มีนักอนาคตศาสตร์หลายค่ายหลายสำนัก ที่ทำนายเมกาเทรนด์ของโลก ในแง่มุมต่างๆ กันมากมาย แต่แนวโน้มที่สำคัญที่น่าสนใจ สำหรับโลกในปี 2020 ที่จะมีผลกระทบในเชิงธุรกิจ ซึ่งผู้บริหารหรือเจ้าของธุรกิจ ควรให้ความสนใจติดตาม ได้แก่ เมกาเทรนด์ 6 เรื่อง ที่สำคัญ

ได้แก่ 1) การขยายตัวของสังคมเมือง 2) การเปลี่ยนแปลงทางสังคม 3) การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ 4) การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี 5) พลังงานและสภาวะแวดล้อม และ 6) การพัฒนาสาธารณูปโภค

โดยในแต่ละ เมกาเทรนด์ จะมีทิศทางต่างๆ ดังนี้

1. การขยายตัวของสังคมเมือง

สังคมเมืองจะขยายตัวออกไปอย่างรวดเร็วในรูปแบบของการมีเมืองหลักเกิดขึ้นมากก่อน แล้วเมืองเล็กๆ ที่อยู่รอบข้างจะเชื่อมโยงเข้ามา ทำให้ขอบเขตหรือปริมณฑลของเมืองหลักจะขยายตัวกว้างออกไป ทำให้เกิดผลกระทบต่อระบบของเมือง เช่น การเชื่อมโยงการเดินทาง ลักษณะของการทำงานและการหางานทำ รวมไปถึงวิถีทางการดำรงชีวิตในสังคมของผู้คนในเมืองใหญ่

การขยายตัวของสังคมเมือง จะเกิดขึ้นใน 3 ระดับคือ การเกิด เมืองใหญ่ (Mega city) ที่เป็นการรวมตัวของเมืองหลัก กับเมืองปริมณฑลใกล้เคียงเชื่อมต่อกัน และมีจำนวนประชากรรวมกันตั้งแต่ 5 ล้านคนขึ้นไป

การขยายตัวของเมืองในรูปแบบนี้ จะสร้างผลกระทบต่อเนื่องทำให้เกิด ภูมิภาคที่เรียกว่า มหภูมิภาค หรือ Mega Regions ด้วยการเชื่อมโยงเป็นกลุ่มของเมืองขนาดใหญ่ในระดับ Mega City ตั้งแต่ 2 เมืองขึ้นไป ทำให้เกิดภูมิภาคที่มีประชากรในระดับมากกว่า 12 ล้านคนขึ้นไป แต่ละ Mega City หรือ Mega Regions จะเชื่อมโยงกับผ่านระบบคมนาคมขนส่งในลักษณะที่เรียกว่าเป็นช่องทางเชื่อมโยงขนาดใหญ่ หรือ Mega Corridor

ภาพเหล่านี้ ได้เริ่มเห็นได้ในภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลกกันแล้ว

การขยายตัวของเมือง ยังจะนำไปสู่การเกิด สมาร์ทซิตี้ หรือเมืองอัจฉริยะ ที่นำเทคโนโลยีและระบบสาธารณูปโภคเมืองที่ทันสมัยมาใช้ โดยอาศัยวิธีแบ่งปันและเฉลี่ยการใช้ทรัพยากรอย่างชาญฉลาด ไม่ว่าจะเป็นการใช้ไฟฟ้า พลังงาน น้ำ อาคาร หรือแม้กระทั่งถนน ในลักษณะที่คนส่วนใหญ่จะได้ประโยชน์ใช้สอยร่วมกันมากที่สุด ไม่ปล่อยให้ทรัพยกรหรือสาธารณูปโภคส่วนใดส่วนหนึ่งต้องถูกปล่อยทิ้งไม่ได้ใช้ในช่วงเวลาต่างๆ อย่างฟุ่มเฟือย

2. การเปลี่ยนแปลงทางสังคม

ในปี 2020 ประชากรของโลกจะถูกครอบงำด้วยเจเนอร์เรชัน Y ซึ่งเป็นผู้ที่มีการศึกษาดี มีฐานะมั่นคง มีความมุ่งมั่น และสามารถใช้และเข้าใจเทคโนโลยีได้เป็นอย่างดี มีความเชื่อมั่นในคุณค่าของตนเอง มีทัศนคติและการใช้ชีวิตเป็นของตนเอง ซึ่งจะเปลี่ยนรูปแบบของการบริโภค การตลาด และการคิดค้นผลิตภัณฑ์หรือสินค้าต่างๆ ไปอย่างมากมาย

พลังของสตรี จะได้รับการยอมรับมากขึ้นในฐานะผู้บริหารสูงสุดขององค์กร ไม่ว่าจะเป็นในด้านของการบริหารจัดการ การจัดการทางการเงิน และเป็นผู้นำแถวหน้าขององค์กรและครอบครัวไปพร้อมๆ กันได้อย่างกลมกลืน รวมไปถึงในแวดวงของผู้นำทางการเมืองด้วย

สังคมจะเปลี่ยนจากการมุ่งออกไปแสวงหาโอกาสของชีวิตที่ดีกว่าในต่างประเทศ มาสู่สภาวะมันสมองไหลกลับ ผู้ที่ไปศึกษาหรือทำมาหากินในประเทศที่เจริญแล้ว จะเคลื่อนย้ายกลับมายังบ้านเกิดเมืองนอนของตนเอง และนำประสบการณ์ที่ได้รับมาพัฒนาสังคมบ้านเกิดมากขึ้น

3. การเปลี่ยนแปลงทางเศรฐกิจ

ชนชั้นกลางจะมีฐานะทางการเงินที่ดีขึ้น และจะเพิ่มจำนวนมากขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะคนชั้นกลางในจีน อินเดีย และในอาฟริกา ทำให้อำนาจซื้อของโลกเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล และกลุ่มชนชั้นกลาง จะกลายมาเป็นกลุ่มเป้าหมายทางการตลาดที่สำคัญที่สุด

ประเทศที่เคยเป็นผู้กุมอำนาจทางเศรษฐกิจของโลก จะเปลี่ยนไปจากในปัจจุบันที่เป็นประเทศในซีกโลกตะวันตก กระจายมาสู่ประเทศที่มีประชากรจำนวนมากที่เป็นตลาดหลักในการบริโภค ไม่ว่าจะเป็นประเทศในกลุ่ม BRIC หรือ บราซิล รัสเซีย อินเดีย และจีน มาสู่ประเทศอื่นๆ เช่น เมกซิโก อินโดนีเซีย อิหร่าน ไนจีเรีย ฯลฯ

จุดศูนย์กลางของงานบริการหรืองานจัดจ้าง จะเปลี่ยนจากแหล่งหรือประเทศที่มีค่าแรงถูก ไปยังประเทศที่มีความสามารถเฉพาะทาง เช่น งานวิจัย งานบริการทางธุรกิจ ซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ หรืองานพัฒนาผลิตภัณฑ์ ซึ่ง ศูนย์กลางของงานบริการเหล่านี้ จะย้ายไปอยู่ในทวิปเอเซีย หรือ ลาตินอเมริกา มากขึ้น

ธุรกิจขนาดใหญ่ของโลก เช่น บริษัทในการจัดลำดับของ ฟอร์จูน 500 จะมีสัดส่วนของบริษัทในทวีปเอเซียมากขึ้น โดยเฉพาะบริษัทของจีน และอินเดีย ทิศทางในการทำธุรกิจ จะปรับเปลี่ยนไปในรูปของภาคีหรือการรวมตัวทางการค้าต่างๆ โดยรัฐบาลของแต่ละประเทศ จะหันหน้าเข้ามาเป็นสมาชิกในภาคีการค้าระหว่างกัน ไม่ว่าจะเป็น ทวิภาคี หรือ พหุภาคีมากขึ้น เพื่อเพิ่มปริมาณการค้าของประเทศให้มากขึ้น สำหรับสัปดาห์นี้ ด้วยข้อจำกัดของพื้นที่ คงไม่สามารถที่จะนำ เมกาเทรนด์ ทั้ง 6 ด้านสำคัญทางธุรกิจมาเล่าให้ท่านผู้ฟังได้ครบถ้วน

ต้องขออนุญาตนำ เมกาเทรนด์ที่เหลืออีก 3 แนวโน้ม ไปเล่าต่อในครั้งต่อไปก็แล้วกัน ครับ!!!!


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : เมกาเทรนด์ แนวโน้ม การเปลี่ยนแปลงธุรกิจโลก (1)

view