สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

เมกาเทรนด์-แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงธุรกิจโลก (จบ)

จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
เรวัติ ตันตยานนท์



บทความที่ผ่านมา ได้นำเสนอเกี่ยวกับ Mega Trend แนวโน้มสำคัญที่จะกระทบต่อการดำเนินธุรกิจในอนาคต

ซึ่งมีอยู่ 6 เรื่องใหญ่ๆ ด้วยกัน ได้แก่ 1) การขยายตัวของสังคมเมือง 2) การเปลี่ยนแปลงทางสังคม 3) การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ 4) การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี 5) พลังงานและสภาวะแวดล้อม และ 6) การพัฒนาสาธารณูปโภค

สัปดาห์นี้ ก็ขอต้อนรับท่านผู้อ่านเข้าสู่ศักราชใหม่ 2558 ด้วยเรื่องราวของ เมกาเทรนด์ ที่ค้างมาจากสัปดาห์ก่อน อีก 3 เรื่อง มาเล่าต่อให้จบ ซึ่งจะเริ่มจาก

4. การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี

แนวโน้มสำคัญจะอยู่ที่การขยายตัวของเทคโนโลยี คลาวด์คอมพิวติ้ง (Cloud Computing) ซึ่งได้เริ่มก่อตัวขึ้นมาให้เห็นแล้วในปัจจุบันนี้ เทคโนโลยีคลาวด์ ในปี 2020 จะมีความฉลาดมากขึ้น และจะกลายเป็นมาตรฐานของระบบคอมพิวเตอร์สำหรับธุรกิจและสังคมทั่วไปที่จะหันมาใช้กันอย่างแพร่หลายในอนาคต

บรรยากาศโดยรอบของโลก จะเต็มไปด้วยดาวเทียมสื่อสารที่จะนำมาใช้ในเชิงธุรกิจ นอกเหนือไปจากการใช้งานในด้านการทหาร หรือด้านวิทยาศาสตร์แต่อย่างเดียว ดาวเทียมเพื่อการพาณิชย์ จะทำให้การสื่อสารไร้สายทำให้รวดเร็วมากขึ้น ด้วยการเพิ่มขนาดของแบนด์วิธ หรือช่วงคลื่นที่ใช้ในการสื่อสาร ระบบการระบุตำแหน่งบนผิวโลก หรือ GPS จะเข้ามามีบทบาทในการทำธุรกิจและการคมนาคมในชีวิตประจำวัน

การสื่อสารแบบไร้มนุษย์ หรือ machine-to-Machine หรือ M2M จะเพิ่มมากขึ้นโดยอาศัยปัญญาประดิษฐ์ของเครื่องจักรกล ที่มีความสามารถในการสื่อสารซึ่งกันและกันโดยไม่ต้องอาศัยมนุษย์เป็นตัวกลาง

การแสดงผลแบบเสมือนจริง (Virtual Reality) จะพัฒนาไปสู่การเกิด โลกเสมือนจริง หรือ Virtual World ด้วยการพัฒนาจอภาพในระบบ 3 มิติ ที่ทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์แสดงผลได้เหมือนกับการเข้าไปอยู่ในสถานที่จริง นำไปสู่วิธีการเรียนรู้หรือการศึกษาวิชาการต่างๆ ได้อย่างเห็นภาพพจน์ สามารถนำไปใช้ทางการแพทย์และการรักษาผู้ป่วยที่อยู่คนละสถานที่กับแพทย์ผู้รักษา และช่วยเพิ่มความสัมพันธ์ในระหว่างการติดต่อสื่อสาร ใกล้เคียงกับได้พบปะกันจริงด้วยตัวเอง และแน่นอนว่า จะต้องมีอิทธิพลอย่างมากต่อการทำธุรกิจในอนาคตอีกด้วย

เทคโนโลยีหุ่นยนต์ จะพบเห็นได้ทั่วไป ทั้งในด้านของการผลิตสินค้า การขนส่ง การปฏิบัติงานที่ยากหรือเสี่ยงภัย งานด้านอวกาศ ตลอดจนการนำหุ่นยนต์มาใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น หุ่นยนต์คนใช้ หุ่นยนต์ให้บริการ และอาจจะเลยไปถึงการใช้หุ่นยนต์ในการตัดสินใจแทนมนุษย์

อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ จะกลายมาเป็นอุปกรณ์สวมใส่ติดกับตัว (Wearable computing) หรือเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย สามารถใช้งานได้ตลอดเวลา สังคมออนไลน์หรือโซเชียลเน็ตเวิร์ค จะทำได้อย่างสะดวกสบายและรวดเร็วยิ่งขึ้น เทคโนโลยีไร้สาย จะขยายตัวไปทุกซอกทุกมุม โดยเทคโนโลยีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Wi-Fi, RFID ทำให้เกิดเครือข่ายอิเล็กทรอนิกส์เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของสาธารณูปโภคที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้โดยง่าย สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นตามความก้าวหน้าของศาสตร์ด้านนาโน และความก้าวหน้าทางด้านวัสดุศาสตร์

5. พลังงานและสภาวะแวดล้อม

กำลังการผลิตไฟฟ้าส่วนใหญ่ของโลก จะเคลื่อนไปยังประเทศที่มีการพัฒนาทางเศรษฐกิจในอัตราที่เติบโตสูง เช่น จีน และอินเดีย เชื้อเพลิงที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้า จะเปลี่ยนจากแหล่งเชื้อเพลิงที่ใช้แล้วหมดไป เช่น ถ่านหิน หรือ ปิโตรเลียม มาเป็นแหล่งพลังงานหมุนเวียน พลังงานจากชีวมวล หรือ พลังงานนิวเคลียร์มากขึ้น

เทคโนโลยีด้านพลังงาน จะพัฒนาเข้าสู่การลดมลพิษ เช่น พลังงานลม พลังงานคลื่นทะเล พลังงานจากแสงอาทิตย์

รถยนต์หรือยานพาหนะต่างๆ จะเปลี่ยนเข้าสู่โหมดของการใช้เครื่องยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มที่ ยานพาหนะ 2 ล้อ จะมีบทบาทมากขึ้นในการใช้เคลื่อนที่ไปมาในมหานครขนาดใหญ่ และเราอาจจะได้เห็นเครื่องบินหรืออากาศยานที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าก็เป็นได้

6. การพัฒนาสาธารณูปโภค

การบริหารจัดการสาธารณูปโภค จะปรับเปลี่ยนไปตามขนาดของเมืองที่ใหญ่ขึ้น และซับซ้อนมากขึ้น นับตั้งแต่ถนนหนทาง การขนส่งมวลชนระบบราง ที่จะใช้เชื่อมต่อ Mega Corridor ต่างๆ ที่จะเป็นแกนกลางให้เกิด ชุมชน อุตสาหกรรม หรือศูนย์กลางการพัฒนาต่างๆ ตามแนวขอบของ Mega Corridor เหล่านี้

สาธารณูปโภคต่างๆ จะถูกเก็บค่าบริการตามจำนวนและเวลาที่ใช้ โดยเน้นไปที่การเฉลี่ยการใช้สาธารณูปโภคอย่างทั่วถึงและเท่าเทียมกัน

ในระดับโรงงานผลิตสินค้า การผลิตจะใช้ระบบอัตโนมัติ หุ่นยนต์อุตสาหกรรม และระบบควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์เข้ามาแทนแรงงาน ทำให้สามารถผลิตสินค้าได้ตรงความต้องการเป็นรายชิ้น และมีอัตราเร็วในการผลิตมากขึ้น ผู้บริโภคอาจสามารถออกแบบและสั่งสินค้าในรูปแบบเฉพาะที่ต้องการได้โดยผ่านเครือข่ายโทรศัพท์มือถือที่เชื่อมโยงกันได้อย่างสมบูรณ์

เมกาเทรนด์ ต่างๆ ดังที่กล่าวมานี้ จะมีความหมายและทำให้เกิดผลกระทบต่อธุรกิจต่างๆ ในระดับอุตสาหกรรม ระดับบริษัท และระดับบุคคล ได้แตกต่างกันตามการปรับตัวหรือตามกลยุทธ์ในอนาคตที่ทางธุรกิจวางแผนไว้ การเตรียมธุรกิจให้พร้อมรับกับเมกาเทรนด์ ที่สอดคล้องกับแนวทางการดำเนินธุรกิจ จะทำให้ธุรกิจกำหนดทิศทางอนาคตของธุรกิจได้อย่างแม่นยำมากขึ้น

เมื่อศึกษาและทราบถึงแนวโน้มเมกาเทรนด์ แล้ว ธุรกิจจะต้องนำแนวโน้มเหล่านี้มาวิเคราะห์หาผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อธุรกิจในปัจจุบัน และเตรียมแนวทางสำหรับการปรับตัวของธุรกิจในอนาคต ทั้งในแง่ของศักยภาพ ความรู้และความสามารถของบุคคลากร ระดับเทคโนโลยี ตลอดไปจนถึงการปรับเปลี่ยนโมเดลหรือรูปแบบของการทำธุรกิจที่อาจแตกต่างไปจากธุรกิจที่ทำอยู่ในปัจจุบันโดยสิ้นเชิง

ดังนั้น ผู้บริหารหรือเจ้าของธุรกิจที่มีวิสัยทัศน์ มองเห็นแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของทัศนียภาพทางธุรกิจได้รวดเร็วและชัดเจนกว่าคนอื่น ย่อมจะเป็นผู้ชนะในสนามธุรกิจที่จะมาถึงในอนาคตอย่างแน่นอน

ในวาระดิถีขึ้นปีใหม่ 2558 ผมก็ขออาราธนาสิ่งศักดิ์สิทธิที่ท่านผู้อ่านเคารพนับถือ จงดลบันดาลให้ท่านประสบความสำเร็จในด้านธุรกิจและในด้านส่วนตัวโดยทั่วหน้ากันครับ


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน,สำนักงานบัญชี พี.เอ็ม.เอส.

Tags : เมกาเทรนด์ แนวโน้มการเปลี่ยนแปลง ธุรกิจโลก (จบ)

view