สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

7 แชมป์โรคสมอง...อย่ามองข้าม

จากประชาชาติธุรกิจ

สมองเป็นอวัยวะที่ทำงานตลอดเวลา การดูแลสุขภาพร่างกายและจิตใจให้แข็งแรง จึงเป็นปัจจัยสำคัญในการดูแลสมอง น.พ.ชาญพงค์ ตังคณะกุล ผู้อำนวยการศูนย์สมองและระบบประสาทกรุงเทพ โรงพยาบาลกรุงเทพ ให้ข้อมูลว่า ในปัจจุบันโรคด้านสมองและระบบประสาท เป็นโรคที่คนไทยเป็นมากเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศไทย

วันนี้คุณหมอจะพาไปรู้จักกับ 9 แชมป์โรคทางสมองและระบบประสาท พร้อมวิธีสังเกตอาการเบื้องต้นของโรคมาฝากกัน

แชมป์อันดับที่ 1 ได้แก่ "โรคหลอดเลือดสมองอุดตัน" พบได้บ่อยในกลุ่มผู้สูงวัย ผู้ป่วยโรคเบาหวาน, หัวใจ, ความดันสูง, ไขมันในเลือดสูง และผู้ที่สูบบุหรี่จัด เพื่อป้องกันโรคอย่างทันท่วงที ควรสังเกตอาการน่าสงสัย เช่น แขนขาอ่อนแรง ชาครึ่งซีก หน้าหรือปากเบี้ยว พูดไม่ชัด ตาข้างใดข้างหนึ่งพร่ามัว ปวดศีรษะเฉียบพลันแบบไม่มีสาเหตุ เมื่อมีสัญญาณเหล่านี้ควรรีบพบแพทย์ภายใน 3 ชั่วโมง

อันดับ 2 คือ "โรคหลอดเลือดสมองโป่ง" ส่วนใหญ่เกิดกับผู้ป่วยโรคความดันสูง สูบบุหรี่จัด ปวดหัวรุนแรงเฉียบพลัน ภาวะตาตกตาเหล่ โรคหลอดเลือดสมองโป่งมักจะตรวจพบเมื่อมีเส้นเลือดแตกแล้ว ผู้ป่วยจะมีอัตราการเสียชีวิตค่อนข้างสูงถึง 50% และอีก 25% อาจพิการ แต่หากตรวจพบหลอดเลือดสมองโป่งก่อนที่จะแตกจะมีอัตราการหายเป็นปกติกว่า 90 เปอร์เซ็นต์

อันดับ 3 คือ "ความจำถดถอย" เป็นอาการหลง ๆ ลืม ๆ หากทิ้งไว้อาจเป็นจุดเริ่มต้นของโรคอัลไซเมอร์ และกลายเป็นโรคสมองเสื่อมขั้นรุนแรงได้ แม้ปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาให้หายขาด แต่หากรู้แต่เนิ่น ๆ สามารถชะลออาการของโรคให้เกิดช้าลงได้

อันดับ 4 คือ "โรคพาร์กินสัน" เกิดจากการขาดสารโดพามีน พบมากในอายุ 60 ปีขึ้นไป มักเริ่มต้นด้วยอาการสั่นที่แขนขา ใบหน้า กล้ามเนื้อเกร็ง เคลื่อนไหวช้า พูดหรือกลืนลำบาก หากปล่อยไว้จนอาการรุนแรงจะทำให้ร่างกายฟื้นตัวยาก ถึงแม้พาร์กินสันจะเป็นโรคเรื้อรัง แต่สามารถควบคุมอาการได้ ด้วยการผ่าตัดฝังไมโครชิปกระตุ้นสมองส่วนลึก เพื่อควบคุมการเคลื่อนไหวและลดการใช้ยา ผู้ป่วยสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ดีขึ้น

อันดับ 5 "โรคลมชัก" ถือเป็นวายร้ายทำลายสมองที่สามารถเกิดได้ตลอดชีวิตทุกเพศทุกวัย ซึ่งอาการชักที่แสดงไม่จำเป็นต้องชักเกร็งกระตุกเสมอไป บางรายเหม่อลอย นิ่ง ไม่รู้สึกตัว ผู้ป่วยส่วนใหญ่จึงไม่รู้ว่าตัวเองเป็นโรคลมชัก จนสมองถูกทำลาย สูญเสียความจำ ที่สำคัญมีผลต่อพัฒนาการทางสมองที่ช้าลงในเด็กเล็ก

อันดับ 6 "ปวดไมเกรนเรื้อรัง" อาการปวดหัวตุ้บ ๆ ตื้อ ๆ เป็น ๆ หาย ๆ ปวดข้างเดียวที่หน้าผาก ขมับ ท้ายทอย หรือกระบอกตา ตอนนี้แพทย์ได้ค้นพบเทคนิคการรักษาอาการปวดศีรษะเฉียบพลันได้แล้ว ด้วยการฉีดโบทูลินั่มทอกซิน ลดความถี่ของอาการปวดไมเกรนเรื้อรังได้, การฉีดยาระงับอาการปวดที่เส้นประสาทหลังศีรษะ Occipital Nerve Block เพื่อระงับอาการปวดศีรษะขั้นรุนแรง เป็นต้น

อันดับ 7 "เครียด...ปวดคอร้าวขึ้นศีรษะ" เป็นอาการปวดศีรษะจากกล้ามเนื้อตึงตัว เพราะความเครียด การนั่งท่าเดียวนาน ๆ การใช้สายตานาน ๆ ทานอาหารผิดเวลา นอนน้อยหรือมากไป ขาดน้ำ เป็นต้น อาจรักษาด้วยการทานยาแก้ปวดอาจช่วยได้ในรายที่ไม่รุนแรง หากปวดมากเรามีตัวช่วย ด้วย 1.Posture Analysis โปรแกรมปรับสมดุลของกล้ามเนื้อคอบ่าหลังให้ถูกวิธี สาเหตุของอาการปวดศีรษะ 2.การบำบัดขจัดอาการปวดศีรษะด้วย LASER Therapy และ 3.ลดเครียดด้วยการฝึกผ่อนคลายกับเครื่อง Biofeedback


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : 7 แชมป์โรคสมอง อย่ามองข้าม

view