สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

พาณิชย์รับลูก ป.ป.ช.เล็งเอาผิดข้าราชการร่วมวงจีทูจีเก๊

พาณิชย์รับลูก ป.ป.ช.เล็งเอาผิดข้าราชการร่วมวงจีทูจีเก๊

จากประชาชาติธุรกิจ

"พาณิชย์" พร้อมทำตามขั้นตอนทางกฎหมาย หลัง ป.ป.ช ชี้มูลความผิดข้าราชการมีส่วนร่วมทุจริตจีทูจีข้าว โทษหนักถึงขั้นให้ออกจากราชการ

นางสาวชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิด ข้าราชการกระทรวงพาณิชย์ ในการทุจริตการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือ จีทูจี ว่า เมื่อ ป.ป.ช.ส่งหนังสือชี้มูลความผิดของข้าราชการกระทรวงพาณิชย์มายังกระทรวง จะต้องพิจารณาตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 มาตรา 29 วรรค 2 พร้อมทั้ง เข้าคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือนพิจารณา ซึ่งก็ต้องดำเนินการไปตามขั้นตอนทางกฎหมาย และระเบียบของกระทรวง ซึ่งมีระยะเวลาในการพิจารณาภายใน 30 วัน

"เรื่องดังกล่าวนี้ นับว่าเป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้นกับกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ขณะนี้ต้องรอหนังสือจาก ป.ป.ช. ส่งมาให้กับทางกระทรวงพาณิชย์ ไม่ต้องมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้าราชการอีก แต่จะนำมาเทียบกับกฎหมายของกระทรวงพาณิชย์ หากเห็นว่าผิด ก็จะมีโทษให้ออกจากราชการกระทรวงพาณิชย์ ส่วนข้าราชการที่เกษียณไม่เกี่ยวข้องกับกระทรวงพาณิชย์ ต้องเป็นไปตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป"


อย่างไรก็ตาม หากข้าราชการที่ถูก ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด และกระทรวงพาณิชย์พิจารณาแล้วพบว่าผิด และให้ออกจากข้าราชการ ทางข้าราชการที่ถูกชี้มูลผิด หากต้องการความเป็นธรรมมีสิทธิ์ และสิทธิเสรี สามารถยื่นอุทธรณ์ไปยังศาลปกครอง ซึ่งเมื่อมีการพิจารณาโดยศาลปกครองว่าไม่ผิด ก็ยังสามารถขอเข้ากลับมาทำงานข้าราชการได้ตามเดิม

นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศกล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีการวินิจฉัยความผิดของข้าราชการกระทรวงพาณิชย์ที่เกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่าว จึงต้องรอความชัดเจนจากหนังสือ ป.ป.ช ก่อน เนื่องจากมีโทษหลายระดับ และมีระเบียบขั้นตอนไว้รองรับ โดยมีโทษทางวินัยให้ออกจากข้าราชการไว้ก่อน โทษรุนแรง คือ ไล่ออกจากข้าราชการ ส่วนโทษดังกล่าวยังไม่ได้รวมกรณีที่ ป.ป.ช. ให้กระทรวงพาณิชย์ เรียกค่าเสียหายกับผู้กระทำผิด เนื่องจากต้องรอรายละเอียดของข้อมูลและเอกสารในการพิจารณาก่อน ยังไม่สามารถให้คำตอบเรื่องนี้ในตอนนี้ได้

พร้อมกันนี้ กรมการค้าต่างประเทศ จะมีการชี้แจง ทีโออาร์ การประมูลข้าว ในวันที่ 22 มกราคม 2558 เวลา 14.00 น. ที่กระทรวงพาณิชย์

พล.อ. ฉัตรชัย สาริกัลลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กระทรวงฯ จะเพิ่มความเข้มงวด ในการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ ภายหลังจากที่ ป.ป.ช. มีการชี้มูลความผิดกับข้าราชการพาณิชย์แล้ว ซึ่งโดยปกติเรื่องนี้กระทวงพาณิชย์ต้องระมัดระวัง ต้องทำตามขั้นตอนทุกอย่าง เพื่อไม่ให้มีปัญหา

อนึ่ง วันที่ 20 มกราคม ทาง ป.ป.ช โดย นายวิชา มหาคุณ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และในฐานะโฆษกกรรมการ ได้แถลงว่าที่ประชุม ป.ป.ช. มีมติ ชี้มูลความผิดผู้เกี่ยวข้อง รวมทั้งสิ้น 21 ราย ประกอบด้วย นักการเมือง 3 ราย ได้แก่ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายภูมิ สาระผล อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และพันตรี วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ อดีตเลขาธิการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์

สำหรับข้าราชการ 2 ราย ประกอบด้วย นายทิฆัมพร นาทวรทัต รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ อดีตผู้อำนวยการสำนักการค้าข้าวต่างประเทศ, นายอัครพงศ์ ทีปวัชระ อดีตเลขานุการกรม และผู้อำนวยการสำนักการค้าข้าวต่างประเทศ และอดีตข้าราชการกระทรวงพาณิชย์ อีก 1 ราย คือ นายมนัส สร้อยพลอย อดีตอธิบดีกรมการค้าระหว่างประเทศ, และเอกชนที่เกี่ยวข้องกับบริษัท สยามอินดิก้าอีก  15 ราย


“พาณิชย์” เตรียมเอาผิด 2 ข้าราชการเอี่ยวทุจริตจีทูจี หากได้รับหนังสือชี้มูลจาก ป.ป.ช.

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

       “พาณิชย์” เตรียมเอาผิดวินัย 2 ข้าราชการ หลัง ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดมีเอี่ยวทุจริตข้าวจีทูจี เผยกำลังรอหนังสือชี้มูลจาก ป.ป.ช. หากระบุผิดวินัยร้ายแรงก็จะให้ออกจากราชการไว้ก่อน แต่มีสิทธิ์อุทธรณ์ศาลปกครองได้ ลั่นถ้าคดีขึ้นศาล และตัดสินไม่มีความผิดขอกลับมารับราชการได้อีก ส่วนชดใช้ความเสียหายต้องพิจารณาอีกครั้ง
       
       น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ และพวก ซึ่งรวมถึงข้าราชการกระทรวงพาณิชย์ 2 คน และข้าราชการเกษียณอีก 1 คน ในคดีทุจริตระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ว่า กระทรวงฯ ยังไม่มีการตัดสินความผิดทางวินัยข้าราชการกระทรวงพาณิชย์ทั้ง 2 คน เพราะต้องรอให้ ป.ป.ช.ส่งหนังสือชี้มูลความผิดของข้าราชการดังกล่าวมาให้ก่อน และเมื่อได้รับแล้ว คณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน กระทรวงพาณิชย์ จะนำมาพิจารณาตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 มาตรา 29 วรรค 2 โดยมีเวลาพิจารณา 30 วัน ซึ่งต้องดำเนินการไปตามขั้นตอนทางกฎหมาย และระเบียบของกระทรวงฯ
       
       ทั้งนี้ ตามขั้นตอน เมื่อได้รับหนังสือชี้มูลความผิดจาก ป.ป.ช.แล้ว กระทรวงพาณิชย์ ไม่จำเป็นที่จะต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้าราชการซ้ำอีก แต่จะนำมาเทียบกับกฎหมายของกระทรวงพาณิชย์ หาก ป.ป.ช.ระบุว่ามีความผิดวินัยร้ายแรงก็มีโทษให้ออกจากราชการไว้ก่อน ซึ่งข้าราชการทั้ง 2 คนสามารถอุทธรณ์ต่อศาลปกครองได้ แต่ถ้า ป.ป.ช.ส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดส่งฟ้อง และศาลตัดสินว่าไม่มีความผิด ข้าราชการทั้ง 2 คนสามารถทำเรื่องขอกลับเข้ารับราชการได้อีก ส่วนข้าราชการเกษียณอายุแล้ว ไม่สามารถเอาผิดทางวินัยได้ ต้องให้เป็นไปตามกฎหมายที่ ป.ป.ช.ฟ้องแพ่งและอาญาต่อไป
       
       “เรื่องนี้เกิดขึ้นในกระทรวงพาณิชย์เป็นครั้งแรก ยังไม่รู้ว่าจะตัดสินเอาผิดข้าราชการทั้ง 2 คนอย่างไร ต้องรอหนังสือชี้มูลจาก ป.ป.ช.ก่อน ถ้าเห็นว่าผิดวินัยร้ายแรงก็ต้องให้ออกจากราชการสถานเดียว แต่ระหว่างนี้ไม่จำเป็นต้องพักงาน หรือโยกย้ายออกจากตำแหน่ง เพราะก่อนหน้านี้ได้โยกย้ายออกจากตำแหน่งที่รับผิดชอบเกี่ยวกับข้าวไปแล้ว”
       
       ส่วนกรณีที่ ป.ป.ช.ให้กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงการคลังร่วมกันพิจารณาความเสียหายจากการ ขายข้าวจีทูจีครั้งนี้ และให้ผู้ที่ถูกชี้มูลชดใช้ค่าเสียหายนั้น ยังไม่ทราบว่าค่าเสียหายทั้งหมดเป็นเท่าไร แต่ที่ ป.ป.ช.แถลงว่าเสียหายทั้งหมด 600,000 ล้านบาท เป็นความเสียหายของโครงการรับจำนำ ส่วนความเสียหายที่เกิดขึ้นจะเกี่ยวข้องกับข้าราชการทั้ง 2 คนเท่าไรต้องพิจารณาอีกครั้ง
       
       นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า ยังไม่มีการวินิจฉัยความผิดของข้าราชการกระทรวงพาณิชย์ที่เกี่ยวข้อง เพราะต้องรอหนังสือชี้มูลจาก ป.ป.ช ก่อน เนื่องจากมีโทษหลายระดับ ซึ่งมีตั้งแต่ไล่ออกจากราชการ ให้ออก ส่วนการเรียกค่าเสียหายจากผู้ที่ถูกชี้มูลความผิดยังไม่สามารถให้คำตอบได้ แต่ภายหลังจากที่ตนเข้ารับตำแหน่งอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ทราบว่าข้าวจีทูจีราว 7 ล้านตันที่มีปัญหานั้นได้ส่งมอบไปหมดแล้ว
       
       พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า วันที่ 29 ม.ค.นี้ กระทรวงฯ จะเปิดให้ยื่นซองเสนอราคาซื้อข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลเกือบ 1 ล้านตัน ซึ่งยืนยันว่าได้ดำเนินการอย่างโปร่งใส และรัดกุมที่สุด เพราะไม่ต้องการให้เกิดปัญหาทุจริตเช่นเดียวกับการขายข้าวจีทูจีที่ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดผู้เกี่ยวข้องไปแล้ว
       
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา นายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช.ได้แถลงชี้มูลความผิดผู้เกี่ยวข้องกับการขายข้าวจีทูจีของรัฐบาลก่อน รวม 21 ราย ประกอบด้วย นักการเมือง 3 ราย ได้แก่ นายบุญทรง เตริยาภิรมณ์ อดีต รมว.พาณิชย์ นายภูมิ สาระผล อดีต รมช.พาณิชย์ และพันตรี วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ อดีตเลขาธิการ รมว.พาณิชย์, ข้าราชการ 3 คน คือ นายมนัส สร้อยพลอย อดีตอธิบดีกรมการค้าระหว่างประเทศ นายทิฆัมพร นาทวรทัต รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ นายอัครพงศ์ ทีปวัชระ อดีตผู้อำนวยการสำนักการค้าข้าวต่างประเทศ ปัจจุบันเป็นผู้อำนวยการกองความร่วมมือการค้าและการลงทุน และเอกชน 15 ราย


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : พาณิชย์รับลูก ป.ป.ช. เล็งเอาผิด ข้าราชการ ร่วมวง จีทูจีเก๊

view