ความหวังท่ามกลางวิกฤติ (จบ)

โดย : แจ็ค มินทร์ อิงค์ธเนศ

จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

ผมเน้นย้ำเรื่อง “ความหวัง” มาตั้งแต่ก่อนเทศกาลปีใหม่ จนถึงวันนี้ผมก็ยังคงขอย้ำเรื่องเดิม

เพราะเหลียวมองรอบตัวแล้วจะเห็นคนที่ยังคงมีความหวังและความฝันต่อในปี 2558 นี้ได้ยากเต็มทน เพราะภาวะวิกฤติเกิดขึ้นหลายประเทศทั่วโลกและมีตัวแปรด้านลบเกิดขึ้นมากมาย

แต่สำหรับผมแล้วความหวังยังคงมีอยู่เสมอ โดยเฉพาะงบใช้จ่ายภาครัฐที่ต้องเร่งอัดฉีดภายในครึ่งแรกของปีนี้เพื่อชดเชยที่เบิกจ่ายได้ล่าช้าในไตรมาสแรกของปีงบประมาณ แต่ทั้งนี้อุปสรรคสำคัญที่สุดในการสร้างความหวังของคนไทยส่วนใหญ่ไม่ได้มาจากปัจจัยทางเศรษฐกิจสักเท่าไรนัก แต่เป็นทัศนคติเชิงบวกของเราต่างหากที่ต้องแก้ไขและหันมาสร้างกำลังใจให้แก่กันและกันด้วยวิธีต่อไปนี้

ข้อแรก อย่าคิดว่าการตั้งความหวังไว้ต่ำแล้วจะช่วยให้รู้สึกดีหากเกิดความผิดหวังขึ้นในอนาคต เพราะการตั้งความหวังไว้ต่ำๆ ก็ยิ่งสะท้อนให้เห็นความไม่มั่นใจ ความไม่กระตือรือร้นในการมุ่งหน้าไปหาเป้าหมาย โอกาสที่จะประสบความสำเร็จก็ยิ่งน้อยลงตามไปด้วย

ข้อสอง อย่ามองโลกในแง่ร้ายเพราะจะยิ่งทำให้กำลังใจหดหายไปเรื่อยๆ และการมองโลกในแง่ร้ายจะทำให้เรามองเห็นทุกปัญหาทุกอุปสรรค แต่มองไม่เห็นทางออกของปัญหา ตรงกันข้ามกับคนที่รู้จักคิดบวกจะมองเห็นทางออกของทุกๆ ปัญหา

ข้อสาม ต้องแสวงหาความสำเร็จให้ตัวเองเสมอโดยเฉพาะก้าวแรกเมื่อมีโอกาสเข้ามาแม้จะเพียงเล็กน้อยเพราะปล่อยให้โอกาสผ่านเลยไปเท่ากับเราล้มเหลวไปทันทีที่ตัดสินใจ แต่หากลองทำดูก็เท่ากับว่าเรามีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จได้แล้ว

แต่ความสำเร็จก็ใช่ว่าจะได้มาง่ายๆ เพราะเราต้องกล้ารับผิดชอบมากกว่าคนทั่วไป และยึดมั่นในเป้าหมายที่ต้องทำให้ได้ เราจึงต้องอาศัยทั้งความอดทน ความเข้มแข็ง เพื่อหาทางไปสู่ความสำเร็จที่เราต้องการให้ได้

ข้อสี่ ต้องรู้จักรับฟัง ทุกเรื่องราวจากทุกๆ คนรอบข้าง แม้จะเป็นเรื่องที่เราไม่รู้จัก ไม่เชี่ยวชาญแต่การฟังก็จะช่วยเปิดโลกการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ให้ตัวเราเอง ที่สำคัญคือการฟังความต้องการจากลูกค้าซึ่งนั่นคือโอกาสให้เราได้ทำสิ่งใหม่ๆ ให้บริการเขาได้ในอนาคต

ข้อห้า ต้องมีความเชื่อมั่น ทั้งเชื่อมั่นในตัวเอง และเชื่อมั่นในองค์กรที่ร่วมงานอยู่ในปัจจุบัน เพราะหากไม่มีความเชื่อมั่นเราก็ไม่อาจก้าวหน้าเดินต่อไปได้อย่างมั่นใจเต็มร้อย โดยเฉพาะตัวเราเองที่ต้องสร้างพลังเชิงบวกจากภายใน เราจึงต้องมองหาคุณค่าในตัวเองอยู่เสมอ

ข้อหก ต้องแปรความคิดเป็นการกระทำ เพราะหลายครั้งเราจะพบคนที่กล้าคิดแต่ไม่กล้านำเสนอให้คนอื่นรับรู้ ความคิดนั้นก็ไม่เกิดผลใดๆ แม้จะเป็นความคิดที่ยอดเยี่ยมเพียงใดก็ตาม หรือแม้แต่นำเสนอความคิดนั้นไปแล้วแต่ไม่มีการกระทำใดๆ ตามมาก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเช่นเดียวกัน

ข้อสุดท้าย ต้องรู้จักเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ เพราะสถานการณ์ทั้งในประเทศที่ยังคงมีความกดดันจากตัวแปรต่างๆ และสถานการณ์โลกที่มีความผันผวนอย่างต่อเนื่องผลักดันให้คนทำงานในทุกวันนี้ต้องรู้จักปรับเปลี่ยนแผนงานอยู่ตลอดเวลา ซึ่งบางครั้งก็ถึงขนาดเปลี่ยนแปลงธุรกิจขององค์กรไปเลย ในฐานะคนทำงาน เราจึงต้องรู้จักปรับตัวอย่างรวดเร็วได้เช่นกัน

ข้อคิดเหล่านี้ไม่ใช่สูตรสำเร็จที่ทำให้ผู้อ่าน “ไอทีไร้พรมแดน” ทุกท่านประสบความสำเร็จได้ แต่ก็เป็นใบเบิกทางที่ทำให้เรามีโอกาสไขว่คว้าหาเป้าหมายที่เราต้องการได้เร็วกว่าคนทั่วไป เพราะคนที่มีความหวังและรู้จักคิดบวกเท่านั้นที่ย่อมมีพลังใจในการเดินทางไปสู่ความสำเร็จได้ดีกว่า

สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน