สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

10 ทางโน้มของโลกสำหรับปี 2015

10 ทางโน้มของโลกสำหรับปี 2015

จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์




ช่องว่างคนรวยคนจน การว่างงาน การแย่งชิงน้ำ อากาศผันผวน ความอ่อนแอของประชาธิปไตย เป็นสิ่งที่สังเกตเห็นได้ชัดเจน

ในการประชุมเมื่อเร็วๆ นี้ของ WEF (World Economic Forum) มีการเปิดเผยผลการสำรวจทางโน้มของโลกในปี 2015 ที่น่าสนใจยิ่ง

WEF เป็นมูลนิธิของสวิตเซอร์แลนด์ที่ไม่มุ่งหวังกำไรโดยเป็นองค์กรระหว่างประเทศที่มีวัตถุประสงค์ให้โลกมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยเป็นตัวกลางของการพบปะระหว่างผู้นำจากภาคธุรกิจ เทคโนโลยี การเมือง สังคม เศรษฐกิจ วิชาการ ฯลฯ จากทุกมุมโลกเพื่อร่วมกันหาคำตอบ

การประชุมของ WEF ที่สำคัญที่สุดคือการประชุมประจำปีในหน้าหนาวที่เมือง Davos ซึ่งเป็นแหล่งเล่นสกีที่มีชื่อเสียง ตั้งอยู่ในเทือกภูเขาแอลป์ แต่ละปีผู้นำกว่า 2,500 คนไปร่วมประชุม (และหาโอกาสเล่นสกีกันไปด้วย ผู้เขียนยืนยันได้เพราะเห็นมาด้วยตาตนเอง)

WEF ถูกวิจารณ์ว่าเป็นแหล่งสำคัญของการเพาะเชื้อทุนนิยมโลกอย่างเป็นอันตรายแก่โลก ทุกปีในตอนต้นปีจะมีการประชุมภายใต้หัวข้อใหญ่ประมาณ 5 วัน มีการนำเสนอการศึกษาการวิจัย อภิปราย ประชุมถกแถลงใหญ่และย่อยจำนวนมากมายในหลายสถานที่ของเมือง

กลุ่มคนที่เรียกว่า Global Agenda Council Members ของ WEF ร่วมกันใช้ความรู้และประสบการณ์ชี้ให้เห็นว่าอะไรเป็นทางโน้มสำคัญที่จะมีผลกระทบต่อโลกใน 12-18 เดือนข้างหน้าโดยนำผลจากการสำรวจ Survey on the Global Agenda มาประกอบด้วย สำหรับปี 2015 นี้ 10 ทางโน้มของโลกมีดังต่อไปนี้

(1) สถานการณ์เลวลงของความเหลื่อมล้ำของรายได้ ผู้เชี่ยวชาญให้เป็นทางโน้มที่สำคัญที่สุดเนื่องจากมีผลกระทบอย่างกว้างไกล ถึงแม้ว่าในหลายสังคมในโลกจะมีอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ (รายได้รวมของคนทั้งประเทศขยายตัว) อยู่ในระดับน่าพอใจ แต่ช่วงห่างระหว่างคนรวยและคนจนก็ถ่างมากยิ่งขึ้น ซึ่งปรากฏการณ์นี้นำไปสู่ปัญหาความยากจนอย่างยิ่งของคนบางกลุ่ม ความรุนแรง ปัญหาการเมือง ปัญหาสังคม ฯลฯ ได้อีกมากมายและอย่างซับซ้อนมากขึ้น

ทั้งในประเทศพัฒนาแล้วและกำลังพัฒนา หากเอาคนรวยและคนจนในประเทศมาเรียงกันลงมาก็จะพบว่าบ่อยครั้งที่ส่วนครึ่งล่างรวมกันเป็นเจ้าของความมั่งคั่งเพียงร้อยละ 10 ของทั้งประเทศ

ข้อมูลของประเทศพัฒนาแล้ว เช่น ออสเตรเลีย เดนมาร์ก ฝรั่งเศส ไอร์แลนด์ อิตาลี ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ นอร์เวย์ สิงคโปร์ สเปน สวีเดน และสหรัฐอเมริกา ปรากฏชัดเจนว่าคนรวยสุด 1 เปอร์เซ็นต์มีสัดส่วนของความเป็นเจ้าของรายได้รวมของประเทศมากยิ่งขึ้นระหว่างปี 1980 และค่าเฉลี่ยของปี 2008-2012

สหรัฐอเมริกามีช่องห่างที่เพิ่มมากขึ้นที่สุดจาก 8 เปอร์เซ็นต์เป็น 18 เปอร์เซ็นต์ ญี่ปุ่นจาก 7 เปอร์เซ็นต์เป็น 10 เปอร์เซ็นต์ ฯลฯ

ทวีปที่จะถูกผลกระทบมากที่สุดจากทางโน้มของความเหลื่อมล้ำดังกล่าวคือเอเชีย รองลงมาคืออเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ ตะวันออกกลาง แอฟริกา และยุโรป

(2) การเพิ่มขึ้นของอัตราการว่างงานอย่างไม่รู้จบสิ้น การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีอย่างรวดเร็วโดยทักษะและความรู้ของคนมิได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างทัดเทียมกันเป็นสาเหตุสำคัญของทางโน้มนี้ ประเทศของเรายังไม่ถูกกระทบรุนแรงนัก แต่ในประเทศอื่นปัญหานี้เข้มข้นมากขึ้น สำหรับคำถามในการสำรวจว่า “การมีงานทำเป็นปัญหาใหญ่เพียงไรในประเทศของท่าน” ทวีปแอฟริกาเห็นว่าเป็นปัญหาใหญ่มากที่สุด 88 เปอร์เซ็นต์ / อเมริกาใต้ 79 / ตะวันออกกลาง 70 / ยุโรป 71 / อเมริกาเหนือ 54 / เอเชีย 62

(3) การขาดผู้นำของโลก 86 เปอร์เซ็นต์ของผู้ตอบคำถามจากการสำรวจระบุว่าโลกประสบวิกฤติขาดผู้นำ เหตุผลก็มาจากการเห็นว่าประเทศใหญ่ในโลกไม่สามารถแก้ไขปัญหาใหญ่ๆ ของโลกได้สำเร็จเลย เช่น ปัญหาโลกร้อน ภาวะเศรษฐกิจโลกตกต่ำ ปัญหาความรุนแรง ปัญหาการก่อการร้าย ฯลฯ

คนตะวันออกกลาง (41 เปอร์เซ็นต์) เห็นว่าโลกมีวิกฤติขาดผู้นำรุนแรงที่สุด อเมริกาเหนือ (35) ยุโรป (30) อเมริกาใต้และแอฟริกา (27) และเอเชีย (22)

(4) การแข่งขันภูมิรัฐศาสตร์ที่เข้มข้นขึ้น เมื่อสงครามเย็นจบสิ้นลงก็เชื่อกันว่าการแข่งขันแย่งชิงความเป็นใหญ่ระหว่างมหาอำนาจได้จบสิ้นลงแล้ว แต่ปรากฏว่าไม่เป็นความจริง ในปัจจุบันจีน สหรัฐอเมริกา และยุโรปคือมหาอำนาจ อำนาจทางเศรษฐกิจและทางทหารของจีนเป็นที่ครั่นคร้ามของโลกตะวันตก การต่อสู้สงครามตัวแทนปรากฏชัดในหลายพื้นที่ ทางโน้มของการแข่งขันที่เข้มข้นขึ้นเช่นว่านี้จะมีผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตมนุษย์จำนวนมากในโลก

(5) การอ่อนแอมากขึ้นของประชาธิปไตย มีหลายประเทศที่ระบอบประชาธิปไตยไม่ทำงานอย่างทำให้เกิดประโยชน์อย่างแท้จริงแก่ประชาชนจนหันไปยอมรับรูปแบบการปกครองอย่างอื่นมากขึ้น การประสบความสำเร็จทางเศรษฐกิจของจีน เกาหลีใต้ ไต้หวัน สิงคโปร์ มาเลเซีย ฯ เมื่อเปรียบเทียบกับไทย กัมพูชา บังกลาเทศ ปากีสถาน อินเดีย ฯ ซึ่งมี “ประชาธิปไตยจ๋า” มีผลกระทบต่อความรู้สึกของประชาชนที่มีต่อประชาธิปไตย ตราบที่เรื่องปากท้องของประชาชนเป็นสิ่งที่เป็นรูปธรรมมากกว่าคุณค่าทางนามธรรมของประชาธิปไตย ทางโน้มนี้จะคงอยู่ใน 12-18 เดือนข้างหน้า

(6) การเพิ่มขึ้นของมลภาวะในประเทศกำลังพัฒนา คนเอเชียเห็นว่าทางโน้มนี้มีความสำคัญในอันดับ 3 จีนเป็นประเทศที่ปล่อยก๊าซมากที่สุดในโลกนับตั้งแต่ปี 2005 เป็นต้นมา ตามติดด้วยสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรป คุณภาพชีวิตของคนในประเทศเหล่านี้ลดต่ำลงเพราะมลภาวะเป็นตัวละครสำคัญ

มลภาวะในอากาศในจีนทำให้คนตายเร็วกว่าที่ควรประมาณ 1-2 ล้านคนในปี 2010 ซึ่งเมื่อรวมกันแล้วเป็นจำนวนปีแห่งการสูญเสียชีวิตของผู้ที่ควรอยู่อย่างมีสุขภาพดีถึง 25 ล้านปี

(7) ความผันผวนสุดโต่งของสภาวะอากาศ climate change เป็นสาเหตุแห่งการ ผันผวนอย่างมากของสภาพอากาศ ซึ่งนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงของสภาวะแวดล้อมอย่างเฉียบพลัน การเกิดของโรคใหม่ ผลเสียต่อการผลิตสินค้าเกษตร ความเดือดร้อนแสนสาหัสของประชาชนในหลายประเทศ ฯลฯ การเกิดขึ้นของสิ่งเหล่านี้ทำให้ประชาชนตระหนักถึงผลกระทบจาก climate change มากขึ้น แต่กระนั้นก็ตามโลกยังไม่สามารถจัดการกับสภาวการณ์นี้ได้อย่างเห็นผล

(8) ความเข้มข้นขึ้นของความเป็นชาตินิยม ปรากฏการณ์ของความพยายามแยกตัวเป็นประเทศใหม่ในหลายดินแดน เช่น สกอตแลนด์ สเปน แคนาดา ยูเครน ฯลฯ คือหลักฐานของทางโน้มนี้ การลงประชามติของสกอตแลนด์ในการแยกตัวออกจากสหราชอาณาจักรกระตุ้นให้เกิดความคิดเดียวกันในประเทศอื่นๆ ซึ่งนำไปสู่ปัญหาสังคม การขาดความสามัคคี ความไม่ลงรอยในชาติ และอาจเป็นปัญหาข้ามไปสู่ประเทศเพื่อนบ้านต่างๆ ได้

(9) การขาดแคลนน้ำยิ่งขึ้น อินเดีย บังกลาเทศ อินโดนีเซีย และไนจีเรีย ซึ่งล้วนมีประชากรขนาดใหญ่จะถูกกระทบมากที่สุดจากการขาดแคลนน้ำซึ่งทวีปที่ถูกกระทบมากที่สุดจากทางโน้มนี้อันเป็นผลจากการขาดแคลนทรัพยากรน้ำโดยตรงคือเอเชีย ส่วนทวีปแอฟริกานั้นถูกกระทบมากสุดเช่นกัน แต่จากการขาดแคลนทรัพยากรการเงินเพื่อนำน้ำมาใช้

(10) ความสำคัญยิ่งขึ้นของบทบาทสุขภาพในระบบเศรษฐกิจ เมื่อมนุษย์โดยทั่วไปมีความกินดีอยู่ดีมากขึ้น มีข่าวสารมากขึ้น กอปรกับเกิดความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วในด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ จึงเกิดความสนใจในเรื่องสุขภาพของตนเองยิ่งขึ้น ทางโน้มของโลกที่ทั้งภาครัฐและประชาชนให้แก่เรื่องสุขภาพจึงเป็นเรื่องที่ตามมา และมีผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของประชาชน

การรู้ความเป็นไปได้ของทางโน้มของโลกในรอบปีหน้า อุปมาเสมือนกับคนรู้เลขหวยล็อกล่วงหน้าย่อมตัดสินใจในการเล่นหวย และมีโอกาสรวยได้มากกว่าคนอื่นๆ


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : ทางโน้มของโลก ปี 2015

view