สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

วิชา มหาคุณ แง้มเทคนิคทำคดีทุจริต

วิชา มหาคุณ' แง้มเทคนิคทำคดีทุจริต

จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์




 "วิชา มหาคุณ" แง้มเทคนิคทำคดีทุจริต กับแผนชีวิตหลังพ้นวาระ ป.ป.ช.

ในฐานะมือวางระดับหัวแถวในการปราบคอร์รัปชันอย่าง วิชา มหาคุณ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ที่ต้องรับบทหนักหลายต่อหลายครั้ง

ล่าสุดในคดีถอดถอนและดำเนินคดีอาญากับอดีตนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในคดีเพิกเฉย ละเลย ไม่ป้องกันปัญหาทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวที่เขาต้องเข้าไปรับผิดชอบเต็มๆ ซึ่งนับว่าหนักหนาสาหัสที่สุดนับตั้งแต่ทำคดีมา

ระหว่างทางของคดีถอดถอนครั้งประวัติศาสตร์ มีเรื่องราวต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย ตั้งแต่การไต่สวนที่ต้องเจอภัยคุกคาม การปะทะคารมกับทีมทนายของผู้ถูกกล่าวหา ไปจนถึงการแถลงเปิดและปิดสำนวนต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ซึ่งไม่ได้มีเฉพาะสิ่งที่ปรากฏหน้าจอโทรทัศน์เท่านั้น

วิชา เปิดใจกับทีมข่าวเครือเนชั่นถึงเรื่องราว behind the scence ที่มีน้อยคนนักที่จะรู้

O เบื้องหลังการทำคดีคุณยิ่งลักษณ์ทั้งคดีถอดถอนและคดีอาญา ทำงานกันอย่างไร?

ความจริงมีการร้องเรียนคุณยิ่งลักษณ์มาแต่แรก แต่ภาพยังไม่ชัดเจน เพราะเรื่องนโยบายเป็นอำนาจรัฐบาล ความเสียหายเกิดขึ้นอย่างไรมันยังเบลอๆ เลยต้องจับคดีคุณบุญทรง (นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กรณีระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือ จีทูจี โดยมิชอบ) ก่อน

การมองว่าคุณยิ่งลักษณ์ละเว้นปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ต้องดูความเสียหายเป็นหลัก ทีมงานก็ได้ลงพื้นที่ไปดูว่าการซื้อขายข้าวของโรงสีถูกต้องไหม ข้อมูลจากบริษัทค้าข้าวก็เข้ามาเรื่อย ที่ผิดปกติคือเช็คสั่งจ่ายให้กรมการค้าต่างประเทศเป็นพันฉบับ ถ้าเป็นจีทูจีจริงการสั่งจ่ายต้องเปิดบัญชีที่เป็นข้อตกลงระหว่างบริษัทตัวแทนรัฐบาลต่างชาติกับรัฐบาลไทย และการที่องค์การคลังสินค้า (อคส.) ไม่ยอมให้ตรวจข้าวก็ยิ่งผิดปกติ

แล้วยังได้ข้อมูลจากผู้ตรวจการแผ่นดิน ข้อมูลก็ตรงกันถึงรู้ว่าไม่ใช่ "จีทูจี" และที่จุดประกายคือ อาจารย์เมธี ครองแก้ว และทีมงาน รวมถึง อาจารย์จากธรรมศาสตร์, นิด้า และอาจารย์นิพนธ์ พัวพงศกร จากทีดีอาร์ไอ ได้คุยกันและฟันธงแต่แรกว่ารัฐผูกขาดทั้งหมด ถ้าปล่อยแบบนี้กระบวนการค้าข้าวจะพินาศแน่

O ระหว่างทำคดีจำนำข้าวก็นับว่าหนักหนาเอาการ...

เห็นอยู่แล้วว่าสำนักงานถูกปิดล้อม ขว้างปาสิ่งสกปรก ถูกยิงด้วยลูกระเบิด กรรมการป.ป.ช.ก็ต้องหลบ หรือย้ายไปทำงานที่นั่นที่นี่บ้าง ต้องเปลี่ยนรถตลอด วันหนึ่งๆ ไม่รู้กี่คัน ซึ่งทุกวันนี้ก็ต้องระวัง แต่ไม่ถึงขนาดก่อนหน้านี้ เดี๋ยวจะกลายเป็นท่านนายกฯตู่ดูแลไม่ดี (หมายถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา) เพราะท่านบอกว่าเก็บอาวุธหมดแล้ว

O จัดการกับภาวะตรงนั้นอย่างไร ทั้งคดีก็ต้องเดินหน้า แถมยังถูกคุกคามอีก

บอกคนดูแลสำนวนว่าอย่าเอาสำนวนไว้ที่สำนักงาน ป.ป.ช. เพราะกลัวจะถูกเผา หรือยิงลูกระเบิดมาแล้วไฟไหม้ก็ไปหมด สำนวนอยู่ที่ไหนก็บอกใครไม่ได้ ต้องระวังที่สุด ซึ่งแต่ละคนก็มีวิธีการที่ใช้ดูแลสำนวนให้ดีที่สุด

O มีวิธีให้กำลังใจทีมงานอย่างไร เพราะขนาดตัวเองยังถูกคุกคามขนาดนี้?

ผมว่าอยู่ที่ "หัวเรือ" ถ้าเรานิ่งก็จะบอกเขาได้ว่าวันนี้ต้องทำอะไร มีอะไรต้องระวังเป็นลำดับ เขาก็จะไว้วางใจเรา ไม่ตื่นกลัว ผมไม่เคยเห็นพวกเขาตื่นกลัวเลย ก็ต้องคอยดูแล โดยเฉพาะทีมงานฝ่ายข่าว มีการฝังตัวในพื้นที่ของกลุ่มที่มีปัญหาด้วย จึงรู้ความเคลื่อนไหวตลอด และมีกองกำลังของเราเอง มีการอ่านภาพถ่ายดาวเทียมทางอากาศ จึงรู้หมดว่ากลุ่มไหนจะเข้ามาหรืออยู่ในจุดไหน

O มั่นใจในความปลอดภัยถึงขนาดไม่ต้องมีบอร์ดี้การ์ด

มีบ้างทั้งทหาร ตำรวจที่ส่งมา แต่เขาจะมีวิธีฝังตัวในแต่ละจุด ไม่ได้เดินตาม เป็นแบบเดียวกับต่างประเทศ

O คดีคุณยิ่งลักษณ์ถือว่าหนักที่สุดหรือไม่?

ในเรื่องความปลอดภัยถือว่าหนักที่สุด แม้แต่คุณยิ่งลักษณ์เองก็ขอไม่มาตรวจสำนวนพยานหลักฐานเอง ให้ทนายมาแทน เพราะตอนนั้นมีการเคลื่อนไหวของกลุ่ม กปปส. ซึ่งตามระเบียบถือว่าไม่ได้ แต่ก็ต้องยอม และบอกไปว่าอย่ามาคุกคามเรา ไม่อย่างนั้นจะตัดไม่ยอมให้ตรวจสำนวน

O เคยมีสายตรงจากฝั่งคุณทักษิณ (พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ) หรือรัฐบาลก่อนติดต่อมาบ้างหรือไม่?

ไม่มี เขารู้อยู่แล้วว่าเราเป็นคนยังไง อยู่ในกรรมการป.ป.ช.มาเกือบ 9 ปี เขาต้องรู้

O ดูเหมือนตกเป็นเป้าของฝ่ายตรงข้ามมากกว่าคนอื่น?

เพราะว่าผมรับผิดชอบโดยตรง เป็นหัวหน้าทีม เป็นประธานอนุกรรมการไต่สวน ก็เลยเป็นเป้าหลัก ไม่ใช่เพราะเราชื่อวิชา พอต้องทำคดีใหญ่มันก็หนีไม่พ้น ถ้าใครเป็นผมคงอยากจะออกไปแล้ว ซึ่งใจผมไม่เคยคิดถอนตัวหรือถอย แต่ครอบครัวคนที่อยู่รอบข้างเราก็ต้องเป็นห่วง ต้องพยายามให้โทษของคดีมีความผ่อนคลาย ถ้าเกิดให้ข่าวจะเล่นงานเขาตลอดเวลา สถานการณ์อย่างนี้คงผ่านไปไม่ได้ เท่ากับเรากลายเป็นศัตรูเขาโดยตรง ซึ่งเราแค่ทำหน้าที่

O เทคนิคที่จำเป็นสำหรับการทำคดีทุจริตอยู่ตรงไหน?

คดีพวกนี้ต้องใช้ระยะเวลายาวนาน ต้องไม่เหนื่อยหน่าย ต้องไม่รู้สึกว่ามันยืดเยื้อเมื่อไรจะจบเสียที แล้วไปบีบให้จบ ต้องอดทนรอคอย ต้องรู้จักใช้วิธีจูงใจพูดคุยกับพยานเพื่อจะได้สาวถึงคนอื่นๆ และต้องไม่บีบบังคับโดยพยานไม่เต็มใจ เพราะคดีทุจริตเกี่ยวข้องกับผู้มีอำนาจ เป็นใครก็กลัว ให้ข้อมูลเราแล้วจะปลอดภัยหรือเปล่า นักไต่สวนจึงต้องมีจิตวิทยาที่สูงมาก

O วางแผนชีวิตหลังพ้นวาระกรรมการป.ป.ช.ในเดือนต.ค.นี้อย่างไร?

คงสอนหนังสือ เขียนหนังสือต่อ ผมสอนทั้งในมหาวิทยาลัยและเนติบัณฑิต แล้วยังเป็นประธานมูลนิธิอีกเกือบ 70 แห่ง

O ตั้งใจจะทำอะไรให้สำเร็จก่อนพ้นวาระกรรมการ ป.ป.ช.?

เรื่องการสร้างระบบที่ดีให้เป็นที่ประจักษ์แก่ผู้คนว่า ป.ป.ช.เป็นหน่วยงานที่พึ่งได้

O อยากฝากอะไรถึงนักการเมืองหรือผู้มีอำนาจในบ้านเมือง

ถ้ารู้จักพอ เหมือนคำกล่าวของเด็กที่ชนะเลิศประกวดสุนทรพจน์ว่า นักการเมืองที่ทุจริตเพราะว่าไม่รู้จักอักษร พ.พาน คำว่า พอเพียง พอประมาณ ถ้ารู้จักคำว่าพอ ผมว่าโลกดีกว่านี้เยอะ ไม่มีคนอยากได้ อยากเป็นตลอดเวลา และต้องรู้จักให้ ถ้าเอาอย่างเดียวอันตรายแน่นอน แล้วต้องเลิกเสียทีกับ "ระบบอุปถัมภ์" ต้นเหตุใหญ่ที่สุดของการทุจริต ไม่เฉพาะระบบราชการ ระบบธุรกิจก็ด้วย ทำไมไม่แข่งกันแบบแฟร์ๆ


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : วิชา มหาคุณ แง้มเทคนิค ทำคดีทุจริต

view