สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

สจล.ปิด3บัญชีธ.ไทยพาณิชย์60ล้าน

จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

สจล.ปิด 3 บัญชีธ.ไทยพาณิชย์ ยอดเงิน 60 ล้านบาท ส่วนที่เหลือทยอยปิด ขณะที่บุคลากร แห่ถอนและปิดบัญชี

เม็ดเงินกว่าหลายร้อยล้านบาท เหตุไม่เชื่อมั่น เตรียมทำหนังสือเวียนใช้-ไม่ใช่บัญชีธ.ไทยพาณิชย์เป็นบัญชีเงินเดือน เล็งขอเอกสารจากธนาคารอีกครั้ง ชี้เอกสารที่ส่งมาให้สาวถึงผู้กระทำผิดไม่ได้ ยันตรวจพบอดีตผู้บริหารของสถาบันลงนามย้อนหลังใบถอนเงินให้ผู้มีอำนาจลงนามเบิกจ่ายของสถาบันจริง

ที่สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ผศ.ดร.เผ่าภัค ศิริสุข รักษาการแทนรองอธิการบดีสจล. ในฐานะกำกับดูแลส่วนการคลัง เปิดเผยว่า จากกรณีการตรวจสอบเงินสจล.ที่ถูกยักยอกไปกว่า 1 พันล้านบาทนั้น ตอนนี้กำลังพิจารณาบัญชีทั้งหมดของสจล.ว่ามีกี่บัญชี และบัญชีใดบ้างที่สามารถปิดหรือโยกย้ายได้ เพื่อมีจำนวนบัญชีน้อยลง ง่ายต่อการบริหารจัดการและตรวจสอบ โดยเฉพาะบัญชีที่ทำธุรกรรมร่วมกับธนาคารไทยพาณิชย์ ซึ่งจากการตรวจสอบ พบว่า มีบัญชีที่ฝากกับธนาคารไทยพาณิชย์ ประมาณ 70 บัญชี และกำลังตรวจสอบว่ามีบัญชีใดที่สามารถปิดได้โดยไม่กระทบกับการเบิกจ่าย เบื้องต้นมีประมาณ 30 บัญชีที่สามารถทยอยปิดได้โดยไม่กระทบ และมี 3 บัญชียอดเงินประมาณ 60 ล้านบาท ซึ่งเป็นบัญชีแบบเงินฝากประจำและออมทรัพย์ ที่สามารถปิดได้ทันที

โดยบัญชีธ.ไทยพาณิชย์อยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะกระจายไปยังธนาคารของรัฐที่มีความน่าเชื่อถือ ซึ่งมีหลายธนาคารเสนอรูปแบบในการดูแลเงินและสร้างความเชื่อมั่นเข้ามาให้พิจารณาเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ ได้ทำหนังสือเวียนสอบถามไปยังบุคลากรของสถาบันฯ ว่ายังคงใช้บัญชีธ.ไทยพาณิชย์ ที่เป็นบัญชีเงินเดือนตามเดิมหรือไม่ เพราะขณะนี้บุคลากรส่วนใหญ่ไม่สบายใจ และเท่าที่ทราบมีบุคลากรที่ใช้บัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ในส่วนของบัญชีส่วนตัวได้มีการถอนเงิน และทยอยปิดบัญชีไปแล้วเป็นเงินหลายร้อยล้านบาท อย่างไรก็ตาม การเปิด ปิดบัญชีเป็นเรื่องส่วนบุคคล ทางสถาบันฯไม่บังคับขึ้นอยู่กับสมัครใจของเจ้าของบัญชี

ผศ.ดร.เผ่าภัค กล่าวต่อว่าในฐานะหนึ่งในผู้มีอำนาจลงนามเบิกถอน และเป็นหนึ่งในผู้ถูกกล่าวหา ว่ามีส่วนในการดำเนินการครั้งนี้ ยอมรับว่ารู้สึกไม่สบาย ทั้งที่มั่นใจในความสุจริต แต่อยากให้เรื่องจบโดยเร็ว ที่ผ่านมาได้เข้าให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม 2557 เพราะเป็นคนพบความผิดปกติในบัญชีเป็นคนแรก ส่วนเรื่องการลงนามเบิกถอนเป็นการดำเนินการที่ถูกต้องตามขั้นตอน แต่ปัญหาเกิดขึ้นหลังจากที่เซ็นต์แล้ว

รศ.ดร.จำรูญ เล้าสินวัฒนา รักษาการแทนรองอธิการบดีสจล. กล่าวว่า ที่ผ่านมาทางธ.ไทยพาณิชย์ ได้ส่งสำเนาเอกสารให้สถาบันฯ และเจ้าหน้าที่ตำรวจบ้างแล้ว แต่ยังไม่เป็นที่พอใจ เพราะเป็นเอกสารที่ไม่สามารถสาวไปถึงผู้กระทำผิด ส่วนใหญ่เอกสารที่ส่งมาเป็นสลิปการเบิกถอน แต่ไม่มีข้อมูลว่าเงินที่ถอนแล้วถูกส่งไปที่ใคร ซึ่งถือเป็นหลักฐานสำคัญที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และสถาบันฯต้องการ ดังนั้นในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ จะทำหนังสือถึงธ.ไทยพาณิชย์อีกครั้ง เพื่อขอเอกสารสำคัญ โดยครั้งนี้จะระบุรายการเอกสารที่ต้องการอย่างชัดเจน ส่วนกรณีที่ทางธ.ไทยพาณิชย์ให้นายทรงกลด ศรีประสงค์ ขณะที่เป็นผู้จัดการธนาคารไทยพาณิชย์ นำใบถอนเงินให้ผู้มีอำนาจลงนามเบิกจ่ายของสถาบัน ลงนามย้อนหลัง นั้นขณะนี้ทราบแล้วว่า อดีตผู้บริหารของสถาบันระดับอธิการบดี และรองอธิการบดีลงนามจริง โดยเป็นการลงนามย้อนหลังกว่า 30 รายการ แต่ที่ยังต้องตรวจคือ เป็นลายเซ็นของอดีตผู้บริหารสถาบันฯจริงหรือไม่ หากพบว่าเป็นลายเซ็นปลอมทางธนาคารไทยพาณิชย์ก็ต้องมีส่วนรับผิดชอบกับความเสียหายในครั้งนี้ด้วย โดยขณะนี้ตัวเลขความเสียหายล่าสุดอยู่ที่ 1,586 ล้านบาท ซึ่งเมื่อได้ข้อสรุปทางคดีความแล้วว่าใครมีความผิดอะไรบ้าง และใครต้องรับผิดชอบส่วนใด อย่างไรบ้าง ก็จะต้องมีการฟ้องร้อง ทั้งทางแพ่ง และอาญาต่อไป

“จากการตรวจสอบยอดตัวเลขความเสียหายอยู่ที่ 1,586 ล้านบาท แบ่งเป็นลักษณะความเสียหาย คือ กลุ่มแรก มีเอกสารที่ลงนามโดยผู้บริหารที่มีอำนาจเปิด-ปิดบัญชี จริง แต่เงินไม่ได้ถูกโอนไปในบัญชีของ สจล.จริง กลุ่มที่สอง เป็นเงินที่ผู้บริหารไม่ได้สั่งการใดๆ ให้ปิดหรือเปิด แต่เงินหายไปเฉยๆ ซึ่งล่าสุดที่ตรวจพบคือ แคชเชียร์เช็ค 14 ใบ รวมเป็นเงิน 100 ล้านบาท สั่งจ่ายในนามบุคคล 3 คน ซึ่งไม่ใช่ชื่อของ สจล. คือ นายกิตติศักดิ์ มัทธุจัด,นายพูลศักดิ์ บุญสวัสดิ์ นักศึกษาปริญญาโท, น.ส.อำพร น้อยสัมฤทธิ์ อดีตผอ.กองคลัง สจล. และขณะนี้ได้ตรวจสอบการเบิกจ่ายเงินย้อนหลังถึงปี 2554 แล้วยังไม่พบความผิดปกติเพิ่มเติม แต่ก็ยังไม่สามารถตอบได้ว่าจะพบความผิดปกติใดอีกหรือไม่” รศ.ดร.จำรูญ กล่าว


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : สจล. ปิด3บัญชี ธ.ไทยพาณิชย์ 60ล้าน

view