สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

อาหารเช้า กินไรถึงจะดี

อาหารเช้า กินไรถึงจะดี
โดย : หนูดี วนิษา เรซ

จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์




หนูดี วนิษา ถอดรหัสให้รู้ชัดๆ ว่า อาหารเช้าสำคัญอย่างไร และเมนูอะไรเหมาะสมที่สุดสำหรับมื้อเช้า ที่ว่ากันว่าเป็นอาหารบำรุงสมองในแบบฉบับของเธอ

                ได้ยินกันบ่อยเลยนะคะว่า อาหารเช้าสำคัญมากสำหรับสมอง แต่คนเมืองอย่างเราก็ยังคงรับประทานอาหารเช้าที่ไม่ได้ทำให้สมองพัฒนาและพร้อมใช้งานกันอย่างเต็มที่ ทั้งสมองของคนทำงานและสมองเด็กๆ ซึ่งน่าเสียดายมาก เพราะจริงๆ แล้วอาหารเช้าที่ดีกับสมองเตรียมไว้ไม่ยาก และสามารถเตรียมล่วงหน้าไว้ก่อนนอนได้เลย

                สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้สำหรับกระตุ้นสมองให้ “ตื่นและพร้อม” ในยามเช้าคือ โปรตีน หากสมองไม่ได้โปรตีน เขาจะคิดว่ายังไม่ได้อาหารและสั่งการให้เราหิวและโหยเรื่อยๆ ตลอดวัน ดังนั้น หากเรา “ดับความหิว” ของสมองตอนเช้าได้ นอกจากสมองจะดีแล้วยังทำให้ลดอ้วนได้ เพราะเราจะไม่กินจุบกินจิบด้วยความโหยตลอดวันที่เหลืออีกด้วย

                ดังนั้น สิ่งที่หนูดีท่องไว้ตลอดสำหรับเริ่มวันยามเช้าคือ สมองต้องการโปรตีน เกลือแร่ วิตามินบีและน้ำสะอาดปริมาณมากพอตัวเลย ทั้งนี้ แปลเป็นภาพอาหารได้คร่าวๆ ตามสะดวกของแต่ละบ้านว่า

                โปรตีนและวิตามินบี - ไข่ (เอาไข่แดงออกตามสะดวก) เนื้อสัตว์ (ไม่ไหม้) เต้าหู้ นมวัว (หากไม่แพ้) นมถั่วประเภทต่างๆ (หนูดีลงทุนไม่กี่พันในเครื่องทำนมถั่วอัตโนมัติ ปัจจุบันมีนมอัลมอนด์ นมพิสตาชิโอสดๆ ทานเองสม่ำเสมอ หากชอบหวานใส่ผลอินทผาลัมสดลงผสมในเครื่อง อร่อยแบบไร้น้ำตาลค่ะ)

                หรือใครบอกไม่มีเวลา จัดการโปรตีนชงหนึ่งแก้วล่ำๆ ค่ะ (บางคนบอก ไม่ชอบโปรตีนชงเพราะไม่อร่อย เราปรุงได้ค่ะ ปั่นรวมกับผลไม้เป็นสมูตตี้ก็ได้ เพราะโปรตีนควรทานกับเกลือแร่อยู่แล้วเพราะดูดซึมดีกว่า)  แต่ละวันเวลาเราไม่เท่ากัน คิดเตรียมไว้ก่อนล่วงหน้าจะได้ไม่ขาดโปรตีนนะคะ

                ส่วนวิตามินบี หากเป็นมังสวิรัติก็กินวิตามินบีเม็ดเสริมนะคะ สมองขาดบีไม่ได้จริงๆ ไม่เช่นนั้น เราจะมีอาการเหนื่อยอ่อนและล้าได้ง่าย บางทีล้าไม่รู้ตัวว่าทำไม ลองเช็คดูว่า คุณอาจขาดโปรตีนหรือวิตามินบีค่ะ

                เกลือแร่และไฟเบอร์ - สลัดสักจาน แกงจืดใส่ผักสักถ้วย (ตอนเช้าหนูดีชอบกินผักกาดจอ มันคล้ายแกงจืดแต่ใส่ส้มมะขาม กินแล้วตาสว่างเลยเพราะความเปรี้ยวหอม แนะนำมากๆ สำหรับคนชอบรสเปรี้ยว) หรือถ้าไม่มีเวลาจริงๆ ฝึกตัวเองให้กินแตงกวา มะเขือเทศ แครอทสดๆ เป็นขนมกัดเล่นบนรถระหว่างไปทำงาน ฝรั่งสักลูก แอปเปิ้ลสักผล โยนใส่รถแล้วเคี้ยวตอนรถติด

                น้ำเปล่ามากๆ - แต่ไม่มากเกินไปในระหว่างมื้ออาหารนะคะเพราะจะทำให้การย่อยไม่ดี แต่สำหรับโรงเรียนวนิษาแล้ว หนูดีมีกฎให้เด็กๆ ทุกคนพกกระติกน้ำและค่อยดื่ม/จิบตลอดวัน  โดยโรงเรียนมีตู้น้ำดื่มสะอาดให้กดตลอดวัน สมองทั้งก้อนคือน้ำไม่ต่ำกว่า 78 % ดังนั้น ดื่ม ดื่มและดื่มค่ะ โดยเฉพาะระหว่างมื้ออาหารตอนท้องว่างจะดีที่สุด

                ในสหรัฐอเมริกาพบว่า เด็กนักเรียนที่นำอาหารกลางวันมารับประทานเองนั้น มีสารอาหารไม่ครบตามมาตรฐานของ USDA ถึงสี่ในห้าคน! ส่วนประเทศไทยก็ไม่ได้น้อยหน้าเรื่องการขาดสารอาหารในเด็ก แม้ประเทศของเราจะเป็นอู่ข้าวอู่น้ำแต่เด็กไทยจำนวนมากกลับมีภาวะทุพโภชนาการ

                ข้อมูลจากองค์กร UNICEF พบว่า เด็กไทยดื่มนมแม่น้อยมากเพียง 12% เท่านั้น และมีโภชนาการทั้งขาดและเกินคือ เตี้ยแคระแกรน 16% (ส่งผลให้พัฒนาการสมองช้า) และเป็นโรคอ้วน 11% (มีผลต่อสุขภาพเด็กโดยรวม)

                สำหรับโรงเรียนของเด็กในเมือง แม้พ่อแม่จะมีเวลาให้เด็กเต็มร้อยในการเตรียมอาหารเช้าดีๆ แต่หนูดีพบว่าเด็กที่พ่อแม่มีฐานะมักเป็นเด็ก “กินยาก” คุยกับพ่อแม่ที่โรงเรียนทีไรหนูดีก็จะได้ยินปัญหาซ้ำๆ คือ “ลูกไม่ยอมกินอาหารค่ะ ทำอะไรให้ก็ไม่กินจนน้ำหนักจะไม่ได้ตามเกณฑ์อยู่แล้ว” แต่มีเด็กอีกกลุ่มหนึ่งที่ไม่ว่าจะอยากอาหารเช้าแค่ไหนก็ไม่มีให้กิน นั่นคือ เด็กยากไร้ในต่างจังหวัด ที่ส่วนใหญ่แล้วต้องมาหวังพึ่งอาหารกลางวันที่โรงเรียน

                สมองเด็กทุกก้อนสำคัญเท่ากันหมดสำหรับประเทศไทยของเรานะคะ เพราะในอนาคตเราต้องหวังพึ่งพลังสมองของพวกเขาทุกคน ยิ่งสังคมไทยจะกลายเป็นสังคมผู้สูงอายุในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ก็เท่ากับว่าเด็กไทยของเราทุกคนจะต้องร่วมกันรับภาระหนักนี้ในการนำพาประเทศไทยให้เดินไปข้างหน้าไม่แพ้ประเทศอื่นๆ ในแถบภูมิภาคของเรา

                เห็นความสำคัญแบบนี้ หนูดีและน้องหนูหวานที่ร่วมก่อตั้ง “มูลนิธิมหาสมุทรแห่งปัญญา” จึงตัดสินใจเปิดแคมเปญใหม่ “อาหารเช้าดีสมองดี” สำหรับเด็กๆ ยากไร้และขาดแคลนที่มูลนิธิของเราอีกด้วย เพื่อเป็นช่องทางให้ผู้ใหญ่ใจดีสามารถร่วมบุญอาหารเช้าของเด็กๆ ได้ โดยอาหารเช้าของเด็กยากไร้โรงเรียนละประมาณ 100 คนใช้งบไม่เกิน 2,000 บาทต่อเช้า ตกคนละไม่ถึงยี่สิบบาทแต่เด็กจะมีอาหารเช้าดีๆ โปรตีน ผัก ผลไม้และนมดื่มก่อนเข้าเรียน

                หากใครสนใจสามารถร่วมโครงการนี้กับหนูดีได้ โดยเข้าดูข้อมูลที่ www.oceanwis.org หรือโอนเงินทางบัญชีมูลนิธิ กสิกรไทยเลขที่ 441 2 28660 5 เงินบริจาคสามารถหักลดหย่อนภาษีประจำปี

                เรารักสมองของเราเองและสมองของลูกเราแล้ว เผื่อแผ่ให้เด็กไทยคนอื่นๆ ด้วยนะคะ เด็กที่รอน้ำใจอยู่ในวันนี้อาจโตขึ้นเป็นเด็กอัจฉริยะคนต่อไป ที่ก้าวเข้ามาดูแลประเทศของเราในอนาคตก็ได้ เพราะสมองทุกก้อนสำคัญไม่แพ้กันค่ะ

*จากบทความเรื่อง อาหารเช้าสำคัญมากสำหรับสมอง ในกรุงเทพธุรกิจกายใจ วันอาทิตย์ที่ 1 กุมภาพันธ์ 2558 โดยหนูดี วนิษา เรซ ผู้เชี่ยวชาญด้านสมองและการเรียนรู้ โรงเรียนอนุบาลวนิษา

Facebook Fanpage : หนูดี วนิษา อัจฉริยะสร้างได้

Instagram : Noodi_Vanessa


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : อาหารเช้า กินไร ถึงจะดี

view