สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

รอผลกฤษฎีกา-ผู้ส่งออกหวั่น เอ็มไพร์ ฮุบข้าว 4.5 แสนตัน

จากประชาชาติธุรกิจ

แหล่งข่าวจากคณะทำงานระบายข้าว เปิดเผยกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ถึงการประมูลซื้อข้าวสารจากสต๊อกข้าวรัฐบาล ครั้งที่ 1/2558 ปริมาณ 999,763.61 ตัน ที่เปิดให้ยื่นซองไปเมื่อวันที่ 29 มกราคม 2558 ว่า ได้เสนอความเห็นไปให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) พิจารณาว่า จะอนุมัติขายข้าวให้กับบริษัท เอ็มไพร์ ดีเวลลอปเม้นท์จำกัดหรือไม่

ทั้งนี้ ในวงการค้าข้าวมีการวิพากษ์วิจารณ์กันว่า บริษัทเอ็มไพร์ ดีเวลลอปเม้นท์มีความเกี่ยวพันกันกับบริษทสยามอินดิก้าซึ่งถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดในกรณีการทุจริตซื้อข้าว G to G ในสมัยรัฐบาลชุดที่ผ่านมา โดยมีความเกี่ยวพันกัน 3 ประเด็นคือ

1)มีกรรมการผู้ถือหุ้นในอดีตคือ นายสมยศ คุณจักร (ปัจจุบันชื่อถูกถอดออกจากบัญชีผู้ถือหุ้นไปเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาหรือ ก่อนที่บริษัทนี้จะยื่นประมูลซื้อข้าวจากรัฐบาล)เคยถูกป.ป.ช.ขยายผลสอบ ทุจริตข้าว G to G แต่ ป.ป.ช.สั่งไม่ชี้มูล

2)สถานที่ตั้งของบริษัทอยู่ในบริเวณเดียวกันกับบริษัทสยามอินดิก้า และเลขที่ตั้งบริษัทยังเป็นเลขที่ตั้งเดียวกันกับบริษัทเพรซิเดนท์ อะกริ เทรดดิ้ง ของ นาย อภิชาติ จันทร์สกุลพร ที่ถูกฟ้องล้มละลาย และ 3)บริษัทแจ้งประกอบกิจการธุรกิจให้เช่า-เรือขนสินค้า-อสังหาริมทรัพย์ อาจไม่มีความเชี่ยวชาญในการทำธุรกิจข้าว

แหล่งข่าวเปิดเผยว่า คณะทำงานยังไม่ได้ตัดสิทธิ์บริษัทเอ็มไพร์ฯ แต่เสนอแนวทางให้เลือก โดยขณะนี้ได้ทำเรื่องขอหารือข้อกฎหมายไปยังคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว จากข้อกังวลที่ว่าบริษัทเอ็มไพร์ฯ

เป็นผู้เสนอปริมาณซื้อข้าวด้วยปริมาณและราคาสูงสุด แต่บริษัทนี้กลับไม่เคยมีประวัติการค้าข้าว "จะมีสิทธิ์ชนะการประมูลได้หรือไม่ ตรงนี้คงต้องรายงานต่อ นบข. ขึ้นอยู่กับระดับนโยบายว่า จะตัดสินใจอนุมัติขายหรือไม่ หาก นบข.พิจารณาให้ขายได้ รัฐบาลก็จะสามารถระบายข้าวได้ปริมาณมากกว่า 700,000 ตัน แต่ถ้าไม่ขายให้เอ็มไพร์ข้าวลอตนี้ก็น่าจะระบายได้น้อยกว่า ผมคิดว่ารัฐบาลน่าจะโอเค ถึงแม้จะมีประเด็นข้อกฎหมายบ้างเหมือนกัน คิดว่าอีก 2-3 วันน่าจะมีข้อสรุป" แหล่งข่าวกล่าว

ด้านแหล่งข่าวจากวงการส่งออกข้าวเชื่อว่า หากรัฐบาลพิจารณาอนุมัติขายข้าวที่ปริมาณ 700,000 ตัน บริษัทเอ็มไพร์ฯน่าจะชนะไปถึง 450,000 ตัน หรือสูงที่สุดในการประมูลครั้งนี้ แน่นอนว่าปริมาณข้าวจำนวนดังกล่าวจะสร้างความไม่พอใจให้กับผู้ส่งออกข้าวรายอื่น เช่น บริษัทเอเชียโกลเด้นไรซ์ เสนอซื้อ 300,000-400,000 ตันน่าจะชนะเพียง 160,000 ตัน บริษัทนครหลวงค้าข้าว เสนอซื้อ 300,000-400,000 ตันจะชนะเพียง 20,000 ตัน และบริษัทพงษ์ลาภ เสนอซื้อ 300,000 ตันก็จะชนะไปเพียง 35,000 ตัน

"ดังนั้นผู้ส่งออกข้าวในกลุ่มนี้คงจะต้องไปประมูลรอบต่อไปอีกจากความต้องการข้าวอีกไม่ต่ำกว่า 400,000 ตัน ส่วนข้าวประมูลรอบนี้ที่เหลืออีก 50,000 ตัน น่าจะเป็นของโรงสีหรือรายอื่น ๆ ซึ่งคงต้องแบ่งเค้กกันน้อยมาก โดยเฉพาะโรงสีอีก 30-40 โรงน่าจะเดือดร้อนที่สุด ด้านราคาที่เสนอซื้อข้าว รายใหญ่ให้ราคาซื้อข้าวหอมมะลิ ตันละ 28,000 กว่า ราคาข้าวขาวตันละ 10,500-11,500 แล้วแต่ปี แต่ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ตันละ 11,300-11,500 บาท สูงกว่าราคามูลค่าขั้นต่ำจากข้าวทั้งคลัง (Floor Value)" แหล่งข่าวกล่าว

อย่างไรก็ตาม แม้ว่ากรณีของบริษัทเอ็มไพร์ฯยังไม่ชัดเจน รัฐบาลควรจะแขวนเฉพาะบริษัทนี้ แต่ไม่ควรยกเลิกการประมูลข้าวในส่วนที่เหลือเพราะการประมูลครั้งนี้ราคาเฉลี่ยซื้อก็สูงถึง 11 บาท หรือสูงกว่าราคากลางที่กำหนดไว้อยู่แล้ว


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : รอผลกฤษฎีกา-ผู้ส่งออกหวั่น เอ็มไพร์ ฮุบข้าว 4.5 แสนตัน

view