จากประชาชาติธุรกิจ
ปัญหาที่เกิดขึ้นกับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยยังขยายวงออกไปเรื่อย ๆ
สด ๆ ร้อน ๆ ก็คือความเคลื่อนไหวของยักษ์ใหญ่ "จีเอ็ม-เชฟโรเลต" ที่ปรับเปลี่ยนนโยบายลงทุน ยุติแผนอีโคคาร์ 2 ลดจำนวนรุ่นรถ รวมถึงการเออร์ลี่รีไทร์พนักงานออกไปจำนวนหนึ่ง
การรีดไขมันของยักษ์ใหญ่รายนี้กินอาณาบริเวณไปถึงอินโดนีเซีย ยกเลิกสายพานการผลิตที่นั่นทั้งหมด คงเหลือแต่ฝ่ายขายเท่านั้น
ที่พอให้อุ่นใจอยู่บ้าง "จีเอ็ม-เชฟโรเลต" ประกาศชัดเจนว่า ไทยยังเป็นเป้าหมายสำคัญของภูมิภาคนี้ ยังใช้เป็นฐานการผลิตที่นี่อีกนาน การเก็บกวาดครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อโฟกัสในสิ่งที่ผู้ใช้รถคนไทยสนใจ นั่นก็คือรถปิกอัพและเอสยูวี
อย่างที่รับทราบโดยทั่วไป ปัญหาอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยเกิดขึ้นมาพักใหญ่ ยอดขายร่วงติดต่อกันมาหลายเดือน
ถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะฟื้นตัว
ดาบแรกจากผลกระทบของนโยบายรถคันแรกที่ดึงดีมานด์ล่วงหน้าไปจนหมด ตามด้วยดาบที่สองมาจากสภาพเศรษฐกิจ โดยเฉพาะราคาสินค้าเกษตรที่ตกต่ำ ฉุดกำลังซื้อระดับรากหญ้าไปมหาศาล
ที่ตายไปก่อนใครคือบรรดาเต็นท์รถมือ 2 แบกสต๊อกกันจนหลังแอ่น
ข่าวร้ายที่เกิดกับภาคอุตสาหกรรมการผลิตของไทยไม่ได้มีเพียงแค่กลุ่มยานยนต์ แต่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ก่อนหน้านี้ผู้ผลิตทีวีรายใหญ่จากเกาหลีโบกมือบ๊ายบายเมืองไทย บ่ายหน้าสู่เวียดนามซึ่งมีเงื่อนไขทางธุรกิจเปิดกว้างกว่า ค่าแรงก็ไม่ได้สูงมาก แถมผู้คนที่นั่นยังมีเครื่องรับทีวีไม่มาก ไม่เหมือนบ้านเรา แทบทุกบ้านมีมากกว่า 1 เครื่องทั้งสิ้น
ล่าสุดก็คือรองเท้าทำท่าจะพ่ายพิษต้นทุนค่าแรงตามไปติด ๆ
จริง ๆ ปัญหาเรื่องความล้าหลังของภาคอุตสาหกรรมไทยจนทำให้ตลาดส่งออกหดตัวลง ถูกพูดถึงกันมานาน เราสูญเสียความได้เปรียบทางการแข่งขัน ค่าแรงก็สูงขึ้น ไม่มีนวัตกรรมใหม่ ๆ ไปสู้กับคนอื่น เป็นเพียงทางผ่านของยักษ์ใหญ่ที่ใช้บ้านเราในการผลิต
ทำให้หลัง ๆ มาตลาดส่งออกไม่สดใสเท่าที่ควร
ลำพังการแข่งขันในตลาดโลกหนักหนาสาหัสอยู่แล้ว ที่น่าตกใจก็คือรัฐนี่แหละคือตัวแปรสำคัญทำให้สถานการณ์ย่ำแย่ลงกว่าเดิม
ยกตัวอย่างอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยที่ก่อนหน้านี้จะมีทั้งตลาดในประเทศและตลาดส่งออก เฉลี่ย ๆ กันไป
ปีไหนส่งออกไม่ดีก็ได้ยอดขายในประเทศมาค้ำจุน ปีไหนในประเทศแย่ก็ได้ส่งออกมาช่วยต่อลมหายใจ
แต่วันนี้ทั้งยอดขายในประเทศและส่งออกดันมามีปัญหาพร้อม ๆ กัน
ผู้เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยบ่นให้ฟังว่า ค่าเงินบาทที่แข็งค่ากว่าทุกประเทศในภูมิภาค ในทางกลับกัน เงินเยนยังอ่อนค่าลงมาก บวกกับค่าแรงที่สูงลิบลิ่ว ใครจะไปเชื่อว่าทั้งหมดนี้มีผลให้ราคารถยนต์ผลิตในประเทศไทยและญี่ปุ่น แทบไม่มีความแตกต่างกัน เผลอ ๆ ผลิตในญี่ปุ่นอาจจะถูกกว่าเสียอีก
โชคดีว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ใช้เงินลงทุนมหาศาล ไม่ได้โยกย้ายฐานการผลิตง่าย ๆ เหมือนอุตสาหกรรมอื่น ๆ
ไม่งั้นเราคงได้เห็นค่ายรถญี่ปุ่นโยกฐานการผลิตกลับบ้านกันบ้าง
ย้อนถามกลับไปว่า ฟากอุตสาหกรรมยานยนต์อยากขอความช่วยเหลืออะไรบ้างไหมจากรัฐบาล คำตอบที่ได้รับก็คือ
...เวลาจะมีนโยบายอะไรส่งผลโดยตรงถึงอุตสาหกรรมนี้ ประเภทนโยบายรถคันแรก หรือค่าแรง 300 บาท ได้โปรดคิดถึงผลกระทบให้รอบคอบ อย่ามองแค่คะแนนเสียงเท่านั้น อย่าลืมว่าปีปีหนึ่งอุตสาหกรรมประเภทนี้หล่อเลี้ยงเศรษฐกิจไทยมหาศาล
ได้โปรดอย่าได้เอาประชานิยมมาเล่นกับอุตสาหกรรมรถยนต์อีกเลย !!!
สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน