สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ไล่ออก 3 ข้าราชการ ทุจริต G to G ระบายข้าว

จากประชาชาติธุรกิจ

คอลัมน์ สามัญสำนึก โดย ถวัลย์ศักดิ์ สมรรคบุตร

เมื่อวันที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมา คณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.ก.พ.) กระทรวงพาณิชย์ ได้มีมติให้ "ไล่ออก" ข้าราชการระดับสูงจำนวน 3 คน ได้แก่ นายมนัส สร้อยพลอย อดีตอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ปัจจุบันเกษียณอายุราชการไปแล้ว, นายทิฆัมพร นาทวรทัต อดีตผู้อำนวยการสำนักการค้าข้าวต่างประเทศและรองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ และ นายอัครพงศ์ ช่วยเกลี้ยง หรือ ทีปวัชระ อดีตเลขานุการและผู้อำนวยการกองร่วมมือการค้าและการลงทุน

หลังจากที่คณะอนุกรรมการได้พิจารณาเอกสารผลการสอบสวนของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เรื่องการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวและการระบายข้าวกรณีของนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในคณะรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งเจ้าตัวก็ถูกชี้มูลความผิดในโครงการรับจำนำข้าว และถูกอัยการส่งฟ้องศาลในที่สุด

ผลการสอบสวนของคณะอนุกรรมการการไต่สวนของ ป.ป.ช.ระบุอย่างชัดเจนว่า ข้าราชการทั้ง 3 คนมีส่วนร่วมกันกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานรัฐ พ.ศ. 2542 พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 92 และ 97 ด้วยการแบ่งหน้าที่กันทำงานโดยช่วยเหลือ มุ่งหมาย และเอื้อประโยชน์ในการขายข้าวที่อ้างว่าเป็นสัญญาแบบรัฐต่อรัฐ หรือ G to G ให้กับบริษัท Guangdong Stationery & Sporting Goods Imp & Exp Crop กับ Hainan Grain and Oil Industrial Trading Company

โดยที่บริษัททั้ง 2 ไม่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลจีนให้เข้ามาทำสัญญา G to G ดังกล่าว ผลของการช่วยเหลือให้บริษัททั้ง 2 ได้ทำสัญญาซื้อขายข้าวกับรัฐบาลไทย ทำให้บริษัทจีนไม่ต้องแข่งขันราคาซื้อขายข้าวกับผู้ซื้อข้าวรายอื่น ๆ และยังนำข้าวที่แอบอ้างว่า เป็นข้าว G to G ที่ซื้อมาในราคาต่ำ (ต่ำกว่าราคารับจำนำ) ไปขายให้กับบุคคลหรือบริษัทผู้ค้าข้าวภายในประเทศ ที่สำคัญยังนำข้าวไปขายให้กับบริษัทสยามอินดิก้า เพื่อนำไปขายต่ออีกทอดหนึ่งด้วย

กระบวนการทุจริตในการขายข้าว G to G หรือที่รู้จักกันดีในนาม G to G เก๊ข้างต้น แม้นักการเมืองจะเป็นผู้สั่งการ แต่จะไม่สามารถดำเนินการได้ หากข้าราชการกระทรวงพาณิชย์ไม่สนองตอบต่อความต้องการนั้น แต่เป็นที่น่าเสียดายที่หลักฐานการสั่งการในกระบวนการซื้อขายข้าว G to G ในครั้งนี้ถูกมัดโยงไปถึงข้าราชการผู้เกี่ยวข้องเพียง 3 คนเท่านั้น แต่มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า ยังมีผู้เกี่ยวข้องที่มีส่วนรู้เห็น หรือสนับสนุน หรือรู้ แต่ไม่รายงาน อีกจำนวนหนึ่งหลุดรอดจากคดีทุจริตข้าว G to G ไปได้

พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงข้าราชการทั้ง 3 คนนี้ว่า รู้สึกเสียใจที่จะต้องมาไล่ออกข้าราชการ ตลอดชีวิตการทำงานไม่เคยไล่ใครออกมาก่อน แต่โดยหลักการ ข้าราชการต้องทำหน้าที่ตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา แต่หากเห็นว่า "คำสั่งนั้นไม่ถูกต้องก็อย่าไปปฏิบัติ" หากข้าราชการไม่เข้มแข็ง หรือหวังผลอย่างอื่นในอนาคต และไปปฏิบัติตาม ก็จะส่งผลเสียหายแก่ตัวเอง

"เรื่องนี้ผมตัดสินเป็นอย่างอื่นไม่ได้ ทุกอย่างมีระเบียบชัดเจน ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด (เรื่องทุจริตข้าว G to G) มาแล้ว ถึง ป.ป.ช.ลงโทษไม่ได้ ก็ต้องให้ต้นสังกัดเป็นคนลงโทษเอง"

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าข้าราชการทั้ง 3 คนจะถูก "ไล่ออก" อันเป็นโทษสูงสุดไปแล้วก็ตาม แต่ขั้นตอนต่อไปจะต้องถูกฟ้องร้องทางแพ่ง และการดำเนินคดีทางอาญาจากฐานความผิดที่ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลด้วย

เพียงแต่ครั้งนี้ เจ้าตัวทั้ง 3 ไม่ต้องต่อสู้คดีเพียงลำพัง เพราะตามสำนวนคดีของ ป.ป.ช.ได้ชี้มูลทุจริตข้าว G to G ลากโยงตั้งแต่นักการเมืองใหญ่ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์, นายภูมิ สาระผล, พ.ต.วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ (ผู้ช่วยเลขานุการ รมว.พาณิชย์ ในขณะนั้น), นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร และกรรมการ/ผู้เกี่ยวข้อง/ผู้แทน บริษัทสยามอินดิก้า ร่วม ๆ อีก 13 คน ครบทั้งตัวผู้สั่งการ ผู้ปฏิบัติ และผู้รับประโยชน์ ต่อสู้คดีในศาลกันอีกยาว


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : ไล่ออก ข้าราชการ ทุจริต G to G ระบายข้าว

view