จาก โพสต์ทูเดย์

โดย...บงกชรัตน์ สร้อยทอง

สมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน จัดสัมมนาในหัวข้อ “คลินิกแบ่งปันความรู้สู่วิชาชีพธุรกิจในตลาดเงินและตลาดทุน” สำหรับนักศึกษาและนักวิเคราะห์รุ่นใหม่ มีวิทยากรเป็นนักวิเคราะห์รุ่นพี่มาแนะนำได้แก่ “กอบสิทธิ์ ศิลปชัย” ผู้บริหารงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย “พิชัย เลิศสุพงศ์กิจ” ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.ธนชาต “สิริณัฏฐา เตชะศิริวรรณ” อาจารย์พิเศษจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และ “รัชกฤษณ์พงศ์ เอกรังสรรค์” กรรมการผู้อำนวยการ สมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน ที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อเร็วๆ นี้

วิธี การค้นพบเป็นนักวิเคราะห์

“กอบสิทธิ์” บอกว่า จะเรียนจบบริหารหรือเศรษฐศาสตร์มาได้หมด แต่สิ่งสำคัญคือต้องรู้จักเรียนรู้ เพราะสิ่งที่นอกเหนือตำรามีอยู่มาก และมีปัจจัยใหม่เข้ามาสม่ำเสมอ ทั้งตราสารทางการเงิน ตราสารทุน ซึ่งวิธีการค้นพบว่าตัวเองเหมาะกับอาชีพนี้หรือไม่ ลองสังเกตตัวเองจากการตามดูข่าวของสำนักข่าวต่างประเทศได้นานขนาดไหน ถ้าเพียง 5 นาทีแล้วรู้สึกต้องการเปลี่ยนช่องอื่นก็ไม่น่าจะใช่แล้ว

“พิชัย” มองว่าต้องมีความรู้ทางด้านบัญชีและการเงินเป็นอย่างดี รวมถึงเศรษฐกิจมหภาค เข้าใจในนโยบายการเงินและการคลังเป็นอย่างดี รวมถึงมีพื้นฐานเข้าใจข้อมูลเชิงลึกและธุรกิจบริษัทจดทะเบียน (บจ.) นั้นๆ อีกทั้งต้องรอบรู้ติดตามข่าวต่างประเทศ พร้อมอึดและพร้อมเสนอข้อมูลแก่ลูกค้าสถาบันตลอดเวลา แม้จะมีปัญหาเรื่องคน เวลาที่แตกต่างกัน

“สิริณัฏฐา” ที่ปัจจุบันผันตัวเองไปเป็นอาจารย์สอนในมหาวิทยาลัยแล้ว ยอมรับว่านักวิเคราะห์เป็นอาชีพที่ได้ใช้ความรู้ที่เรียนมาเต็มๆ แถมยังมีโอกาสเจอผู้บริหาร บจ.ต่างๆ เป็นการเรียนรู้ที่ไม่มีวันสิ้นสุด และเป็นอาชีพที่ต้องมีความมานะ อดทน เพราะใช้เวลาการวิเคราะห์นานในแต่ละวัน และนานกว่าจะเป็นโมเดลของตัวเอง

คุณสมบัติของนักวิเคราะห์

“กอบสิทธิ์” แนะนำว่า ควรหาจุดเด่นของตัวเองว่าจะมีความแตกต่างหรือมีความเป็นเชิงลึกมากขึ้น เพราะหุ้นตัวหนึ่งจะถูกนำเสนอโดยนักวิเคราะห์หลายคน จึงต้องสร้างจุดต่าง เพราะอุตสาหกรรมการแข่งขันสูง เป็นทั้งเพื่อนและคู่แข่งในเวลาเดียวกัน อีกทั้งต้องรู้จักเอาตัวรอดให้ได้ ประหนึ่งเป็นมาม่าที่เสร็จเร็วและพร้อมจะกินได้เลย

ขณะที่ข้อมูลมีการเคลื่อนไหวตลอด 24 ชั่วโมง ตลาดเงิน ดอกเบี้ย บอนด์ เป็นอย่างไร ต้องตามให้ทัน การเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมของแต่ละธุรกิจที่มีฤดูกาล ต้องสามารถแนะนำผลกระทบ การลงทุนระยะยาว หรือความเสี่ยงจากการลงทุนด้วย ต้องค้นข้อมูลแล้วค้นอีก เหมือนทำหน้าที่เป็นนักสืบให้นักลงทุน

มุมมองของ “สิริณัฏฐา” นักวิเคราะห์ต้องมีพื้นฐานที่แม่น มีความรู้ในเชิงกว้างเรื่องเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม ขณะที่ต้องมีมุมมองในเชิงลึกในตัวหุ้นนั้นๆ ด้วย เมื่อข้อมูลอยู่รอบตัวอย่างมหาศาล แต่ต้องรู้วิธีย่อยพวกนี้ได้เร็ว พร้อมนำเสนอให้ถูกต้อง รวมถึงต้องช่วยสร้างความมั่นคงให้ลูกค้าด้วย

“รัชกฤษณ์พงศ์” และ “พิชัย”  เสริมว่า เช่นเดียวกันที่ทุกอาชีพควรคำนึงและให้ความสำคัญนั่นคือ เรื่องจรรยาบรรณ โดยเฉพาะกรณีที่ต้องเกี่ยวข้องกับสายงานวาณิชธนกิจที่ทำหน้าที่จำหน่ายหุ้น แต่ถ้าฝ่ายวิจัยต้องมาวิเคราะห์หุ้นตัวนั้น ต้องพิจารณาให้ดีว่ากำลังสวมบทบาทไหน ต้องแยกให้ออกว่าเราจะสวมหมวกใบไหนกันแน่ ถ้าจะออกบทวิเคราะห์มาก็ต้องแน่ใจว่าจะไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน และท้ายสุดคือ ควรมีอิทธิบาท 4 คือ ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา เหมือนทุกอาชีพ คือ ชอบอย่างเดียวไม่พอ ต้องปฏิบัติ พากเพียรและเอาใจใส่กับงานที่อยู่ตรงหน้าให้เต็มที่

นักวิเคราะห์สามารถต่อยอดงานอื่น

“สิริณัฏฐา” และ “พิชัย” บอกว่า อย่ามองว่าเป็นนักวิเคราะห์แล้วก็ต้องทำอาชีพนั้นตลอดไป จริงๆ นักวิเคราะห์สามารถเป็นพื้นฐานช่วยต่อยอดหรือเติบโตทั้งในสายงานของตัวเอง เช่น การเป็นนักวิเคราะห์อาวุโสที่มีความเชี่ยวชาญ และยังสามารถเติบโตในสายบริหาร เช่น เป็นผู้บริหารสูงสุดของแต่ละบริษัทหลักทรัพย์ ซึ่่งปัจจุบันมีให้เห็นกันมาก

แม้กระทั่งในสายงานอื่น ไม่ว่าจะเป็นอาจารย์สอนในระดับมหาวิทยาลัยที่จะมาช่วยเสริมสร้างความเข้าใจให้นิสิตนักศึกษาได้เข้าใจในอุตสาหกรรมได้ยิ่งขึ้น หรือแม้กระทั่งผู้จัดการกองทุนของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ต่างๆ อีกทั้งยังสามารถเป็นนักลงทุนสัมพันธ์ (IR) ผู้บริหารฝ่ายบัญชีและการเงิน (CFO) ซึ่งปัจจุบันก็เป็นที่ต้องการของ บจ.ที่มีกว่า 600 แห่ง

จากคำแนะนำของนักวิเคราะห์รุ่นพี่ ถ้าสนใจในสายวิชาชีพนี้แล้ว ก็อย่ารอช้ารีบสำรวจตัวเองและลงมือทำ

สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน