จากประชาชาติธุรกิจ
โดย ธนา เธียรอัจฉริยะ ผอ.สถาบันพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ทางธุรกิข มหาวิทยาลัยศรีปทุม
เวลาไปบรรยายตามบริษัทต่าง ๆ ผมมักจะเจอคำถามจากพนักงานอยู่บ่อยครั้ง ว่าจะทำอย่างไรถึงจะรู้จักตัวเองและเห็นเป้าหมายตัวเองชัด ๆ ว่าอยากทำอะไร Career Path ของตัวเองจะเป็นแบบไหน เพราะตอนนี้ก็ได้แต่ทำงานไปวัน ๆ ไม่มีแรงบันดาลใจอะไรเลย
ในขณะเดียวกัน ตัวบริษัทเองก็ต้องปรับตัวมากกับพนักงาน โดยเฉพาะพนักงาน Gen Y รุ่นใหม่ ๆ ที่ถ้าไม่สนุก ไม่มี Career Path ที่ชัดเจน ก็ไม่อยากทำ พาลจะลาออกกันง่าย ๆ วิธีคิดของพนักงานก็เปลี่ยนไปจากเดิมตั้งใจจะอยู่บริษัทจนเกษียณ มาเป็นไม่ชอบ ไม่สนุก ไม่ท้าทายก็ไม่อยู่
ผมเพิ่งดูตอนหนึ่งใน Series ดังของอเมริกาชื่อ House of Cards เป็นตอนที่นักข่าวสาวคุยกับเจ้าของสำนักข่าวออนไลน์ เจ้าของบอกว่าพอบริษัทใหญ่ขึ้นอีกสองปีก็คงขายบริษัท นักข่าวสาวก็ตกใจเล็ก ๆ แล้วบอกว่างั้นก็ต้องเตรียมหางานใหม่อีกสองปีจากนี้ละสิ เจ้าของยักไหล่แล้วบอกว่า เดี๋ยวนี้น่ะ ทำงานที่ไหนเกินสองปีก็นานเกินพอแล้ว
Career Path ของคนรุ่นใหม่เป็นแบบนี้
แล้วเวลาเราคุยกับลูกน้องเรา เราควรจะชี้ทาง ชี้ Career Path ของเขาได้อย่างไร
....................
ผมออกมาจากดีแทคหลายปีแล้ว แต่ผู้บริหารท่านหนึ่งของดีแทคเพิ่งมาเล่าให้ผมฟังว่า คุณซิคเว่ เบรคเก้ เจ้านายเก่าของผมซึ่งปัจจุบันเป็นซีอีโอของดีแทค เรียกประเมินตัวต่อตัว ผู้บริหารท่านนี้กำลังสับสนในชีวิตเพราะต้องทำงานหลายอย่างและไม่รู้ว่าจะพัฒนาตัวเองไปทางไหนชัด ๆ
หลังจากคุณซิคเว่นั่งฟังผู้บริหารเล่าโน่นนี่อยู่พักหนึ่ง คุณซิคเว่ก็เริ่มถามคำถามสั้น ๆ ว่า "ตื่นเช้ามาคุณมีความรู้สึกอยากทำอะไร อยากเปลี่ยนแปลงโลก อยากสร้างของ อยากทำการค้า หรือมีความอยากจะรู้เรื่องอะไรลึก ๆ เป็นพิเศษ"
หลังจากคุยกันสักพัก คุณซิคเว่บอกว่าที่ถามความรู้สึกเพราะอยากจะให้รู้ตัวเองแล้วอธิบายว่า ถ้าตื่นมาอยากเปลี่ยนแปลงโลก อยากเปลี่ยนแปลงอะไรรอบตัว ทางที่คุณน่าจะพัฒนาต่อคือ Leadership
ถ้าคุณตื่นมาแล้วอยากสร้างอะไร สนุกกับการหาสตางค์ อยากขยายอาณาจักร มีความสุขกับสิ่งที่ตัวเองสร้าง ก็น่าจะพัฒนาไปในทาง Entrepreneurship
ถ้าคุณตื่นมาแล้วอยากรู้อะไรลึก ๆ ประเภทแฟนพันธุ์แท้ กระหายอยากได้ความรู้เพิ่มเติมในเรื่องใดเรื่องหนึ่งตลอดเวลา ก็น่าจะพัฒนาไปในทางที่เป็น Expert
แต่สิ่งที่ต้องถามตัวเองชัด ๆ คือ ตื่นเช้ามามีความรู้สึกอะไรต่อตัวเอง
ความชัดเจนต่อตัวเองในการถามคำ ถามแบบนี้นั้นมีประโยชน์แน่สำหรับพนักงานหรือผู้บริหารแต่ที่น่าสนใจในคำถาม ของคุณซิคเว่ในมุมขององค์กรก็คือบริษัทหนึ่ง ๆ ที่จะประสบความสำเร็จนั้น จะต้องประกอบด้วยคนเก่งที่รู้จักตัวเองและมีวิญญาณในสามประเภทนี้-ผู้นำ ผู้ประกอบการ และผู้เชี่ยวชาญ แน่นอนว่า แค่คำถามของซีอีโอหนึ่งคนคงไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรได้มาก ถ้าองคาพยพอื่นไม่ได้มีการเตรียมการรองรับความต่างแต่สำคัญของคนสามสายนี้ ปัญหาขององค์กรส่วนใหญ่คือ ระบบที่ใช้ในการพัฒนาบุคลากรเป็นระบบเดียว มีการเลื่อนขั้นเป็นผู้จัดการ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ แบบโบราณ และไม่ได้รองรับหรือทำให้พนักงานอยากทำและเติบโตเป็นผู้เชี่ยวชาญ ผู้นำ หรือมีวิญญาณผู้ประกอบการได้เลย
เมื่อเช้าตื่นมา ผมก็ลองถามตัวเองดูว่าผมมีความรู้สึกอยากทำอะไร ผมตอบตัวเองได้อย่างชัดเจนว่าผมชอบที่จะทำอะไรที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลง อยากเปลี่ยนอะไรรอบ ๆ ตัวให้มันดีขึ้น ชอบที่จะมีโอกาสในการเปลี่ยนชีวิตคน ตอนนี้ผมโชคดีที่ได้มาทำหลักสูตรเอบีซีที่มหาวิทยาลัยศรีปทุม และได้มีโอกาสเปลี่ยนชีวิตนักเรียนจากกิจกรรมต่าง ๆ แต่คิดไปก็เสียดายอยู่สองประการ ประการแรกคือ คนมีความชอบด้าน Leadership แต่ไม่ได้โชคดีอย่างผม และต้องอยู่ในบริษัทที่ไม่ได้สนับสนุนความสามารถด้านนี้ของเขาให้เด่นชัดขึ้นมา และอีกประการหนึ่งก็เสียดายที่ผมไม่มีโอกาสเข้าใจว่าชอบอะไรตั้งแต่ยังหนุ่ม และไม่ได้มีโอกาสพัฒนาตัวเองในด้านนี้อย่างจริงจัง...
เสียดายที่ถามตัวเองช้าไปสิบกว่าปี
สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน
