ป.ป.ช.สั่งอายัดทรัพย์ "ธาริต เพ็งดิษฐ์" สงสัยรวยผิดปกติ

จากประชาชาติธุรกิจ

วันที่ 19 เม.ย. นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เปิดเผยว่า ที่ประชุมกรรมการ ป.ป.ช. ตรวจพบว่า นายธาริต เพ็งดิษฐ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ มีพฤติการน่าเชื่อว่าจะมีการโอน ยักย้าย แปรสภาพ หรือซุกซ่อนทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการร่ำรวยผิดปกติ จึงมีคำสั่งให้มีการอายัดทรัพย์สินของนายธาริต และนางวรรษมล เพ็งดิษฐ์ ไว้เป็นการชั่วคราว รวมมูลค่า 40,954,720.58 บาท ดังต่อไปนี้

1.รายการทรัพย์สินของ นายธาริต เพ็งดิษฐ์  มูลค่ารวม 1,706,441.63 บาท ดังนี้

1.1 เงินฝากในบัญชีเงินฝากธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)  จำนวน 1 บัญชี

1.2 เงินฝากในบัญชีเงินฝากธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)  จำนวน 4 บัญชี

1.3 เงินฝากในบัญชีเงินฝากธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน)  จำนวน 1 บัญชี

1.4 ที่ดินในอำเภอมโนรมย์ จังหวัดชัยนาท จำนวน 1 แปลง  เนื้อที่ 2 ไร่ 38 ตารางวา

1.5 ทรัพย์สินในตู้นิรภัยของธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน) สาขาสำนักธุรกิจรัชดาภิเษก ตู้นิรภัยเลขที่ 047 ตามสัญญาเช่าตู้นิรภัยลงวันที่ 20 ธันวาคม 2555

2.รายการทรัพย์สินของ นางวรรษมล  เพ็งดิษฐ์  มูลค่ารวม 39,248,278.95 บาท ดังนี้

2.1 เงินฝากในบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)  จำนวน 1 บัญชี

2.2 เงินฝากในบัญชีเงินฝากธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)  จำนวน 1 บัญชี

2.3 เงินฝากในบัญชีเงินฝากธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)  จำนวน 4 บัญชี

2.4 เงินฝากในบัญชีเงินฝากธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน)  จำนวน 1 บัญชี

2.5 ที่ดินอำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี  จำนวน 1 แปลง  เนื้อที่ 3 งาน 84 ตารางวา 

2.6 ที่ดินอำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา  จำนวน 3 แปลง  เนื้อที่ 4 ไร่ 50 ตารางวา

2.7 บ้านเลขที่ 414 ตำบลหลักหก อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี  จำนวน 1 หลัง

2.8 บ้านคอนกรีตเสริมเหล็ก 2 ชั้น เลขที่ 444 และสิ่งปลูกสร้างไม่มีเลขที่ จำนวน 5 หลัง   หมู่ที่ 11 ตำบลหนองน้ำแดง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา

2.9 รถยนต์ยี่ห้อ MERCEDES BENZ รุ่น E 250  เลขทะเบียน ญฉ 414 กรุงเทพมหานคร

2.10 รถยนต์ยี่ห้อ  TOYOTA  รุ่น ALPHARD เลขทะเบียน ฆฐ 515 กรุงเทพมหานคร

นอกจากนั้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังได้มีคำสั่งให้ นายธาริต  เพ็งดิษฐ์ แสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของตนเอง คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ภายใน 30 วัน ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542  มาตรา 79 ด้วย

ที่มา : มติชนออนไลน์

"ธาริต" ซัดเป็นขบวนการดิสเครดิต คาดจะให้บิ๊กตู่ใช้ ม.44 หยุดปฏิบัติหน้าที่

ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

วันที่ 19 เมษายน นายธาริต เพ็งดิษฐ์ ที่ปรึกษาประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยถึงคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติให้อายัดทรัพย์สิน 40.9 ล้านบาท กรณีมีเหตุอันควรสงสัยว่าร่ำรวยผิดปกติ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งอธิบดีดีเอสไอ ว่า ตนและนางวรรษมล เพ็งดิษฐ์ ภรรยา ได้รับคำสั่งอย่างเป็นทางการจาก ป.ป.ช.มาตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค.ว่า มีการอายัดทรัพย์ของตน 1.7 ล้านบาท ของภรรยา 39.2 ล้านบาท รวมกว่า 40 ล้านบาท ซึ่งตนทราบมติก่อนหน้าที่ ป.ป.ช.จะแถลงข่าว

นายธาริตกล่าวว่า ในวันจันทร์ที่ 20 เม.ย.นี้ จะครบหนดเวลา 30 วัน ดังนั้นเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาได้ยื่นเอกสารขอเลื่อนการชี้แจงต่อออกไป 30 วัน  มั่นใจว่าสามารถชี้แจงต่อ ป.ป.ช.ถึงที่มาทรัพย์สินได้ทุกรายการ การที่ ป.ป.ช.มีคำสั่งอายัดทรัพย์เป็นเพียงการอายัดชั่วคราวในทางทะเบียน เช่นเดียวกับที่ตนเคยมีคำสั่งอายัดทรัพย์สินของผู้ต้องหาไว้ในชั้นสอบสวนของ ดีเอสไอ ปัจจุบันตนยังอยู่บ้านและที่ดินได้ตามปกติ

นายธาริตกล่าวอีกว่า ขอตั้งข้อสังเกตในกรณีดังกล่าว 2 ประเด็น ประเด็นแรกในปี 2552 เมื่อครั้งได้รับแต่งตั้งเป็นเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการ ทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ตนและภรรยาได้ยื่นบัญชีทรัพย์สินไว้ต่อ ป.ป.ช. มีทรัพย์มูลค่า 37.3 ล้านบาท ผ่านไป 5 ปี ทรัพย์สินเพิ่มขึ้นเป็น 40 ล้านบาท ขอถามว่ามันเป็นการร่ำรวยผิดปกติอย่างไร แต่ไม่เป็นไรพร้อมให้ตรวจสอบ ประเด็นต่อมา ตนเชื่อว่ากรณีที่ถูกร้องให้ตรวจสอบทรัพย์สิน

เพราะที่ผ่านมาระหว่างที่ดำรงตำแหน่งอธิบดีดีดีเอสไอ เข้าไปทำคดีสำคัญ หลายคดีตั้งแต่คดีการสลายการชุมชุมทางการเมือง หรือคดี 99 ศพ คดีทุจริตการก่อสร้างโรงพัก คดีกลุ่ม กปปส. หลังจากนั้น คสช.มีคำสั่งให้พ้นจากตำแหน่งหน้าที่ ตนถูกฟ้องร้องดำเนินคดีมากถึง30 คดี และยังถูกร้องให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบ ซึ่งยืนยันจะการต่อสู้ในระบบกระบวนการยุติธรรมในชั้นศาลอย่างถึงที่สุด เชื่อว่าการที่ ป.ป.ช. ออกมาในลักษณะนี้ เป็นหนึ่งในขบวนการดิสเครดิต ตนเป็นเป้าหมายลำดับต้นอยู่แล้ว

"จากบทบาทอธิบดีดีเอสไอที่เข้าไปรับผิดชอบคดีสำคัญหลายคดี โดยขัดขวางการเลือกตั้งที่ดำเนินคดีกับกลุ่มนักการเมือง ที่กลายเป็นจำเลยถูกห้องคดีต่อศาล ซึ่งคนกลุ่มนี้ล้วนเป็นผู้ทรงอิทธพลของ ประเทศไทย  พอผมพ้นตำแหน่งคนกลุ่มนี้ก็ดำเนินคดีกับผมในทุกรูปแบบฟ้องศาลอาญา 30 คดี  และศาลตัดสินยกฟ้องไปแล้ว 19 คดี ร้องต่อ ปปช.ร้องเรียนต่อกระทรวงยุติธรรม และยังมีวิธีการต่าง ๆ มีสื่อมวลชนบางแขนงก็ลงข่าวให้ร้ายผมมาโดยตลอด ผมเชื่อว่าเป็นขบวนการเดียว กันที่พยายามลดความน่าเชื่อถือของผม ซึ่งเป็นผลแห่งคดี เพราะตัวผมเพียงลำพังไม่มีค่ามากมายขนาดนั้น แต่ในที่สุดแล้วการดิสเครดิตหรือกลั่นแกล้งมันจะต้องถูกตัดสินโดยศาล ยุติธรรม รวมถึงเรื่องของ ป.ป.ช.ที่อายัดทรัพย์ผมด้วย ทุกอย่างต้องไปว่ากันในระบบศาลยุติธรรม ทุกคดีผมพร้อมต่อสู้จนถึงชั้นฎีกา ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะได้รับความเป็นธรรมอย่างแน่นอน"

ผู้สื่อข่าวถามว่า ป.ป.ช.มีคำสั่งอายัดทรัพย์ตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค. เหตุใดจึงเพิ่งแถลงข่าวหลังเวลาผ่านมานานกว่า 1 เดือน นายธาริต กล่าวว่า เรื่องนี้สันนิษฐานว่าอาจเป็นการแถลงข่าวให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีมีคำสั่งตามาตรา 44 ให้ตนออกจากราชการระหว่างการอายัดทรัพย์สินของ ป.ป.ช.  ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะรายชื่อข้าราชการพัวพันกับการทุจริต 100 รายชื่อที่ส่งให้นายกฯพิจารณาดำเนินการทางวินัยเมื่อวันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมา ไม่มีชื่อตนปรากฎอยู่ เพราะที่ผ่านเรื่องของตนที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของ ป.ป.ช.ยังไม่เรื่องไหนชี้มูลความผิด ดังนั้นนี่อาจเป็นเป้าหมายนี้ในการนำกรณีตนออกมาเผยแพร่แถลงข่าวในครั้งนี้

นายธาริตยังกล่าวอีกว่า จากกรณีที่นายสรรเสริญ เลขาธิการปปช. ได้ออกมารับระบุว่า การที่ป.ป.ช.สั่งอายัดทรัพย์สินตนกับภรรยา เป็นเพียงการอายัด เนื่องจากมีข้อสงสัยว่าร่ำรวยผิดปกติหรือไม่ และไม่เกี่ยวข้องกับการการทุจริตในโครงการใด ๆ หรือเครือข่ายการทุจริต  อีกทั้งกรณีที่ ปปช.ตั้งอนุไต่ส่วนหลายคดียังไม่เคยมีการเรียกตนไปชี้แจงแต่อย่างใด ดังนั้นหากมีหน่วยงานใดหรือบุคคลใด พยายามที่จะเสนอชื่อตนให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับการทุจริต เพื่อเสนอให้นายกรัฐมนตรี อาศัยอำนาจหน้าตามมาตรา 44  ของรัฐธรรมนูญ ชั่วคราวเพื่อออกคำสั่งให้ตนออกจากราชการหรือหยุดปฏิบัติหน้าที่ ตนจะดำเนินการตามใช้สิทธิตามกฎหมาย หรือหน่วยงานที่พยายามจะทำเช่นนั้น เนื่องจากตนมองว่าไม่เป็นธรรมและถูกกลั่นแกล้ง จึงต้องใช้สิทธิตามกฎหมายเช่นกัน

ที่มา : มติชนออนไลน์

“ธาริต” งานเข้า! ป.ป.ช.สั่งอายัด 40.9 ล้าน ชี้ส่อซุกทรัพย์รวยผิดปกติ จี้ยื่นแจงบัญชีใน 30 วัน

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

เลขาฯ ป.ป.ช.แถลงมติที่ประชุม มีคำสั่งอายัดทรัพย์อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษและภรรยา รวม 40.9 ล้านบาท หลังพบมีพฤติการณ์น่าเชื่อว่าโอน-ยักย้าย-แปรสภาพ-ซุกซ่อนทรัพย์สินที่ร่ำ รวยผิดปกติตามการสอบสวน พร้อมสั่งให้แสดงทรัพย์สินและหนี้สินภายใน 30 วัน
       
       วันนี้ (19 เม.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้แถลงถึงมติที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. ว่าตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้มีคำสั่งที่ 631/2557 ลงวันที่ 30 ตุลาคม 2557 แต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนกรณีมีเหตุอันควรสงสัยว่านายธาริต เพ็งดิษฐ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ร่ำรวยผิดปกติ โดยมีนายปรีชา เลิศกมลมาศ กรรมการ ป.ป.ช.เป็นประธานอนุกรรมการไต่สวนนั้น คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้ตรวจพบว่า นายธาริตมีพฤติการณ์น่าเชื่อว่าจะมีการโอน ยักย้าย แปรสภาพ หรือซุกซ่อนทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการร่ำรวยผิดปกติจึงได้มีคำสั่งให้ อายัดทรัพย์สินของนายธาริต และนางวรรษมล เพ็งดิษฐ์ ภรรยา ไว้เป็นการชั่วคราวตามมาตรา 78 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 ได้แก่ เงินฝาก ที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง และยานพาหนะ รวมมูลค่า 40,954,720.58 บาท
       
       โดยมีรายการทรัพย์สินของนายธาริตมูลค่ารวม 1,706,441.63 บาท ประกอบด้วย เงินฝากในบัญชีเงินฝากธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) 1 บัญชี, เงินฝากในบัญชีเงินฝากธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) 4 บัญชี, เงินฝากในบัญชีเงินฝากธนาคารไทยเครดิตเพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน) 1 บัญชี, ที่ดินใน อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท 1 แปลง เนื้อที่ 2 ไร่ 38 ตารางวา, ทรัพย์สินในตู้นิรภัยของธนาคารไทยเครดิตเพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน) สาขาสำนักธุรกิจรัชดาภิเษก ตู้นิรภัยเลขที่ 047 ตามสัญญาเช่าตู้นิรภัยลงวันที่ 20 ธันวาคม 2555
       
       รายการทรัพย์สินของนางวรรษมล มูลค่ารวม 39,248,278.95 บาท ประกอบด้วย เงินฝากในบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) 1 บัญชี, เงินฝากในบัญชีเงินฝากธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) 1 บัญชี, เงินฝากในบัญชีเงินฝากธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) 4 บัญชี, เงินฝากในบัญชีเงินฝากธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) 1 บัญชี, ที่ดิน อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี 1 แปลง เนื้อที่ 3 งาน 84 ตารางวา, ที่ดิน อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา 3 แปลง เนื้อที่ 4 ไร่ 50 ตารางวา, บ้านเลขที่ 414 ต.หลักหก อ.เมือง จ.ปทุมธานี 1 หลัง, บ้านคอนกรีตเสริมเหล็ก 2 ชั้น เลขที่ 444 และสิ่งปลูกสร้างไม่มีเลขที่ 5 หลัง หมู่ที่ 11 ต.หนองน้าแดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา, รถยนต์ MERCEDES BENZ รุ่น E 250 เลขทะเบียน ญฉ 414 กรุงเทพมหานคร, รถยนต์ TOYOTA รุ่น ALPHARD เลขทะเบียน ฆฐ 515 กรุงเทพมหานคร
       
       นอกจากนั้น คณะกรรมการ ป.ป.ช.ยังได้มีคำสั่งให้นายธาริตแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของตนเอง คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ภายใน 30 วัน ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 79 ด้วย
       
       ด้านายวิชา มหาคุณ กรรมการ และโฆษกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงการสอบสวนนายธาริต เพ็งดิษฐ์ ร่ำรวยผิดปกติจากตำแหน่งหน้าที่ และบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาเสียดอ้า ป่าเขานกยูง และป่าเขาอ่างหิน อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ว่าเรื่องนี้ นายปรีชา เลิศกมลมาศ กรรมการ ป.ป.ช.เป็นผู้รับผิดชอบสำนวนคดี โดยล่าสุดที่ประชุมกรรมการ ป.ป.ช.มีมติส่งหนังสือแจ้งนายธาริตให้มายื่นแสดงรายการบัญชีทรัพย์สินและ หนี้สินเพิ่มเติมตามระบบ โดยเป็นการกำหนดให้ยื่นย้อนหลังระหว่างช่วงนั้นถึงช่วงนี้ซึ่งเป็นราย ละเอียดในหนังสือเพื่อนำมาพิจารณาเปรียบเทียบกับกรณีที่นายธาริตเคยยื่นไป แล้วว่ามีความผิดปกติบกพร่องหรือไม่

“ธาริต” ขอเลื่อนแจ้งที่มาทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช.อีก 30 วัน ยันไม่ร่ำรวยผิดปกติ

จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์

โดย ทีมข่าวอาชญากรรม

“ธาริต เพ็งดิษฐ์” เลื่อนแจ้งที่มาทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช.ไปอีก 30 วัน ยังมั่นใจชี้แจงได้ทุกรายการ ระบุปี 52 รับตำแหน่งเลขาฯ ป.ป.ท.เคยยื่นบัญชีแสดงทรัพย์สินไว้ 37.3 ล้าน ผ่านไป 5 ปี ทรัพย์สินเพิ่ม 40 ล้าน ไม่น่าเข้าข่ายร่ำรวยผิดปกติ
       
       วันนี้ (19 เม.ย.) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ ที่ปรึกษาประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยภายหลังคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติให้อายัดทรัพย์สินมูลค่าประมาน 40.9 ล้านบาท เนื่องจากมีเหตุอันควรสงสัยว่าร่ำรวยผิดปกติ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งอธิบดีดีเอสไอว่า ตนและนางวรรษมล เพ็งดิษฐ์ ภรรยา ได้รับคำสั่งอย่างเป็นทางการจาก ป.ป.ช.มาตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค.ที่ผ่านมา หรือประมาณ 1 เดือนเศษว่ามีการอายัดทรัพย์ของตน 1.7 ล้านบาท ของภรรยา 39.2 ล้านบาท รวมกว่า 40 ล้านบาท ทราบมติก่อนหน้าที่ ป.ป.ช.จะแถลงข่าว โดยในวันพรุ่งนี้ (20 เม.ย.) จะครบกำหนดเวลา 30 วัน ทั้งนี้ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาตนได้ยื่นเอกสารขอเลื่อนการชี้แจงออกไป 30 วัน
       
       อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่าสามารถชี้แจงต่อ ป.ป.ช.ถึงที่มาทรัพย์สินได้ทุกรายการ การที่ ป.ป.ช.มีคำสั่งอายัดทรัพย์เป็นเพียงการอายัดชั่วคราวทางทะเบียน เช่นเดียวกับที่ตนเคยมีคำสั่งอายัดทรัพย์สินของผู้ต้องหาไว้ในชั้นสอบสวนของ ดีเอสไอ ปัจจุบันตนยังอยู่บ้านและที่ดินได้ตามปกติ
       
       “ตั้งข้อสังเกตในกรณีดังกล่าว 2 ประเด็น ประเด็นแรกในปี 2552 เมื่อครั้งได้รับแต่งตั้งเป็นเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการ ทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ตนและภรรยาได้ยื่นบัญชีทรัพย์สินไว้ต่อ ป.ป.ช. มีทรัพย์มูลค่า 37.3 ล้านบาท ผ่านไป 5 ปี ทรัพย์สินเพิ่มขึ้นเป็น 40 ล้านบาท ขอถามว่ามันเป็นการร่ำรวยผิดปกติอย่างไร แต่พร้อมให้ตรวจสอบ ส่วนประเด็นต่อมา เชื่อว่ากรณีที่ถูกร้องให้ตรวจสอบทรัพย์สิน เพราะที่ผ่านมาระหว่างที่ดำรงตำแหน่งอธิบดีดีดีเอสไอ ได้เข้าไปทำคดีสำคัญหลายคดี ตั้งแต่คดีการสลายการชุมชุมทางการเมือง หรือคดี 99 ศพ คดีทุจริตการก่อสร้างโรงพัก 396 แห่ง คดีกลุ่ม กปปส. อดีต ส.ส.ปชป.หลังจากนั้น คสช.มีคำสั่งให้พ้นจากตำแหน่งหน้าที่ โดยตนถูกฟ้องร้องดำเนินคดีมากถึง 30 คดี และยังถูกร้องให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบ ยืนยันว่าจะต่อสู้ในระบบกระบวนการยุติธรรมในชั้นศาลอย่างถึงที่สุด ทั้งนี้เชื่อว่าการที่ ป.ป.ช.ออกมาในลักษณะนี้เป็นหนึ่งในขบวนการดิสเครดิต ตนเป็นเป้าหมายลำดับต้นอยู่แล้ว” นายธาริตกล่าว
       
       อดีตอธิบดีดีเอสไอกล่าวอีกว่า จากบทบาทอธิบดีดีเอสไอที่เข้าไปรับผิดชอบคดีสำคัญหลายคดี ทำให้ถูกฟ้องมากถึง 30 คดี และศาลตัดสินยกฟ้องไปแล้วจำนวน 19 คดี ตนจึงมั่นใจในศาลยุติธรรม โดยพร้อมต่อสู้ทุกคดีจนถึงชั้นฎีกา เชื่อมั่นว่าจะได้รับความเป็นธรรมอย่างแน่นอน
       
       ผู้สื่อข่าวถามว่า ป.ป.ช.มีคำสั่งอายัดทรัพย์ตั้งแต่วันที่16 มี.ค.เหตุใดเพิ่งแถลงข่าวหลังเวลาผ่านมานานกว่า 1 เดือน นายธาริตกล่าวว่า สันนิษฐานว่าอาจเป็นการแถลงข่าวให้นายกรัฐมนตรีมีคำสั่งตามมาตรา 44 ให้ตนออกจากราชการระหว่างการอายัดทรัพย์สินของ ป.ป.ช. ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะรายชื่อข้าราชการพัวพันกับการทุจริต 100 รายชื่อที่ส่งให้นายกฯ พิจารณาดำเนินการทางวินัยเมื่อวันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมา ไม่มีชื่อตนปรากฏอยู่ เพราะเรื่องของตนอยู่ระหว่างการพิจารณาของ ป.ป.ช.ยังไม่มีการชี้มูลความผิด

สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน