สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

อัตราการว่างงานที่ต่ำสุดในโลก

อัตราการว่างงานที่ต่ำสุดในโลก
โดย : ดร.พีรพล ประเสริฐศรี
จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

ในวันแรงงานปีนี้ น่าจะถือว่าช่วงเวลาที่มีความสุขสำหรับหลาย ๆ คน (อย่างน้อยก็สำหรับผู้เขียน)

เนื่องจากที่ได้หยุดยาวกันเต็ม ๆ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์แล้ว รัฐบาลยังมอบความสุขให้กับมนุษย์เงินเดือนด้วยการกำหนดให้เป็นวันหยุดยาวอีก 5 วัน ซึ่งผมก็ใคร่ขอขอบคุณรัฐบาล โดยเฉพาะท่านนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อีกครั้ง มา ณ โอกาสนี้

โดยในโอกาสวันแรงงานปีนี้ ท่านนายกได้ทำการเปิดงานวันแรงงานที่จัดขึ้นที่ท้องสนามหลวงในวันที่ 1 พฤษภาคม 58 ภายใต้คำขวัญ‘แรงงานไทยปรองดองเฉลิมฉลองจักรีวงศ์รณรงค์สู่อาเซียน’ ซึ่งท่านพลเอกประยุทธ์ ได้รับปากที่จะพิจารณาข้อเสนอทั้ง 11 ข้อของตัวแทนของพี่น้องผู้ใช้แรงงาน ซึ่งก็คือ คุณมานิตย์ พรหมการีย์กุล ประธานคณะกรรมการจัดงานวันแรงงานแห่งชาติ ปี 2558 อาทิ เรื่องปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำพร้อมควบคุมราคาสินค้า เรื่องเร่งรับรองเพิ่มเติมอนุสัญญาแรงงานระหว่างประเทศ เรื่องเร่งแก้ไขเพิ่มเติมพ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 เรื่องตรากฎหมายกองทุนประกันความเสี่ยงให้ลูกจ้าง หรือเรื่องปฏิรูปสำนักงานประกันสังคม (สปส.) ฯลฯ (รายละเอียดอ่านเพิ่มเติมได้ใน “บิ๊กตู่”รับ 11 ข้อเรียกร้องแรงงานไทย, เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์ 1 พ.ค. 2558)

ซึ่งท่านนายกฯ ได้กล่าวตอนหนึ่งว่า “แรงงานมีความสำคัญ รัฐบาลถือว่าทุกวันเป็นวันแรงงานที่ต้องทำงานรับใช้ให้ทุกคนมีความสุข จะทำให้คนไทยทุกคนมีสวัสดิการและรายได้ที่ดีขึ้น โดยข้อเรียกร้องทั้ง 11 ข้อ ขอรับไว้ทั้งหมด บางข้ออาจทำได้ทันที บางข้ออาจต้องใช้เวลา ขออย่าเพิ่งออกมาประท้วงกัน แต่เชื่อว่าจากนี้ไปจะดีขึ้น และยังมีแนวคิดที่จะลดรายจ่ายให้แรงงานด้วยการหาสินค้าราคาถูกมาให้บริการ โดยจะขอความร่วมมือไปยังบริษัทต่างๆ ให้ทำสินค้าราคาถูกมาขายคนไทยเป็นหลัก แต่ไม่ให้นำไปขายต่อ ส่วนเรื่องอาหารก็อาจมีการขายอาหารให้แก่แรงงานในราคาถูก เช่น ข้าวแกง 10-15 บาท เพื่อจะได้มีเงินเหลือไปดูแลครอบครัว”(นายกฯขานรับ‘11ข้อเสนอ’แรงงาน กรุงเทพธุรกิจ 2 พ.ค. 2558)

นอกจากนี้ท่านนายกยังได้กล่าวอีกว่า“ อัตราการว่างงานของประเทศไทยถือว่าต่ำที่สุดในอาเซียน และอาจจะต่ำที่สุดในโลก มีแรงงานในระบบกว่า 31 ล้านคน ภาคการเกษตร 15 ล้านกว่าคน แรงงานต่างชาติที่ขึ้นทะเบียนแล้ว 1.6 ล้านคน ส่วนที่ติดปัญหาก็จะแก้ไขต่อไป โดยเราควรพัฒนาฝีมือให้เป็นที่ยอมรับ โดยเฉพาะเรื่องของภาษาที่ต่างชาติยอมรับในฝีมือแรงงาน แต่ติดปัญหาเรื่องการสื่อสาร จึงอยากให้พัฒนาในเรื่องภาษา โดยภาครัฐและภาคเอกชนต้องช่วยกัน”(นายกฯขานรับ‘11ข้อเสนอ’แรงงาน กรุงเทพธุรกิจ 2 พ.ค. 2558)
ซึ่งประเด็นที่น่าสนใจก็คือ การที่อัตราการว่างงานที่ต่ำมาก ๆ ในประเทศเราครับ ซึ่งล่าสุดสำนักงานสถิติแห่งชาติได้รายงานอัตราการว่างงานในช่วงไตรมาสแรกของปี 2558 อยู่ที่อัตรา 0.9% ซึ่งคำนวณจาก จำนวนผู้ว่างงานที่กำลังหางานทำ (unemployed people) จำนวน 3.6 แสนคน หารด้วยจำนวนผู้อยู่ในกำลังแรงงานรวม (labor force) ซึ่งมีจำนวน 38.3 ล้านคน (0.9% ประมาณเท่ากับ 360,000 หารด้วย 38,300,000ครับ)

ในขณะที่ประเทศเรามีผู้ที่มีอายุเกินกว่า 15 ปี อยู่ 55.1 ล้านคน นั่นก็หมายความว่า ในปัจจุบันมีผู้ที่อยู่นอกกำลังแรงงานอยู่เป็นจำนวน16.8 ล้านคน หรือมีอัตราส่วนของจำนวนผู้อยู่ในกำลังแรงงานรวมต่อจำนวนประชากรผู้ใหญ่ทั้งหมด (ผู้ที่มีอายุเกินกว่า 15 ปี) หรือเรียกว่าอัตราlabor participation rate ที่ประมาณ 70 %(นำ 38.3 ล้านคน มาหารด้วย 55.1 ล้านคนครับ)

ในจำนวนผู้ที่อยู่นอกกำลังแรงงาน 16.8 ล้านคนนี้ เป็นผู้ทำงานบ้าน 4.9 ล้านคน กำลังเรียนหนังสือ 4.5 ล้านคน และอื่น ๆ เช่น ชรา พิการ จำนวน 7.4 ล้านคน ซึ่งตามทฤษฎีแล้วใน 16.8 ล้านคนนี้ หมายรวมถึงผู้อยู่บ้านเฉย ๆ โดยที่ไม่หางานทำ(non-employment) จะถูกไม่นับรวมว่าเป็นคนว่างงาน(unemployment) นะครับ

เมื่อพิจารณาอัตราการว่างงานจำแนกตามระดับการศึกษา จะพบว่าอัตราการว่างงานมีแนวโน้มที่จะแปรผันตามระดับการศึกษาครับ กล่าวคือ ยิ่งเรียนสูงขึ้นเท่าไรก็มีแนวโน้มจะตกงานเพิ่มขึ้นเท่านั้น เห็นได้จากตัวเลขอัตราการว่างงานสิ้นไตรมาส 1 ของปี 2558 รายงานโดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ ที่จำแนกอัตราการว่างงานตามระดับการศึกษาที่สำเร็จ โดยอัตราการว่างงานของผู้ที่จบต่ำกว่าชั้นประถมอยู่ที่ 0.4% สำหรับชั้นประถมศึกษาที่ 0.5% ชั้นมัธยมต้นที่ 1.3% ชั้นมัธยมปลายที่ 1.2% และชั้นอุดมศึกษาที่ 1.6% ทั้งนี้อาจจะเป็นเพราะยิ่งเรียนสูงขึ้นเท่าใดผู้คนก็อาจจะมีแนวโน้มในการเลือกงานที่ทำมากขึ้นก็เป็นได้

แต่การที่ประเทศเรามีตัวเลขคนว่างงานที่กำลังหางานทำอยู่ซึ่งเพียง 3.6 แสนคน จากจำนวน labor force ถึงจำนวน 38.3 ล้านคน หรืออัตรา 0.9% ก็ยังถือว่าเป็นตัวเลขที่ต่ำมาก ๆ ซึ่งหากไปดูข้อมูลการว่างงานในระดับนานาชาติซึ่งเป็นข้อมูลที่รายงานโดยธนาคารโลก หรือ World Bank ซึ่งข้อมูลล่าสุดที่มีคือปีที่แล้ว หรือ ปี ค.ศ.2013 World Bank ได้รายงานตัวเลขอัตราการว่างงาน(unemployment rate) ของไทยเพียง 0.7% เท่านั้น คิดเป็นลำดับ 4 ของประเทศที่มีอัตราการว่างงานที่น้อยที่สุดในโลก ถัดจากประเทศรวันด้าที่ 0.6% ประเทศกาต้าที่ 0.5% และประเทศกัมพูชาที่ 0.3%

ในขณะที่ประเทศที่พัฒนาแล้วจะมีตัวเลขอัตราการว่างงานที่สูงขึ้นไป อาทิ ฝรั่งเศส 10.4% สหรัฐอเมริกาที่ 7.4% เยอรมัน 5.3% หรือ ญี่ปุ่น 4% และในกลุ่มประเทศกลุ่มอาเซียนเพื่อนบ้านเราก็จะมีอัตราการว่างงานที่แตกต่างกันไป เช่น สิงคโปร์ที่ 2.8% มาเลเซียที่ 3.2% อินโดนีเซียที่ 6.3% หรือ ฟิลิปปินส์ที่ 7.1%

แต่เมื่อย้อนไปพิจารณาเรื่องlabor participation rate ของประเทศที่มีอัตราการว่างงานต่ำกว่าเราทั้ง 3 ประเทศ จะพบว่าจะมีอัตรา labor participation rate ที่สูงมาก โดยตัวเลขที่รายงานโดย World Bank ในปี ค.ศ.2013ประเทศรวันด้า มี labor participation rate ที่ 85.9% ประเทศกาต้าที่ 86.7% และประเทศกัมพูชาที่ 82.5% เทียบกับประเทศไทยที่ World Bank รายงานว่ามี labor participation rate ที่ 72.3%

ซึ่งการที่ทั้ง 3 ประเทศมี labor participation rate ที่สูงกว่า 80% ชวนให้สงสัยถึงความน่าเชื่อถือของอัตราการว่างงานที่รายงานออกครับ ทั้งนี้เนื่องจากยิ่งรายงานตัวเลขlabor participation rateยิ่งทำให้ตัวเลขของ labor force สูงขึ้นไปเท่านั้น อันส่งผลตัวเลขอัตราการว่างงานunemployment rate ที่รายงานออกมานั่นต่ำเกินความเป็นจริง
จึงเป็นไปได้อย่างมากว่า“ประเทศไทยอาจจะเป็นประเทศที่มีอัตราการว่างงานที่ต่ำที่สุดในโลก”



สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : อัตราการว่างงาน ต่ำสุดในโลก

view