จาก โพสต์ทูเดย์

โดย...ก้องภพ เทอดสุวรรณ

เทรนด์การทำธุรกิจในยุคนี้ คงหนีไม่พ้นการทำธุรกิจผ่านโลกออนไลน์ หรือที่รู้จักกันในชื่อ “ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ” เป็นช่องทางใหม่ทำให้การค้าขายง่ายและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น จนมีการค้าออนไลน์ขยายตัวอย่างรวดเร็วตามโซเชียลมีเดีย

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ยังยากเสมอต้นเสมอปลาย ไม่ว่าจะยุคไหนก็ยังคงเป็นช่วงเวลาแห่งการก่อตั้งธุรกิจ ซึ่งเป็นเวลาที่ตื่นเต้นและต้องใส่ใจกับรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ มิฉะนั้นต่อให้มีตัวช่วยอย่างช่องทางอีคอมเมิร์ซธุรกิจก็อาจจะพังได้

เว็บไซต์ ดิ เอจ ซึ่งเป็นเว็บไซต์รวบรวมข่าวสารทางธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ของออสเตรเลีย จึงได้รวบรวมเคล็ดลับ 5 ประการที่จะช่วยให้ธุรกิจอีคอมเมิร์ซประสบความสำเร็จไว้ดังนี้

1.เริ่มเลยและล้มเร็ว

สำหรับผู้ประกอบการหน้าใหม่ ถือเป็นเรื่องง่ายมากที่จะติดอยู่ในบ่วงของการต้องลงทุนเพื่อสร้างหน้าเว็บไซต์สวยๆ หรือการพัฒนาแผนธุรกิจอย่างลงลึก ซึ่งในความเป็นจริงเป็นการเสียทั้งเวลาและเงิน

ดิ เอจ ระบุว่า หากเจ้าของธุรกิจรอให้ทุกอย่างสมบูรณ์แบบ ก็จะไม่มีวันได้เริ่มธุรกิจอย่างจริงๆ จังๆ เพราะฉะนั้นจงเริ่มธุรกิจทันที และพยายามอย่าเสียเวลาไปกับ “กระพี้” อย่างการพัฒนาเว็บไซต์หรือการวางแผนทางธุรกิจ แต่ให้เริ่มธุรกิจเพื่อทดสอบความต้องการของลูกค้าในทันที และสามารถขยับขยายธุรกิจได้ทันตามความต้องการ หากธุรกิจไม่ตอบสนองความต้องการของลูกค้า ก็เป็นเรื่องปกติที่ธุรกิจจะล้มเร็ว แต่อย่าลืมว่า การล้มเร็วหมายถึงการเริ่มต้นการทดสอบโอกาสในตลาดใหม่อีกครั้ง

“สิ่งนี้เป็นวงจรต่อเนื่องสำหรับธุรกิจยุคใหม่อย่างอีคอมเมิร์ซ เจ้าของธุรกิจไม่จำเป็นต้องเสียเงินมากมายสำหรับการทดสอบตลาด ให้ลูกค้าเป็นผู้บอกเองว่าต้องการอะไรผ่านโลกออนไลน์ และเวลาจะช่วยปรับรูปแบบธุรกิจเอง” รายงานระบุ

2.เรียนรู้จากผู้อื่น

ธุรกิจออนไลน์ไม่ใช่ธุรกิจใหม่อีกต่อไป ฉะนั้นผู้ประกอบการหน้าใหม่ควรเรียนรู้โมเดลธุรกิจจากผู้ที่ประสบความสำเร็จ หลายธุรกิจก่อนหน้านี้ที่ต้องเสียเวลาและเงินมากมายในการเก็บรวบรวมข้อมูลจากตลาด แต่สำหรับเจ้าของธุรกิจยุคใหม่สามารถใช้โมเดลของธุรกิจที่มีอยู่แล้วในการเป็นแบบอย่างและสังเกตตลาดไปด้วยในตัว เนื่องจากธุรกิจเริ่มต้นมักมีทุนจำกัด ดังนั้นการเริ่มต้นด้วยการเรียนรู้จากผู้อื่นถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยทีเดียว

เช่นเดียวกับนักกีฬาที่มักเรียนรู้จากการเลียนแบบนักกีฬาชื่อดังในอดีต ซึ่งเป็นหนทางสำคัญสำหรับการก้าวสู่เป็นนักกีฬามืออาชีพในอนาคต

3.สร้างเครือข่าย

ดิ เอจ ระบุว่า ยิ่งเจ้าของธุรกิจบนโลกเสมือนสามารถสร้างเครือข่ายได้มากเท่าใด ก็จะมีโอกาสเข้าถึงบุคคลที่สามารถช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจได้ดียิ่งขึ้นเท่านั้น ฉะนั้นเมื่อเริ่มต้นธุรกิจ การมีภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่งบนโซเชียลมีเดียจะช่วยให้ธุรกิจยิ่งสร้างเครือข่ายได้ง่ายขึ้น และจะดึงดูดผู้ที่สร้างมูลค่าให้กับธุรกิจรวมถึงหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่สำคัญ และจะกลายเป็นเครือข่ายทางธุรกิจของการให้ความช่วยเหลือกันและกันในที่สุด

4.อย่าหยุดที่จะพัฒนา

ธรรมชาติของธุรกิจคือการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ดังนั้นเจ้าของธุรกิจจำเป็นต้องเล่นกับจังหวะของเทรนด์ให้ถูก ซึ่งถือเป็นหัวใจของการประสบความสำเร็จ โดยหนทางที่ดีที่สุดสำหรับการพัฒนาคืออย่าหยุดที่จะอ่าน อินเทอร์เน็ตมักมีข้อมูลที่น่าสนใจซ่อนอยู่อย่างที่ไม่เคยคิดมาก่อน การอ่านบทความจะช่วยทำความเข้าใจของแนวโน้มปัจจุบันได้ง่ายขึ้น และสร้างไอเดียใหม่ๆ

นอกจากนี้ ยังรวมถึงไอเดียใหม่ๆ ที่จะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจอีกด้วย และการซึมซับข้อมูลให้มากเท่าที่จะเป็นไปได้ ก็จะกลายเป็นแรงบันดาลใจในการทำธุรกิจในที่สุด

5.เตรียมรับมือ

เรื่องดีๆ มักไม่มาโดยง่ายในโลกของธุรกิจ ดังนั้นผู้ประกอบการหน้าใหม่ต้องเตรียมตัวให้พร้อมเสมอสำหรับการรับโอกาส ทั้งการทำงานหนักเพื่อจะดำเนินธุรกิจไปข้างหน้า ยกตัวอย่างเช่น ธุรกิจบาร์กกิ้งออเดอร์ส ซึ่งเป็นผู้ให้บริการซื้อขายของออนไลน์ในออสเตรเลีย มีข้อตกลงให้พนักงานตื่นตั้งแต่ 05.00 น. ในตอนเช้า เพื่อเช็กจดหมายให้เสร็จก่อนเริ่มเวลางานแน่นอนว่าไม่มีพนักงานคนไหนรู้สึกสนุก แต่ก็ต้องทำเพื่อการเติบโตของธุรกิจ

ดิ เอจ ทิ้งท้ายไว้ว่า การออกไปประชาสัมพันธ์กับสาธารณชนและการหาโอกาสพูดคุยกับผู้ที่มีศักยภาพในการเป็นลูกค้า ถือเป็นช่องทางการเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซเช่นกัน และจำเป็นอย่างยิ่งที่เจ้าของธุรกิจออนไลน์ต้องขยันเพราะการแข่งขันบนโลกออนไลน์นั้นรุนแรงมาก

สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน