จากประชาชาติธุรกิจ
การยกเครื่องเศรษฐกิจไทยยังเป็นเรื่องสำคัญที่รอการแก้ไข
เผลอแป๊บ ๆ อีกเดือนเศษ ๆ จะผ่านครึ่งทาง และเหลืออีกแค่ 2 ไตรมาสให้แก้ตัว แต่เมื่อมองไปรอบ ๆ ยังไม่มีข่าวดีสำหรับเศรษฐกิจไทย
เศรษฐกิจโลกยังไม่เอื้อต่อการส่งออก การบริโภคในประเทศก็งั้น ๆ เพราะโดนหนี้ครัวเรือนฉุดขาเอาไว้ ถึงอยากจะซื้อยังไงแต่แบงก์ไม่กล้าปล่อยให้กู้
มีแค่การท่องเที่ยวที่พอไปวัดไปวาได้ แต่หนักไปทางนักท่องเที่ยวจากจีน ซึ่งเน้นไปที่ปริมาณเสียมากกว่า และเทียบในแง่เม็ดเงินกับชาติอื่น ๆ ไม่ได้
ทั้งหลายทั้งปวงล้วนเป็นเหตุเป็นผล ทำให้หน่วยงานเศรษฐกิจขยับตัวเร็วกว่าที่คิด ปรับดอกเบี้ยมาตรฐานลง
ท่ามกลางข่าวร้ายยังมีเรื่องน่ายินดีปรากฏ
เวทีสัมมนาก้าวสู่ปีที่ 39 ของ "ประชาชาติธุรกิจ" เมื่อสุดสัปดาห์ก่อนหน้าโน้น แรก ๆ กลัวกันว่าบรรยากาศซึม ๆ เซา ๆ แบบนี้อาจไม่คึกคักเหมือนปีก่อน ๆ
กลายเป็นทุกคนคาดผิด
มีผู้จับจองเข้าฟังเต็มจำนวนที่รองรับได้อย่างรวดเร็ว
สรกล อดุลยานนท์ (หนุ่มเมืองจันท์) คอลัมนิสต์เจ้าประจำ ซึ่งมาช่วยเป็นผู้ดำเนินรายการในวันนั้น เพิ่งเขียนบทความในคอลัมน์ Market-Think ในเซ็กชั่นการตลาด ชี้ให้เห็นว่าเวลาแบบนี้นี่แหละจะเป็นช่วงที่คนขวนขวายแสวงหาความรู้ แล้วก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ
ดร.วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งที่ผ่านมามักเป็นผู้แจกแจงโรดแมปการทำงานของรัฐบาล โรดแมปการเลือกตั้ง มาครั้งนี้ ดร.วิษณุชี้ให้เห็นชัด ๆ ถึงโรดแมปการทำงานด้านเศรษฐกิจของภาครัฐ ซึ่งเกี่ยวพันกับการแก้ไขและการออกกฎหมายสำคัญต่าง ๆ มากมาย
โดยเฉพาะกฎหมายขัดขวางการเติบโตทางเศรษฐกิจ มีคอขวดจนก่อให้เกิดเบี้ยบ้ายรายทางต่าง ๆ ทั้งหมดจะถูกแก้ไขภายใต้รัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์
ทั้งยังระบุด้วยว่า จำเป็นอย่างยิ่งที่ประเทศไทยต้องเปลี่ยนตัวเอง และไม่ใช่แค่ Chang Point แต่เป็น Turning Point
ในทางธุรกิจหากไม่สามารถปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลงได้ก็จะกลายเป็นผู้แพ้ !!!
ส่วนคุณกานต์ ตระกูลฮุน ซีอีโอของเอสซีจี พี่ใหญ่แวดวงธุรกิจไทยชี้ให้เห็นว่า มีสัญญาณบางอย่างแสดงถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะปูนซีเมนต์ซึ่งมีปริมาณการใช้งานเพิ่มขึ้น
คุณกานต์กระตุ้นเตือนด้วยว่า การสร้างขุมกำลังความรู้เป็นทรัพย์สินสำคัญของทุกภาคธุรกิจต้องไม่มองข้าม
การค้นหานวัตกรรม การเสาะแสวงหาตลาดของตัวเองให้เจอ รวมถึงการให้ความสำคัญกับประเทศเออีซี จำเป็นอย่างยิ่งที่ประเทศไทยต้องพลิกตัวไปสู่ทิศทางดังกล่าว
รวมถึงทิ้งท้ายอย่างน่าสนใจถึงการปรับตัวของภาครัฐในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะการปรับดอกเบี้ยของ กนง.ที่เกิดขึ้น มองว่าเป็น Proactive ที่ได้ใจภาคธุรกิจมิใช่น้อย
ขณะที่หนทางของประเทศไทยในภายภาคหน้ารุ่นใหญ่อย่างคุณกานต์ชี้ว่า ที่ผ่านมาประเทศไทยขาดแรงดึงดูดการลงทุน และจำเป็นต้องปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจครั้งใหญ่
เสียงเชียร์ เสียงกระตุ้นเตือนให้ปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ ไม่ได้เกิดเฉพาะเวทีสัมมนาของ "ประชาชาติธุรกิจ" เท่านั้น หากเกิดขึ้นแทบทุกเวที
จากเหตุผลว่าที่ผ่านมาประเทศไทยเราวนเวียนอยู่กับปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่น เราวนเวียนอยู่กับความขัดแย้ง จนไม่ได้เดินหน้าพัฒนาประเทศ ไม่ได้ยกเครื่องด้านการศึกษาเพื่อสร้างขีดความสามารถการแข่งขันในระยะยาวให้เกิดขึ้น
กลายเป็นว่าเพื่อนบ้านมีแรงดึงดูด มีเสน่ห์มากกว่า กระนั้นก็ตามหากคิดเปลี่ยนตัวเองจริง ๆ ไม่มีคำว่าสายสำหรับเรื่องนี้
พูดตามตรง เรื่องนี้ภาคธุรกิจยังไม่ค่อยน่าเป็นห่วงเท่าภาครัฐ เพราะปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว ที่น่าห่วงกว่าคือภาครัฐ
ที่ต้องเป็นหัวขบวนนำหน้า
เท่านั้น !!!
สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน
