สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

สมัครงานอย่างไรให้ได้งาน ตอน 1

สมัครงานอย่างไรให้ได้งาน ตอน 1
โดย : พอใจ พุกกะคุปต์
จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

ช่วงนี้เป็นเวลามองหางานของนิสิตนักศึกษา ทั้งที่เพิ่งได้ใบปริญญาไปหมาดๆ และที่กำลังตั้งตารอวันรับใบสำคัญ ที่เป็นเครื่องยืนยันว่า...

“โลกแห่งความเป็นจริง” มาถึงแล้ว

มีใบปริญญา ถือเป็น “ปัญญาชน” เป็นคนเรียนเก่ง

แต่ใบนี้ เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการทำงาน  “เป็น”

ชีวิตจริงของการทำงาน มีข้อสอบอีกหลากหลาย ที่ไม่แม้คล้ายข้อสอบที่ได้ในรั้วสถานศึกษา

ไม่ว่าจะเป็นการแก้ปัญหากับหัวหน้างาน การสร้างเครือข่าย การได้ใจพี่ ฯลฯ

บางน้องน้อยบอกว่า ไม่เห็นต้องง้อบริษัท หรือองค์กรใดๆ

หนูเริ่มธุรกิจตัวเองได้..ไม่ยาก

อาน้าป้า ขอเตือนว่า...ไม่ง่ายค่ะ

เอาว่า หากตั้งใจจริง ทุกสิ่งเราย่อมเอาชนะได้ อยากทำ ทำไป แต่หนทางของการเป็นเจ้าของกิจการ อาจไปได้หลายทาง

นอกจากการเริ่มธุรกิจเล็กใหญ่ในทันทีที่จบ มีทางเลือกอื่นๆ อีกมากมาย ที่จะเป็นจุดตั้งต้นของคนทำธุรกิจเอง อาทิ

- เรียนลัดจากผู้รู้

ใช้ประสบการณ์คนอื่นเป็นครู ตัวอย่างเช่น หากอยากเปิดร้านกาแฟของตนเอง น้องลองสมัครเป็นพนักงานของบริษัทที่มีชื่อเสียงเรื่องธุรกิจกาแฟ หรือ แม้แต่ธุรกิจอื่นใด ที่นำมาประยุกต์ใช้ได้ในร้านเราในอนาคต เช่น ธุรกิจการให้บริการ หรือ งานที่ต้องเข้าใจเรื่องเงินและบัญชี ก็มีประโยชน์ทั้งสิ้น

ทุ่มเททำ เพื่อสะสมความรู้ เทคนิค และมุมมอง สักอย่างน้อย 1-2 ปี น่าจะทำให้ได้หนทางดีๆเพื่อก้าวข้ามอุปสรรคที่เป็นกับดักเจ้าของธุรกิจมือใหม่ จะได้ไม่ตายน้ำตื้น

- ผ่านงานการเป็นลูกน้อง

การทดลองทำงานในองค์กรน้อยใหญ่ นอกจากจะได้เริ่มสะสมเงินเพื่อเปิดกิจการ จะให้ประสบการณ์ที่มีค่ายิ่งอีกสิ่งหนึ่ง คือ

การเข้าใจว่าคนที่เป็นลูกน้อง เขามองโลกอย่างไร

หากโชคดี ได้หัวหน้าดี ยังจะได้จดจำวิธีที่เขาดูแลเรา เพื่อเอาไปใช้ต่อ

ได้หัวหน้าไม่ดี ก็ไม่เป็นไร ได้เรียนรู้ เอาเป็นครูว่า อย่าทำเอง

ยามที่ไปทำธุรกิจ เป็นเจ้าของ จะได้มองขาดขึ้นว่าการดูแลคน ต้องทำอย่างไร อย่างน้อยก็เข้าใจ และรู้ซึ้งซึ่งหัวอกลูกน้องบ้าง

- สร้างเครือข่าย

การได้ทำงานองค์กรในวงการหนึ่งๆ นำมาซึ่งเครือข่ายที่จะให้ประโยชน์เมื่อเริ่มแยกวงไปทำเอง

กลับไปตัวอย่างร้านกาแฟ ไปทำกับเขา เรารู้ได้ทันทีว่า วัตถุดิบ เมล็ดกาแฟ มีกี่ประเภท สั่งซื้อได้จากไหน อุปกรณ์ดียี่ห้อใดราคาใช่ ใครเป็นผู้ขาย สถานที่ตั้งใดเหมาะ เพราะอะไร พฤติกรรมลูกค้าแต่ละกลุ่มเป็นอย่างไร ชอบไม่ชอบอะไร หาพนักงานได้จากแหล่งใด ป้องกันการรั่วไหล การทุจริตได้อย่างไร ฯลฯ

สารพัดข้อมูลที่เก็บเกี่ยวได้ ในเวลาที่สั้นกว่าคลำหาเองนัก

หากคิดว่าหนทางเรียนลัดจากองค์กรผู้รู้ที่ประสบความสำเร็จ เป็นวิธีหนึ่งซึ่งตอบโจทย์เราที่อยากเป็นเจ้าของธุรกิจเอง วันนี้มาคุยกันถึงประเด็นสำคัญที่ต้องเตรียมในการสมัครงาน นั่นคือ

ใบเบิกทาง : ประวัติตนเอง เพื่อเสนอให้บริษัทคัดเลือก

ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการเตรียมประวัติมีมากมายให้พวกเราศึกษา แนะนำว่ากรุณาหารือกับอาจารย์ Google มากๆ เพราะมีคำแนะนำหลายประเด็นที่เป็นประโยชน์

วันนี้ขอขยายหนึ่งประเด็นค่ะ

ข้อมูลที่เสริมให้ประวัติเราเด่น เตะตา

สมาคมผู้ประกอบกิจการธุรกิจให้บริการแห่งสหรัฐอเมริกา ได้ทำการศึกษาเรื่องการคัดเลือกผู้สมัครงานขององค์กรน้อยใหญ่

จากองค์กรที่ตอบแบบสอบถามกว่า 2500 องค์กร ข้อมูลที่เกี่ยวกับวิธีที่บริษัทคัดเลือกใบสมัครงาน และประวัติผู้สมัคร มีดังนี้

70% ของผู้คัดเลือกบอกว่า ในขั้นต้น เขาใช้เวลาน้อยกว่า 2 นาทีในการคัดกรองใบสมัครแต่ละใบ

17% ระบุว่า ให้เวลาในการอ่านผ่านๆแต่ละใบ ไม่มากกว่า..30 วินาที!

บทเรียนที่ได้ : โลกแห่งความเป็นจริงนี้ คนตรวจ “ข้อสอบ” อาจไม่ใจดีอย่างอาจารย์ในมหาวิทยาลัย

ยิ่งเป็นช่วงที่ผู้หางานกระหน่ำส่งใบสมัครนับร้อยนับพัน

คนอ่านมีเวลาจำกัด เขาจึงกำจัดใบที่ไม่เข้าตาอย่างรวดเร็ว

ดังนั้น ใบสมัครและประวัติของเรา ต้องดูดี และดูต่าง สามารถสร้างความประทับใจได้ในระยะเวลาสั้นๆ

นอกเหนือจากข้อมูลพื้นฐานทั่วไปในประวัติตนเอง สิ่งที่ควรใส่ เพื่อทำให้ใบสมัครของเราดูดีขึ้นมาใน ณ บัดดล คือ

1 รางวัล และ/หรือ ผลงานที่โดดเด่น

เช่น จะสมัครตำแหน่งประชาสัมพันธ์โรงแรม หากเคยได้รางวัลการประกวดสุนทรพจน์ ย่อมทำให้ผู้ว่าจ้างกระจ่างขึ้นว่า คนนี้มีความสามารถ น่าเรียกสัมภาษณ์ต่อ

หรือ ตอนเป็นนักศึกษา เคยทำโครงการเปรียบเทียบจุดดีจุดด้อย ของการจองโรงแรมผ่าน Websites ต่างๆ on-line ได้ข้อสรุปแนะนำเด็ดๆแก่นักเดินทาง แถมได้ลงตีพิมพ์ในนิตยสาร “เที่ยวรอบโลก”

โอ! ประวัติหนูน่าจะขายดียิ่ง

2. การฝึกงาน ทั้งงานปกติ และงานจิตอาสา

น้องๆหน้าใส หากใส่ใจเรียนรู้ สู้จนได้ A รวด ถือว่าใบสมัครอวดเขาได้ แต่..อาจไม่พอ

และน้องคนไหน ไม่อยากกลับไปเรียนใหม่ เพื่อให้ได้ A มาประดับบารมีสักตัว ก็ไม่ต้องวิตก สิ่งที่เพิ่มสเน่ห์ให้ประวัติน่าสนใจได้ คือ การฝึกทำงาน

ยิ่งเป็นงานที่เกี่ยวโยงกับองค์กรที่สมัคร ยิ่งน่ารัก น่าค้นหา น่าตามมาคุยมากขึ้น

เช่น สมัครงานองค์กรด้านบริการ เราระบุว่ามีประสบการณ์ฝึกงานในโรงแรมชั้นหนึ่งมาแล้ว

และที่สำคัญ หากอยากดูดีในสายตาองค์กรและสังคมยุคปัจจุบัน ฉันต้องเป็นคนมีจิตสาธารณะ ได้ทำงานอาสามาบ้าง

ยิ่งพัวพันกับสิ่งที่องค์กรนั้นๆ ให้ความสำคัญ ยิ่งเป็นแรงผลักดันให้เขาอยากดูตัว

อาทิ องค์กรหลายที่ มีโครงการรักษ์โลก กิจกรรมดูแลสังคม พัฒนาเด็กและเยาวชนด้อยโอกาส ฯลฯ

ตอนนี้ยังไม่สาย รีบหาเวลาอุทิศตนให้เป็นประโยชน์กับคนรอบข้างบ้าง เช่น ช่วยชมรมรณรงค์ปลูกป่า อาสาช่วยโครงการพัฒนาชนบท หาเวลาไปอ่านหนังสือเพื่อนักเรียนผู้พิการทางสายตา ฯลฯ สารพัดสิ่งที่ทำได้

ถือว่าเพิ่มโอกาสในการหางาน

และที่สำคัญ ได้มีความสุข สนุกกับการทำดี

ทั้งพลังงานแห่งความดี เขาสะท้อนไปมา..เดี๋ยวก็หาเราเจอค่ะ



สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : สมัครงานอย่างไร ให้ได้งาน

view