สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ประจิน ปัดเกาเหลาจีนยังเดินหน้าโครงการรถไฟต่อ

ประจิน'ปัดเกาเหลาจีนยังเดินหน้าโครงการรถไฟต่อ

จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

"พล.อ.อ.ประจิน" ปัดข่าวเกาเหลาจีน ยันยังเดินหน้าร่วมทุนสร้างโครงการรถไฟกึ่งเร็วสูงไทย-จีนตามแผนต่อ

พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม เปิดเผยถึงกระแสข่าวเรื่องทางการจีน จะไม่ขอร่วมลงทุนพัฒนาระบบรถไฟทางคู่กับไทย ว่า ยืนยันโครงการพัฒนาระบบการขนส่งทางรางระหว่างไทย-จีนจะเดินหน้าตามแผนงานที่ กำหนด และไม่มีปัญหาการร่วมลงทุนกับจีนแต่อย่างใด โดยจะก่อสร้างรถไฟกึ่งความเร็วสูง เส้นทางหนองคาย-โคราช-แก่งคอย-ท่าเรือมาบตาพุด และเส้นทางแก่งคอย-กรุงเทพฯ ในรูปแบบรัฐบาลต่อรัฐบาล (จีทูจี) แน่นอน ซึ่งล่าสุดในการประชุม ครม. วันที่ 9 มิ.ย. นี้ ก็เพิ่งรายงานให้ทราบถึงความคืบหน้าในการดำเนินโครงการไปแล้ว

ส่วน โครงการความร่วมมือระบบรางระหว่างไทย-ญี่ปุ่น ก็เดินหน้าตามแผนเช่นเดียวกัน โดยจะร่วมกันพัฒนารถไฟความเร็วสูง(ไฮสปีดเทรน) เส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ และพัฒนาปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟเส้นทางแนวระเบียงเศรษฐกิจด้านใต้ กาญจนบุรี-กรุงเทพฯ-แหลมฉบัง และกรุงเทพฯ-อรัญประเทศ

ด้านนางสร้อย ทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า กระแสข่าวเรื่องการไม่ร่วมลงทุนของจีนไม่เป็นความจริง เพราะที่ผ่านมากระทรวงคมนาคมได้เดินหน้าโครงการดังกล่าวจนมีความคืบหน้า ชัดเจนต่อเนื่อง ขณะนี้เหลือเพียงการพิจารณางบประมาณการลงทุนให้ชัดเจนเท่านั้น ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จีนจะยกเลิกร่วมลงทุนกับไทย ขณะเดียวกันก็ยอมรับว่าเคยได้ยินกระแสข่าวในลักษณะการยกเลิกร่วมทุนของจีนมา เหมือนกัน ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นการปล่อยข่าวมาจากไหน เพราะโครงนี้จะเดินหน้าก่อสร้างแน่นอน


จวก "คน ปชป."มั่ว! ปล่อยข่าว“จีนยกเลิกรถไฟทางคู่กับไทย” ย้ำยังเดินหน้า

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

“ไพศาล”จวก คน ปชป.มั่ว! ปล่อยข่าว“จีนยกเลิกรถไฟทางคู่กับไทย” ย้ำโครงการยังคงเดินหน้าตามแผนที่รัฐบาลแถลงไว้“บิ๊กตู่” ย้ำไม่ได้หมายความว่าจะต้องให้ใคร แต่ต้องเจรจาแบบรัฐต่อรัฐ ร่วมลงทุนร่วมสร้างระบบเครือข่ายให้ได้ สั่งคมนาคม ชี้แจงการกู้เงินหลายครั้ง ให้ประชาชนเข้าใจ หลัง ไฟเขียวทำสัญญากู้ไจก้า 1 หมื่นล้านบาท เร่ง “รถไฟสายสีแดง” ระยะ 2
       
       วันนี้(9 มิ.ย.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า การสร้างความเข้มแข็งให้ประเทศ ต้องมีการลงทุนถนน เส้นทาง ซึ่งตนบอกว่าต้องชัดเจน อย่าให้มาพูดว่าการทำรถไฟทั้ง 3-4 ขนาดไปโยงถึงใคร เส้นทางเหล่านี้จะเชื่อมต่อไปประเทศเพื่อนบ้านและติดต่อประชาคมโลกจึงต้องทำ ส่วนในประเทศนั้น ขนาด 1 เมตรก็พอแต่ต้องเป็นเส้นทางคู่ให้ได้แล้วกัน ส่วนการลงทุนด้วยรถไฟความเร็วสูงต้องคิดมา ถ้าประเทศไหนสนใจก็มาเจรจาพูดคุยต่อไป
       
       “ไม่ได้หมายความว่าจะต้องให้ใคร แต่ต้องเจรจาแบบรัฐต่อรัฐให้ได้ รวมถึงการลงทุนร่วมที่จะต้องสร้างระบบเครือข่ายให้ได้ทั้งรถไฟ รถยนต์และรถไฟฟ้า โดยตนต้องการให้เมืองขยายออกไปเชื่อมไปยังปริมณฑลไม่ใช่มาแออัดอยู่ใน กรุงเทพฯ”
       
       ด้าน นายไพศาล พืชมงคล กรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ได้โพสต์เฟสบุ๊คส่วน ตำหนินักวิชาการการเมืองที่อ้างว่าเป็นเชี่ยวชาญเรื่องรถไฟ ระบุว่า “จีนยกเลิกโครงการรถไฟทางคู่กับไทยแล้ว” ว่า “จากการตรวจสอบ ยืนยันว่าจีนไม่ได้ยกเลิกโครงการรถไฟทางคู่ ไทยจีน และโครงการดังกล่าวยังคงเดินหน้าตามแผนที่รัฐบาลแถลงไว้”
       
       ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.ที่ผ่านมา นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟสบุ๊คส่วนตัว ว่า “ผิดหวัง! จีนไม่ร่วมลงทุนรถไฟไทย-จีน พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลเจรจากับรัฐบาลจีน เพื่อขอให้รัฐบาลจีนร่วมลงทุนด้วย ซึ่งจะทำให้เกิดประโยชน์ต่อทั้งสองประเทศ”
       
       อีกด้าน พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ในร่างสัญญาการกู้เงินจากรัฐบาลญี่ปุ่นสำหรับโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต ระยะที่ 2 ในวงเงิน 38,203 ล้านเยน หรือคิดเป็นเงินไทย 10,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการที่ดำเนินการต่อเนื่องจากระยะที่ 1 ที่ไทยได้เคยกู้เงินจากญี่ปุ่นมาแล้ว 63,018 ล้านเยน หรือคิดเป็นเงินไทย 22,783 ล้านบาทตั้งแต่ปี 2552 และการกู้เงินในระยะที่ 1 จะสิ้นสุดในเดือนมิ.ย.นี้
       
       "กระทรวงการคลังได้เสนอขอความเห็นชอบในร่างสัญญากู้เงินจากไจก้าที่ เป็นของรัฐบาลญี่ปุ่น และขออนุมัติกู้เงินในนามของรัฐบาลไทย โดยให้กระทรวงการคลังเป็นผู้ดำเนินการและส่งต่อให้การรถไฟแห่งประเทศไทย เป็นผู้กู้ยืมเงินต่อจากกระทรวงการคลัง ซึ่งครม.ก็มีมติเห็นชอบตามนั้น" รองโฆษกฯ ระบุ
       
       สำหรับสัญญาการกู้เงินในโครงการระยะที่ 2 นี้ เป็นการกู้เงินในระยะเวลา 20 ปี ปลอดหนี้ 6 ปี คิดอัตราดอกเบี้ย 0.40% อย่างไรก็ดี จากโครงการก่อสร้างรถไฟชานเมืองสายสีแดงนี้ มีการกู้เงินรวมทั้งสิ้น 42,783 ล้านบาท แบ่งเป็นการกู้เงินจากต่างประเทศ(ไจก้า) 32,783 ล้านบาท และการกู้เงินในประเทศอีก 10,000 ล้านบาท
       
       "นายกฯ ปรารภว่าให้กระทรวงคมนาคมนำรายละเอียดของรถไฟสายสีแดงที่มีการกู้เงินหลายๆ ครั้ง มาทำความเข้าใจกับประชาชนให้ชัดเจน ว่าโครงการนี้เริ่มตั้งแต่เมื่อไร จะเสร็จสิ้นเมื่อไร และมีแผนการกู้เงินอีกกี่ครั้ง พร้อมกับเน้นย้ำว่าต้องทำความเข้าใจกับประชาชนในต่างจังหวัดด้วยว่าประชาชน ในต่างจังหวัดจะมีส่วนตรงนี้มากเพียงใด ต้องชี้แจงว่าเป็นความจำเป็นที่จะต้องบริหารจัดการระบบขนส่งในพื้นที่ชุมชน เมือง ถ้าไมลงทุนทำ จะมีปัญหาจราจร ความคับคั่ง และเรื่องอื่นๆ ตามมา ซึ่งถือว่าวางรากฐานด้านคมนาคมเป็นการลงทุนที่มีความเหมาะสมต่อผลตอบแทนใน ระยะยาว" พล.ต.สรรเสริญ ระบุ.


'สามารถ'โต้ไม่ปล่อยข่าว แต่จีนไม่ร่วมลงทุนรัฐต้องกู้100%

โดย :

"สามารถ" โต้"ไพศาล" ลั่นไม่เคยปล่อยข่าวจีนยกเลิกโครงการรถไฟความเร็วสูง กทม.-หนองคาย แต่ให้ความจริงประชาชนว่า จีนไม่ร่วมลงทุน รัฐต้องกู้100%

นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ชี้แจงกรณีที่นายไพศาล พืชมงคล คณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีในรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ออกมาระบุว่า ปล่อยข่าวโกหกเรื่องยุติโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีนว่า เป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนของนายไพศาล เพราะตนไม่ได้บอกว่าโครงการนี้จะยกเลิก แต่ให้ข้อมูลว่าจีนจะไม่ร่วมลงทุนด้วย ซึ่งหมายความว่าจีนจะไม่ลงเงินในการก่อสร้างรถไฟความเร็วปานกลางร่วมกับไทย เส้นทางหนองคาย-โคราช-แก่งคอย-มาบตาพุด และเส้นทางแก่งคอย-กรุงเทพฯ แต่จีนจะให้ไทยกู้เงินบางส่วนเพื่อใช้ในการก่อสร้างรถไฟเส้นทางดังกล่าว พร้อมทั้งจีนจะรับจ้างก่อสร้างงานบางส่วนที่ผู้รับเหมาไทยไม่ถนัด อีกทั้ง จีนจะขายขบวนรถไฟ รวมทั้งวัสดุอุปกรณ์ที่ไม่มีในไทย 

นายสามารถ กล่าวว่าโครงการดังกล่าวยังคงเดินหน้าตามบันทึกความเข้าใจ (Memorandum of UnderstandingหรือMOU)และบันทึกความร่วมมือ (Memorandum of CooperationหรือMOC)ระหว่างไทย-จีน แต่ตนทราบมาว่าการเจรจาเรื่องรูปแบบการลงทุนนั้นได้ผลสรุปว่า จีนจะไม่ลงเงินร่วมกับไทยเพื่อใช้ในการก่อสร้างรถไฟเส้นทางดังกล่าว ซึ่งไม่เป็นไปตามที่เราคาดหวังกันไว้ นั่นหมายความว่า ในกรณีที่จีนร่วมลงเงินด้วย หากโครงการขาดทุนก็ขาดทุนด้วยกัน หากโครงการมีกำไรก็มีกำไรด้วยกัน 

“ แต่ในกรณีที่จีนไม่ร่วมลงเงินด้วย ไทยก็ต้องลงเงินทั้งหมด100%ซึ่งจะเป็นภาระหนักของไทยที่ต้องกู้เงินจำนวนมาก มาก่อสร้างและต้องแบกรับภาระความเสี่ยง รวมทั้งภาระดอกเบี้ยทั้งหมดเพียงฝ่ายเดียว ทั้งๆ ที่จีนก็จะได้รับประโยชน์จากรถไฟเส้นทางดังกล่าวด้วยทั้งดอกเบี้ย การก่อสร้าง การขายขบวนรถไฟและวัสดุอุปกรณ์โดยที่ไม่ต้องแบกรับความเสี่ยงใด ๆ เลย จึงอยากให้รัฐบาลทบทวนและเจรจากับจีนใหม่เพื่อให้ลงทุนร่วมกันจึงจะทำให้ โครงการนี้มีความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ ไม่เช่นนั้นผมเชื่อว่าขาดทุนแน่นอน จึงอยากให้นายไพศาลพิจารณาข้อมูลของผมด้วยความเป็นธรรมจะได้เข้าใจ” 

นายสามารถ กล่าวว่า การเดินหน้าโครงการเช่นนี้ แตกต่างจากที่รัฐบาลอภิสิทธิ์ เคยวางแนวทางไว้ว่า จะเป็นการร่วมลงทุนด้วยกันคือ ตั้งบริษัทร่วมทุน แต่กรณีนี้เท่ากับรัฐต้องลงทุนเอง 100% เป็นภาระหนักของไทยเพราะเท่ากับขาดทุนฝ่ายเดียวและรับภาระดอกเบี้ย 2-4 %ทั้งที่จีนได้รับประโยชน์จากโครงการนี้ด้วยเพราะเป็นการเชื่อมต่อระบบราง ระหว่างประเทศ จึงน่าจะลงทุนร่วมกันซึ่งจะทำให้มีโอกาสในการคุ้มทุน เพราะจีนก็จะพยายามส่งเสริมให้คนในประเทศเดินทางมาประเทศไทยซึ่งจะช่วยให้ รถไฟเส้นทางนี้สามารถเลี้ยงตัวเองได้ 

นายสามารถ กล่าวว่า ขอให้รัฐบาลทบทวนเรื่องนี้และพิจารณาสถานะประเทศ ก่อนตัดสินใจ เพราะหากลงทุนไม่คุ้มค่าก็จะเกิดผลเสีย ดังนั้นจึงควรหันมาพัฒนาระบบรถไฟทางคู่ 1 เมตรให้ทั่วประเทศก่อนก็จะช่วยเรื่องระบบโลจิสติกได้มากและไม่เป็นภาระกับ ประเทศด้วย จึงไม่เข้าใจว่าทำไมรัฐบาลจึงไม่ขยายรถไฟทางคู่1เมตรทั่วประเทศ แทนที่จะทำทั้งรถไฟความเร็วสูงและรางมาตรฐาน คือ กว้างแบบ 1.4 เมตร เพราะจะเป็นภาระทางการเงินของประเทศมากจนเกินไป


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : ประจิน เกาเหลาจีน เดินหน้า โครงการรถไฟต่อ

view