จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
ป.ป.ช.สั่งอายัดทรัพย์ "สาธิต รังคสิริ" อดีตอธิบดีกรมสรรพากร ปมคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม 4.3 พันล้าน เผยใกล้ชี้มูลความผิด
นายภักดี โพธิศิริ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะประธานอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริง กรณีคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม กว่า 4.3 พันล้านบาท ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าในตรวจสอบคดีดังกล่าว ว่า คณะอนุกรรมการไต่สวนฯ ได้มีคำสั่งอายัดทรัพย์สินของนายสาธิต รังคสิริ อดีตอธิบดีกรมสรรพากร หนึ่งในผู้ถูกกล่าวหากรณีดังกล่าวแต่ตนไม่สามารถให้รายละเอียดในส่วนนี้ได้ เพราะเกรงว่าจะกระทบต่อการไต่สวน อย่างไรก็ตามคณะอนุกรรมการไต่สวนฯ ได้แจ้งให้นายสาธิต ทราบ และได้แจ้งข้อกล่าวหาผู้ถูกกล่าวหาไปแล้ว ซึ่งทาง ป.ป.ช.ใกล้จะชี้มูลความผิดคดีนี้แล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากรณีดัง กล่าวมีกระแสข่าวว่าคณะอนุกรรมการไต่สวนฯ ได้มีคำสั่งอายัดทรัพย์สินของนายสาธิต เป็นทองคำมูลค่าประมาณ 600 ล้านบาท โดยทองคำดังกล่าวไม่ได้ปรากฏอยู่ในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ที่ต้องแจ้งแก่ ป.ป.ช. และได้มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนฯ อีกชุดหนึ่ง เพื่อเข้าไปตรวจสอบในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินฯ ที่เกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่าวโดยเฉพาะ
สำหรับคดีดังกล่าว เริ่มขึ้นเมื่อปี 2556 จากกรณีกรมสรรพากรอนุมัติคืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่ 30 บริษัทปริศนา เป็นเงินกว่า 3,647 ล้านบาท โดยบริษัทหลายแห่งเป็นสถานที่เดียวกัน ไม่มีการประกอบกิจการจริง หลายบริษัทมีที่ตั้งเป็นบ้านเลขที่ห้องเช่า โดยกรณีดังกล่าวคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงของกระทรวงการคลัง ได้สรุปผลว่ามีเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง 18 ราย เป็นข้าราชการระดับสูง ซี 9 จำนวน 4 ราย และระดับปฏิบัติงานอีก 14 ราย จากนั้นคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว ได้สรุปผลว่ามีข้าราชการกรมสรรพากรที่ถูกสอบสวนทางวินัยทั้งหมด 20 ราย และได้ประสานความร่วมมือกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อจัดส่งรายชื่อข้าราชการที่เกี่ยวข้องในคดีนี้ให้กับคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตรวจสอบอย่างเป็นทางการ โดยมีนายภักดี โพธิศิริ เป็นประธานคณะอนุกรรมการไต่สวนฯ ซึ่งภายหลังดำเนินการไต่สวนตรวจสอบแล้ว พบว่าในระดับเจ้าหน้าที่มีอย่างน้อย 2 รายที่มีความร่ำรวยผิดปกติ โดยก่อนหน้านี้คณะอนุกรรมการไต่สวนฯเห็นว่ามีเหตุอันควรสงสัยว่า นายศุภกิจ ริยะการ หรือสิริพงศ์ ริยะการธีรโชติ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งสรรพากรพื้นที่กรุงเทพฯ 22 (บางรัก) ร่ำรวยผิดปกติ มีพฤติการณ์น่าเชื่อว่าจะมีการโอนย้าย ยักย้าย แปรสภาพ หรือซุกซ่อนทรัพย์สิน จึงได้มีคำสั่งอายัดทรัพย์สินของนายศุภกิจ และผู้ที่เกี่ยวข้องไว้เป็นการชั่วคราว รวมมูลค่าประมาณ 48 ล้านบาท และล่าสุดคือกรณีคณะอนุกรรมการไต่สวนฯมีคำสั่งอายัดทรัพย์สินของนายสาธิต
สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน