สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

สังคมกังขาหนัก-ซีทีเอ็กซ์ทอท-เจ๋งหรือเจ๊ง

จาก โพสต์ทูเดย์

โดย...พีรดา ปราศรีวงศ์

เป็นประเด็นร้อนตอกย้ำความน่าเชื่อถือของระบบมาตรฐานความปลอดภัยด้านการบินของประเทศไทยได้อย่างสาหัส เมื่อพล.ต.ทคำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ถูกตรวจพบพกอาวุธปืนเตรียมเดินทางโดยสารกลับประเทศไทย ที่สนามบินนาริตะ ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดคำถามมากมายตามมาว่าเหตุใดอาวุธปืนดังกล่าว หลุดรอดบินข้ามน้ำข้ามทะเลออกไปจากประเทศไทยได้ ในเรื่องนี้ พล.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม ในฐานะกำกับดูแลบริษัทท่าอากาศยานไทย(ทอท.) ตั้งคำถามถึง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกิดจากเครื่องเออเร่อร์หรือคนเออเร่อร์

ศิโรตม์ ดวงรัตน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทอท.) กล่าวยืนยันว่า ระบบการตรวจสอบสัมภาระกระเป๋าผ่านเครื่องเอ็กซ์เรย์ซีทีเอ็กซ์ 9400 ของทอท.ได้รับมาตรฐานจากสำนักงานบริหารการบินสหรัฐอเมริกา (Transportation Security Administration หรือ ซีเอสเอ) กรมการบินพลเรือน(บพ.) องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ(ไอเคโอ) ซึ่งมีการตรวจสอบมาตรฐานการตรวจค้นสัมภาระ และผ่านเกณฑ์มาตรฐานมาโดยตลอด ไม่ถูกสั่งให้แก้ไขหรือพบข้อบกพร่องแต่อย่างใด

ทั้งนี้จากการตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดการเดินทางออกจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์  เดินทางไปยังประเทศญี่ปุ่น กับเที่ยวบินทีจี 640 เวลา 23.50 น. เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.ที่ผ่านมา ได้ให้ความร่วมมือในการตรวจค้นสัมภาระถือขึ้นเครื่องและตรวจค้นร่างกายตามขั้นตอนบริเวณจุดผู้โดยสารพรีเมี่ยมของการบินไทย ไม่พบวัตถุที่ที่จะเป็นอันตรายต่ออากาศยานแต่อย่างใด

"พนักงานทอท.ได้ตรวจสัมภาระในกระเป๋าถือพล.ต.ท.คำรณวิทย์ตามขั้นตอนไม่พบสิ่งผิดปกติแต่อย่างใด ส่วนระบบการตรวจสอบสัมภาระที่โหลดใต้ท้องเครื่องผ่านเครื่องซีทีเอ็กซ์9400 ไม่สามารถตรวจสอบภาพได้อีกครั้ง เพราะการตรวจกระเป๋าจะถูกลบทิ้งทุกๆ 3 วัน เนื่องจากการตรวจสัมภาระในแต่ละวันมีจำนวนมาก หากเก็บข้อมูลไว้ในระบบทั้งหมดจะส่งผลต่อการปฎิบัติงานที่ล่าช้าลง"ศฺโรจน์ กล่าว

อย่างไรก็ตามทอท.ยืนยันว่าเครื่องเอ็กซ์ซีทีเอ็กซ์ 9400 ได้รับมาตรฐานการตรวจสอบคุณภาพที่ดี เพราะการทำงานตรวจสอบถึง 5 ขั้นตอน ใช้เวลาประมาณ 8 นาที ก่อนลำเลียงขนสัมภาระโหลดใต้ท้องเครื่องบิน ตั้งแต่การคัดแยกวัตถุต้องสงสัย ซึ่งเครื่ิองมือดังกล่าวจะทำงานร่วมกับพนักงานที่มีการฝึกฝนอบรมมาอย่างดี ซึ่งจะมีการผลัดเปลี่ยนหน้าที่การทำงานทุก 20 นาที เพื่อผ่อนคลายความเมื่ิอยล้าจากการตรวจสิ่งของสัมภาระผู้โดยสารด้วยตา

ศิโรฒน์ กล่าวว่า ในวันที่ 29 มิ.ย.นี้ ทางบพ.เตรียมมาตรวจสอบระบบดังกล่าวอีกครั้ง โดยบริษัทยังไม่มีการตั้งคณะกรรมการทำหน้าที่ตรวจสอบเรื่องนี้แต่อย่างใด ส่วนกระทรวงจะมอบหมายให้ตั้งหรือไม่นั้น ทอท.เป็นส่วนของภาคการปฏิบัติ เพราะยืนยันว่ามีระบบมาตรฐานการดูแลรักษาความ ส่วนปลอดภัยที่มีความน่าเชื่อถือ

ส่วนจะยืนยันได้หรือไม่นั้นว่า อาวุธปืนถูกโหลดใต้ท้องเครื่องหรือไม่นั้น ทอท.ยืนยันว่าระบบการตรวจสอบมีมาตรฐานสากลและเป็นมาตรฐานเดียวกับที่สนามบินนาริตะใช้ ส่วนการตรวจสอบผู้โดยสารขาออกของสนามบินทางญี่ปุ่น ไม่ได้ผ่านขั้นตอนการเอ็กซ์เรย์กระเป๋า จึงไม่อาจเชื่อมโยงกับการตรวจสอบขาออกจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้ ซึ่งขณะนี้ต้องให้ประเทศญี่ปุ่นดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น

อุษณีย์ แสงสิงแก้ว กรรมการผู้จัดการฝ่ายบริการลูกค้าภาคพื้น บริษัทการบินไทย เล่าว่า บริษัทมีระเบียบขั้นตอนการขอพกอาวุธปืนขึ้นเครื่องตามมาตรฐานสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (ไออาต้า) โดยต้องยื่นเอกสารตามขั้นตอน เพื่อพิจารณาในแต่ละกรณี ซึ่งจากการตรวจสอบกรณี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ไม่มีคำยื่นเอกสารขออนุญาตในครั้งนี้แต่อยาางใด รวมถึงย้อนหลังในปี 2557 ด้วย ผ่านมาการขอพกอาวุธปืนขึ้นเครื่องจะมีในกลุ่มนักกีฬาทีมชาติที่เดินทางไปแข่งขันต่างประเทศ ซึ่งทุกครั้งจะปลดลูกกระสุนปืนออกจากลำกล้องปืน พร้อมโหลดเข้าใต้ท้องเครื่องบิน โดยไม่อนุญาตให้นำขึ้นชั้นผู้โดยสาร"อุษณีย์ กล่าวทิ้งท้าย
 
ไม่ว่าทอท.-การบินไทยจะอธิบายอย่างไร แต่ดูเหมือนว่า สังคมจะกังขาว่า ตรวจอย่างไรถึงไม่เจอ ในเมื่อทายาทระบุชัดว่าปืนดังกล่าวนำไปจากเมืองไทย...
 
นี่เป็นโจทย์ใหญ่ที่กำลังทำลายความน่าเชื่อถือของระบบการบินของไทย


จับตา-บิ๊กแจ๊ด-ซ้ำเติมวิกฤตบิน

โดย...ทีมข่าวเศรษฐกิจภาครัฐโพสต์ทูเดย์

การที่เจ้าหน้าที่สนามบินนาริตะ ประเทศญี่ปุ่น จับกุมตัว พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ในข้อหาพกพาอาวุธปืนเข้าสนามบินนาริตะ คงไม่จบลงง่ายๆ และน่าจะสร้างปัญหาใหม่ให้กับรัฐบาลไทยและกระทรวงคมนาคมแน่นอน 

ไม่ต่างกับจากเมื่อครั้งที่องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ตรวจพบข้อบกพร่องที่มีนัยสำคัญต่อความปลอดภัย (SSC) ในการกำกับดูแลสายการบินของกรมการบินพลเรือน (บพ.) กระทั่งนำไปสู่มีการปักธงแดงหน้าชื่อประเทศ ซึ่งสร้างผลกระทบให้อุตสาหกรรมการบินของไทยถ้วนหน้า

โดยเฉพาะหากมีข้อพิสูจน์เป็นที่ประจักษ์ว่า สนามบินสุวรรณภูมิปล่อยปละละเลยให้ผู้โดยสารนำอาวุธปืนขึ้นเครื่องบินโดย “ไม่แจ้ง” ให้สายการบินและฝ่ายรักษาความปลอดภัยของบริษัท ท่าอากาศยานไทย (ทอท.) ทราบ จะสะท้อนถึงข้อบกพร่องของระบบการรักษาความปลอดภัย (Security) ของสนามบิน

เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม ออกมายืนยันตามที่ ประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร ในฐานะประธานคณะกรรมการ บริษัท ท่าอากาศยานไทย (ทอท.) ได้รายงานว่าจากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณจุดตรวจค้น และตรวจกระเป๋าสัมภาระโหลดใต้ท้องเครื่องบินเมื่อวันที่ 18 มิ.ย. 2558 ซึ่งเป็นวันที่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ เดินทางออกจากสนามบินสุวรรณภูมิไปนอกประเทศ ไม่พบว่ามีการนำอาวุธปืนออกไป และไม่มีการรายงานว่ามีการขออนุญาตนำปืนออกนอกประเทศแต่อย่างใด

“มั่นใจว่าเรื่องนี้จะไม่กระทบต่อความเชื่อมั่นในระบบการรักษาความปลอดภัยในสนามบินของไทย ซึ่ง ทอท.มีหลักฐานยืนยันได้ โดยเฉพาะภาพจากกล้องวงจรปิด จึงไม่น่าจะมีประเด็นที่ระบุถึงความบกพร่องในการผ่านเข้าออกสนามบิน แต่ได้กำชับให้เข้มงวดกับทุกคน รวมทั้งบุคคลวีไอพี ว่าจะต้องผ่านขั้นตอนตรวจค้นโดยไม่มีการยกเว้น” พล.อ.อ.ประจิน กล่าว

พล.อ.อ.ประจิน ยืนยันว่า กรณีการจับกุมอาวุธปืนของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ จะไม่มีผลกระทบต่อการที่ ICAO จะส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบระบบการกำกับดูแลความปลอดภัยของสนามบินภายใต้โครงการตรวจสอบและกำกับดูแลระบบการรักษาความปลอดภัยสากล (USAP) ในปี 2559 เนื่องจากระบบกำกับดูแลความปลอดภัยในสนามบินของไทย โดยเฉพาะสนามบินสุวรรณภูมิได้มาตรฐานสากล

“ไม่มีข้อร้องเรียนจากปลายทางว่าตรวจพบสิ่งของต้องห้ามผ่านจากสนามบินของไทย แต่เห็นว่าฝ่ายปฏิบัติจะต้องนำเรื่องนี้มาเป็นกรณีศึกษา” พล.อ.อ.ประจิน ย้ำ

ด้าน ประสงค์ ย้ำว่า หลังตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด เมื่อ
วันที่ 18 มิ.ย.ที่ผ่านมา ช่วงเวลาที่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์เดินทางออกจากสนามบินสุวรรณภูมิในช่องวีไอพีของสายการบินไทย พบว่า พล.ต.ท.
คำรณวิทย์ ให้ความร่วมมือในจุดตรวจค้นอย่างดี ซึ่งในภาพปรากฏชัดเจนว่ามีการถอดสูทและเดินกลับมาถอดรองเท้าอีกรอบ

สำหรับกระเป๋าเป้ที่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ถือติดตัว ก็ได้นำผ่านเครื่องเอกซเรย์ และเมื่อตรวจสอบข้อมูลรายละเอียดไม่พบว่ามีการพกอาวุธปืนติดตัวหรืออยู่ในกระเป๋าเป้ในวันดังกล่าว เช่นเดียวกับการตรวจสอบกระเป๋าสัมภาระที่โหลดใต้ท้องเครื่องบิน ซึ่งต้องผ่านการตรวจเอกซเรย์ด้วยเครื่องซีทีเอ็กซ์ก็ไม่พบสิ่งผิดปกติ และระบบขึ้นคำว่า “เคลียร์”

“ความผิดพลาดในขั้นตอนตรวจค้นของเจ้าหน้าที่คงเป็นไปได้ยาก และเมื่อนำภาพจากเครื่องเอกซเรย์มาดูย้อนหลังก็ไม่พบอาวุธปืน” ประสงค์ กล่าว

นิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. ระบุว่า จากการตรวจระบบตรวจสอบกระเป๋าสัมภาระผ่านเครื่องซีทีเอ็กซ์ ซึ่งมีประสิทธิภาพในการตรวจสอบวัตถุระเบิดหรือสารตั้งต้นของระเบิด รวมถึงกระสุนปืนหรือคราบเขม่าดินปืน ไม่มีความผิดปกติในการคัดแยกกระเป๋า และเครื่องซีทีเอ็กซ์ที่อยู่ในความรับผิดชอบของกลุ่มล็อกซเล่ย์ไม่พบว่ามีข้อบกพร่องเช่นกัน อีกทั้งที่ผ่านมา TSA (Transportation Security Administration) ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านความปลอดภัยของสหรัฐได้ตรวจสอบเป็นระยะๆ

“แม้ว่า พล.ต.ท.คำรณวิทย์ จะผ่านช่องทางพิเศษ แต่ขั้นตอนและอุปกรณ์การตรวจร่างกายและสัมภาระจะเหมือนกับช่องทางปกติทั่วไป และกรณีของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์นั้น เมื่อตรวจดูภาพจากกล้องวงจรปิดและข้อมูลบันทึกไว้ไม่พบว่ามีการพกอาวุธปืน ซึ่งเป็นข้อที่พิสูจน์ได้ตามหลักวิทยาศาสตร์ในขณะนี้” นิตินัย กล่าว

ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ได้สั่งการให้ตรวจสอบในเรื่องนี้ว่า เหตุใด พล.ต.ท.คำรณวิทย์ จึงสามารถนำอาวุธปืนผ่านจุดตรวจที่สนามบินสุวรรณภูมิไปยังประเทศญี่ปุ่นได้ และผ่านการตรวจเอกซ์เรย์ไปได้อย่างไร เพราะถือว่ามีความผิดเหมือนการลักลอบขนของหนีภาษี แต่อย่านำไปเชื่อมโยงประเด็นกับปัญหา ICAO เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนบุคคล

จึงต้องติดตามว่าผลตรวจสอบจะเป็นอย่างไร


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : สังคม กังขาหนัก ซีทีเอ็กซ์ ทอท เจ๋งหรือเจ๊ง

view