สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ทีมจับลิขสิทธิ์ V.S. กลุ่มผู้ค้า สงครามวุ่นๆที่ไม่มีวันจบสิ้น

จาก โพสต์ทูเดย์

โดย...อินทรชัย พาณิชกุล

ข่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจและทีมตรวจจับสินค้าละเมิดสิทธิ์ถูกพ่อค้าแม่ค้ารุมยำจนสะบักสะบอมเอาตัวไม่รอดที่ตลาดแกรนด์ฮอลล์ ซอยบัวขาว ย่านพัทยาใต้ เหตุเพราะไม่ยอมแสดงบัตรประจำตัว ก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง

ฝ่ายหนึ่งประณามการกระทำอันป่าเถื่อนของกลุ่มผู้ค้าที่ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย อีกฝ่ายตำหนิเจ้าหน้าที่ที่ไม่ยอมแสดงหลักฐานการเข้าจับกุมตามขั้นตอนที่พึงปฏิบัติ จึงไม่น่าแปลกใจว่า ทำไมสงครามระหว่างเจ้าหน้าที่จับลิขสิทธิ์กับกลุ่มผู้ค้าจึงอุบัติขึ้นอยู่เรื่อยๆ 

พฤติกรรม"มั่วนิ่ม"ของทีมจับลิขสิทธิ์

ช่วงสิบปีที่ผ่านมา ภาพการกระทบกระทั่งระหว่างกลุ่มพ่อค้าแม่ค้ากับเจ้าหน้าที่ตรวจจับลิขสิทธิ์บนห้างสรรพสินค้า ตลาดนัด ตึกแถวร้านรวงต่างๆ เผยให้เห็นการโต้เถียงอันดุเดือดเลือดพล่าน ก่อนลงไม้ลงมือ บางครั้งถึงขั้นไล่ฆ่ากันไม่ต่างจากสงคราม

บัณฑิต พ่อค้าขายเสื้อผ้าย่านรามคำแหง มองว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นจากเจ้าหน้าที่ตรวจจับสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ไม่แสดงตัวอย่างเปิดเผย ไม่แสดงหลักฐานการเข้าจับกุมอย่างถูกต้องตามขั้นตอน

"ประเด็นอยู่ตรงการเข้ามาตรวจจับของเขามาแบบมั่วๆ ไม่พูดพร่ำทำเพลง พ่อค้าแม่ค้าก็ไม่ไว้ใจ เพราะไม่ต่างอะไรกับโจร จะให้เขายืนมองตาปริบๆให้ใครที่ไหนไม่รู้มาเอาของไปต่อหน้าเหรอ ก็ต้องขัดขวางอยู่แล้ว หากเป็นเจ้าหน้าที่จริง แสดงตัวอย่างเปิดเผย แสดงหลักฐานครบถ้วน ยังไงพวกขายของละเมิดลิขสิทธิ์ก็ต้องยอม เพราะมาอย่างถูกกฎหมาย"

สอดคล้องกับคำพูดของ ทรงยศ พ่อค้าขายเครื่องสำอาง ที่บอกว่า ค้าขายมานานสิบปี ไม่เคยเห็นเจ้าหน้าที่ลิขสิทธิ์รายใดแสดงตัวตามขั้นตอนอย่างถูกต้องแม้แต่ครั้งเดียว

"สมัยขายของใหม่ๆ มีกลุ่มชายฉกรรจ์มาขอตรวจค้นร้านข้างๆ ล้อมกันเต็มไปหมด มาถึงก็คุ้ยๆโกยของใส่ถุงยกขึ้นกระบะ จากนั้นมีชายคนหนึ่งเดินมาที่ร้านเราแล้วคุ้ยหาสินค้าที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่พูดไม่จาอะไรเลย พูดง่ายๆโคตรมั่ว พอเราเถียงว่าสินค้าที่ร้านลิขสิทธิ์ถูกต้องทุกชิ้น มันก็ทำท่าฉุนเฉียว เรียกเก็บค่าคุ้มครอง แถมขู่ด้วยว่าคราวหน้าจะกลับมาใหม่ สมัยก่อนพวกนี้อาลาะวาดหนัก จับพ่อค้าแม่ค้าในตลาดแต่ละทีไม่มีใครกล้าช่วยหรอก เพราะคนที่ขายของก๊อบก็กลัวจะโดนหางเลขไปด้วย บางคนขายของจริงแต่ไม่กล้ายุ่ง เพราะไม่รู้กฎหมาย กลัวถูกจับข้อหาขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ แต่เดี๋ยวนี้น้อยลงไปเยอะเพราะพ่อค้าแม่ค้ารู้เท่าทันกันมากขึ้น ดูจากคลิปยูทูบ ศึกษาอ่านข้อกฎหมาย พอเจอบุกจับแบบมั่วนิ่ม ทุกคนเลยกล้าออกตัวเข้ามาช่วยกัน ไอ้พวกนั้นก็ต้องเผ่น ไม่งั้นมีหวังโดนกระทืบ"

พ่อค้ารายนี้ยืนยันว่า ถ้าจะจับกุมอย่างจริงจังก็ให้ดำเนินคดีส่งฟ้องตามกฎหมาย คนถึงจะหวาดกลัว ที่สำคัญหากมัวแต่ไล่จับผู้ค้ารายย่อย แทนที่จะไปบุกทลายโรงงานผลิตซึ่งเป็นต้นทาง ปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์คงไม่มีวันหมดลง

"ทำผิด-ไม่รู้กฎหมาย"เหยื่อโอชะของเหล่านักบิน

จากคำบอกเล่าของ อนุวัฒน์ อดีตเจ้าหน้าที่จัดเก็บลิขสิทธิ์ ระบุความจริงอันน่าตกใจว่า เป้าหมายหลักของกลุ่มมิจฉาชีพคือร้านที่กระทำผิดกฎหมายชัดเจน ร้านไหนขายสินค้าถูกกฎหมายก็จะไม่เข้าไปยุ่ง

โดยพฤติการณ์ของมิจฉาชีพที่อ้างตัวเจ้าหน้าที่ตรวจจับสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ จะพุ่งเป้าไปที่กลุ่มผู้ค้าที่เป็นคนสูงอายุ ผู้หญิง หรือลูกจ้างต่างด้าวที่เฝ้าร้านอยู่ลำพัง มักจะยกโขยงกันไปเป็นกลุ่มแล้วใช้วิธีล้อมกรอบข่มขู่ให้หวาดกลัว นอกจากนี้ยังมีการอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบ เมื่อทำการยึดสินค้าเสร็จก็จะนัดไปให้โรงพัก แต่แทนที่จะดำเนินคดีตามกฎหมาย กลับเรียกเก็บเงินเพื่อแลกกับการยอมความ 

"พวกนี้เขาเรียก 'นักบิน' ส่วนใหญ่ไม่บัตรหมดอายุก็ทำผิดจนโดนไล่ออก ก็เลยบินหากินเอง บางคนห้อยบัตรไว้แต่ไม่โชว์ บางทีเอาหมายค้นที่ระบุว่าค้นโพยหวยโพยบอลมาแอบอ้างค้นลิขสิทธิ์ หรือแค่ใบบันทึกประจำวันจากสน.ซีรอกซ์ตัวอักษรเบลอๆเห็นไม่ค่อยชัด ผู้ค้าหลายคนยอมจ่ายเพราะกลัวติดคุก เมื่อไม่ดำเนินคดีส่งฟ้องศาล พวกนี้ก็ได้ใจ อีกอย่างตำรวจบางคนก็ชอบให้ยอมความ เพราะจะได้เงินส่วนแบ่ง ดีกว่าทำเป็นคดีเล็กๆที่ไม่ได้ผลงานดีเด่อะไร ส่วนใหญ่นักบินจะตีกินร้านนึงแค่ครั้งเดียว เพราะคนที่เคยโดนเขาไม่ยอมโดนซ้ำสองหรอก มันเลยเดินสายอาละวาดต่อในต่างจังหวัด สมมติครั้งนี้มากรุงเทพ ก็อาจบินไปชลบุรี ตีขึ้นไปเชียงใหม่ แล้วตระเวนแถบอีสาน หลายเดือนค่อยกลับมาอีกรอบกับร้านใหม่ๆ เพราะตลาดนัดมีเป็นพันๆหมื่นๆที่ พ่อค้าแม่ค้าหน้าใหม่ก็เยอะ ส่วนเจ้าของตลาดนัดไม่แคร์หรอก เขาห่วงแค่ค่าเช่า เจ้าของตลาดนัดบางคนช่วยนะ บ้างก็จ่ายส่วยให้ตำรวจท้องที่ บางคนมีอิทธิพลประกาศห้ามเข้าตลาดเลย เพราะทำให้คนทำมาหากินเขาเดือดร้อน"

ต้องตรวจค้นจับกุมอย่างเปิดเผย

พ.ต.อ.ณพวัฒน์ อารยางกูร รองผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามอาชญากรทางเศรษฐกิจ หรือปอศ. กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจแม้จะมีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย แต่การลงพื้นที่ตรวจค้น หรือจับกุม ต้องแสดงตนทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นบัตรประจำตัว หมายค้น ใบบันทึกการแจ้งความ โดยเดินทางไปพร้อมเจ้าของลิขสิทธิ์ หรือเจ้าหน้าที่ผู้รับมอบอำนาจ

"การเข้าตรวจค้น หรือจับกุมต้องเป็นไปอย่างสุภาพ นุ่มนวล ที่สำคัญต้องแสดงตนอย่างเปิดเผย รวมทั้งแสดงเอกสารต่างๆให้ครบถ้วนตามขั้นตอน ที่ผ่านมาปัญหาที่พบบ่อยคือ เจ้าหน้าที่ลิขสิทธิ์บางบริษัทพกแค่ใบบันทึกประจำวันเฉยๆ แต่ไม่มีหมายค้น แบบนี้ใช้ไม่ได้ หรือบางครั้งเจ้าของลิขสิทธิ์ไม่มา แต่มอบอำนาจให้บริษัทที่จัดเก็บ พอตรวจสอบกลับพบว่าใบมอบอำนาจหมดอายุ ส่วนเหตุที่เจ้าหน้าที่มักแต่งตัวนอกเครื่องแบบปฏิบัติหน้าที่ เนื่องจากสินค้านั้นขนย้ายถ่ายเทได้ จึงต้องแต่งกายนอกเครื่องแบบ แต่พอไปถึงปุ๊บก็ต้องแสดงตน แสดงหลักฐานอยู่ดี"

วิรัช หวังปิติพาณิชย์ ทนายความชื่อดัง เล่าขั้นตอนที่ถูกต้องของการไปตรวจค้น หรือจับกุมสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ว่า

1.เจ้าของลิขสิทธิ์ผู้เสียหายต้องไปแจ้งความร้องทุกข์ที่สถานีตำรวจท้องที่ที่กระทำผิด พร้อมรายละเอียดการละเมิดว่า ใคร ที่ไหน สินค้าประเภทใด

2.พนักงานสอบสวนลงบันทึกประจำวันเป็นคดี ก่อนยื่นขอหมายค้น

3.ในหมายค้นดังกล่าวจะระบุอย่างชัดเจนว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจคนใดเป็นผู้ได้รับมอบหมาย เจ้าของลิขสิทธิ์ชื่ออะไร หากไม่เองต้องมอบอำนาจอย่างถูกต้อง โดยผู้แทนต้องมีใบมอบอำนาจมายืนยัน นอกจากนี้ยังต้องระบุวันเวลา สถานที่เข้าตรวจค้น สินค้าประเภทใดบ้าง

4.เจ้าของร้านมีสิทธิ์ขอดูบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจ บัตรประจำตัวผู้รับมอบอำนาจ บัตรประจำตัวผู้รับมอบ ซึ่งต้องตรงกับที่ระบุในหมายศาล และมีสิทธิ์เข้าตรวจค้นได้แต่เฉพาะบุคคลที่มีรายชื่อในหมายศาลเท่านั้น หากหลักฐานอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ถูกต้อง ก็สามารถปฏิเสธไม่ให้ตรวจค้นได้

ทำสิ่งถูกก็ไม่มีอะไรต้องกลัว

นับตั้งแต่พรบ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 ประกาศบังคับใช้อย่างจริงจัง เพื่อปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาอันมีค่าของเจ้าของผู้สร้างสรรค์ผลงาน แม้ทางการจะปราบปรามอย่างหนัก ควบคู่ไปกับการรณรงค์ให้ความรู้ แต่ดูเหมือนสถานการณ์การละเมิดลิขสิทธิ์ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง

กริช ทอมมัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร จีเอ็มเอ็ม มิวสิค เผยว่า แม้จะมีการกวดขันจับกุมสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์อย่างเด็ดขาดจริงจัง แต่คนไทยจำนวนไม่น้อยยังคงมีทัศนคติที่ผิดเกี่ยวกับคำว่าลิขสิทธิ์

"คนส่วนใหญ่ยังไม่ให้ความสำคัญกับลิขสิทธิ์ว่าเป็นทรัพย์สินทางปัญญาที่ไม่ควรถูกละเมิด ทุกวันนี้ยังมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนว่าแบบไหนที่เรียกว่าการละเมิดลิขสิทธิ์ เขามองว่าการเปิดเพลง หรือนำเพลงมาร้อง เป็นการประชาสัมพันธ์โปรโมทให้กับค่ายเพลงไปในตัว แต่ความเป็นจริงคือ เพลงที่เขาเปิดที่เขาเล่นเป็นเพลงที่เราโปรโมทจนฮิตติดตลาดแล้ว กลับมองว่าถูกรังแก กลั่นแกล้ง ถ้าทุกคนเคารพสิทธิ์ซึ่งกันและกัน มีการขออนุญาตกัน ปัญหาก็จะไม่เกิด การละเมิดลิขสิทธิ์เพลงที่เกิดขึ้นทุกวันนี้แบ่งเป็น ละเมิดโดยเจตนา เช่น ปั๊มแผ่นผีซีดีเถื่อน ก็ต้องดำเนินการลงโทษตามกฎหมาย และ ละเมิดโดยไม่เจตนา เช่น เปิดเพลงในร้านอาหาร นำเพลงไปร้องในผับ ตรงนี้ก็ต้องให้ความรู้ความเข้าใจ อธิบายให้ถูกต้อง ถ้าเขาเข้าใจก็จบ แต่ถ้ายังไม่ยอม รู้ว่าผิดแต่จงใจจะหลีกเลี่ยง อันนี้ก็ถือว่าเจตนา"

การจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์ ถือเป็นหนึ่งในปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์ที่ทางค่ายกำลังเผชิญอยู่ เช่นเดียวกับการปั๊มแผ่นผี เปิดเพลงในร้านเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ทางการค้า นำเพลงไปร้องหากินโดยไม่ได้รับอนุญาต คัฟเวอร์เพลงศิลปิน แม้กระทั่งเลียนแบบบุคลิกของศิลปินแล้วนำไปร้องออกงานต่างๆ ทุกจุดล้วนส่งผลกระทบต่อธุรกิจเพลงทั้งสิ้น

"เรามีกฎเกณฑ์อยู่ เช่น ถ้านำเพลงไปใช้ในการส่วนตัว เช่น เปิดในงานบวช งานบุญ ขึ้นไปร้องเพลงอวยพรเจ้าบ่าวในงานแต่ง เปิดเพลงเต้นกันในงานแห่นาค วันสงกรานต์ แบบนี้เราไม่เก็บ แต่ถ้าเป็นวงไลฟ์แบนรับจ้างนำเพลงเราไปร้อง แบบนี้ก็ต้องจ่าย

ที่ผ่านมาปัญหากระทบกระทั่งมาจากพวกเจตนาละเมิดทั้งนั้น แต่ถ้าคนที่ไม่เจตนา เราก็เสนอขาย และให้ความรู้ด้วยว่ามันผิด เราเน้นการขายลิขสิทธิ์มากกว่าการจับกุม ที่เลวกว่าคือ พวกที่ออกสติ๊กเกอร์ผี หลอกลวงคนที่อยากจะซื้อลิขสิทธิ์ที่ถูกต้อง เหมือนเอาของปลอมไปขายเขา พอเจ้าของสิทธิ์ตัวจริงไปตรวจจับก็กลายเป็นว่าผิด เพราะซื้อของปลอม เราแนะนำให้ผู้ประกอบการแจ้งความตลอด ส่วนเรื่องนักบิน เราก็กำชับให้ตรวจสอบใบมอบอำนาจ ใครทำผิดเราไล่ออก ดำเนินคดีเด็ดขาด พวกนี้ก็เข้าทำนองหมาเน่าตัวเดียวเสียทั้งวงการ แต่ท้ายที่สุดคือ อย่าทำผิด ถ้าคุณทำทุกอย่างถูกต้องจะไม่มีใครมาทำอะไรคุณได้"

ตราบใดที่ยังมีการขายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์อย่างเป็นล่ำเป็นสัน ย่อมมีกลุ่มมิจฉาชีพแฝงตัวเข้ามาหาผลประโยชน์โดยมิชอบอยู่เรื่อยๆ นั่นหมายความว่าสงครามระหว่างทีมตรวจจับลิขสิทธิ์กับกลุ่มผู้ค้าคงไม่มีทีท่าว่าจะจบสิ้น.


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : ทีมจับลิขสิทธิ์ กลุ่มผู้ค้า สงครามวุ่นๆ ไม่มีวันจบสิ้น

view