จากประชาชาติธุรกิจ

ข่าวฉาวเรื่องการตกแต่งบัญชีนานหลายปีของบริษัทโตชิบา โดยมีการบันทึกกำไรจากการดำเนินการสูงเกินจริงรวม 151,800 ล้านเยน (1,220 ล้านดอลลาร์) ส่งผลให้นายฮิซาโอะ ทานากะ ประธานบริษัทและประธานเจ้าหน้าที่บริหารต้องแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออก

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่บริษัทชั้นนำ จากญี่ปุ่นมีข่าวเรื่องหมกเม็ดผลการขาดทุนหรือบันทึกกำไรสูงเกินจริง บลูมเบิร์กรวบรวมการตกแต่งบัญชี6ครั้งใหญ่ของภาคธุรกิจญี่ปุ่น ดังนี้ (เรียงตามลำดับมูลค่าการบิดเบือนตัวเลข)

1) 4,000 ล้านดอลลาร์ : ในปี 2541 ลอง เทอม เครดิต แบงก์ ออฟ เจแปน ประเมินเงินทุนกันสำรองหนี้เสียต่ำกว่าความเป็นจริงไป 4,000 ล้านดอลลาร์ ศาลชั้นต้นตัดสินว่าผู้บริหาร 3 คนของบริษัทดังกล่าวมีความผิดฐานฉ้อโกง แต่ศาสลสูงสุดของญี่ปุ่นกลับคำตัดสินในปี 2551 ให้ทั้ง 3 คนพ้นผิดโดยให้เหตุผลว่า ทั้ง 3 คนยึดตามหลักกฎหมายบัญชีฉบับเก่า

2) 2,500 ล้านดอลลาร์ : บริษัทยามาอิชิ ซีเคียวริตีส์ ล้มละลายในปี 2540 หลังยอมรับว่าขาดทุน 2,500 ล้านดออลาร์ ซึ่งก่อนหน้านี้ปกปิดไว้ ทำให้นายอัตซึโอะ มิกิ อดีตประธานบริษัทและนายซึจิโอะ ยูกิฮิระ อดีตประธานบอร์ด ถูกตัดสินจำคุก 2.5 ปี

3) 1,700 ล้านดอลลาร์ : ปี 2554 มีการตรวจสอบพบว่า บริษัทโอลิมปัสใช้การควบรวมกิจการเป็นฉากบังหน้าเพื่อปกปิดผลการขาดทุนรวม 1,700 ล้านดอลลาร์ ในช่วง 13 ปี นับจากทศวรรษ 1990 โดยนายซึโยชิ คิคูกาวะ อดีตประธานบอร์ดพร้อมผู้บริหารอีก 2 คนยอมรับผิดในเดือนกันยายน 2555 ศาลตัดสินปรับโอลิมปัส 700 ล้านเยน (5.6 ล้านดอลลาร์) ส่วนผู้บริหาร 3 คนข้างต้นได้รับโทษจำคุก แต่รอลงอาญา



4) 1,680 ล้านดอลลาร์ : ปี 2548 คาเนโบ บริษัทผลิตเครื่องสำอางยักษ์ใหญ่ต้องแก้ไขตัวเลขผลประกอบการ 4 ปี จาก 5 ปีในช่วงปีบัญชี 2542-2546 การแก้ไขดังกล่าวทำให้เกิดข้อกังขาถึงความน่าเชื่อถือของบริษัทผู้สอบบัญชี ซึ่งรวมถึง บริษัทชูโอะมาโอยามะ ที่ร่วมทุนกับไพรส์วอเตอร์เฮาส์คูเปอร์ส โดยคาเนโบยอมรับว่าบันทึกกำไรสูงเกินจริงไป 210,000 ล้านเยน อดีตประธานบริษัท นายทากาชิ โฮอาชิและอดีตรองประธานบริษัท นายทากาชิ มิยาฮาระ ถูกตัดสินจำคุกแต่ให้รอลงอาญาไว้ก่อน

5) 1,632 ล้านดอลลาร์ : ปี 2550 บริษัทไอเอชไอ คอร์ป ผู้ผลิตเครื่องจักรกลหนักรายใหญ่อันดับ 3 ในญี่ปุ่น ประกาศแก้ไขผลประกอบการในปีบัญชี 2549 จากเดิมที่บันทึกว่ามีกำไร 15,800 ล้านเยน (126 ล้านดอลลาร์) เป็นขาดทุน 4,600 ล้านเยน (36.8 ล้านดอลลาร์) ทำให้บริษัทนี้ถูกสั่งปรับเงิน 1,600 ล้านเยน (12.8 ล้านดอลลาร์) ขณะที่นายโมโตซึกุ อิโตะ ประธานบอร์ดลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบ

6) 109.6 ล้านดอลลาร์ : ในปี 2549 นิคโกะ คอร์ดิอัล บริษัทหลักทรัพย์ใหญ่อันดับ 3 ของญี่ปุ่นในขณะนั้น ถูกกล่าวหาว่าบิดเบือนตัวเลขกำไรให้สูงเกินจริงไป 13,7000 ล้านเยนในช่วง กรกฎาคม-กันยายน 2547 ผ่านการออกหุ้นกู้แปลงสภาพให้กับบริษัทในเครือ ต่อมาในปี 2550 นิคโกะฯถูกซิตี้ กรุ๊ปซื้อกิจการ

สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน