จากประชาชาติธุรกิจ

คอลัมน์ Market-Think โดย สรกล อดุลยานนท์

ทุกครั้งที่หุ้นตกแบบแรง ๆ นอกเหนือจากเสียงบ่นประมาณอยู่บนดอย หนาวจังแล้ว

จะมีมุขหนึ่งที่พี่-เพื่อน-น้องจะใช้เป็นประจำ เวลามีใครถามว่าเป็นไงบ้าง

"ไม่เป็นไร พี่พวก VI"

คือ จะบอกว่าเป็นนักลงทุนระยะยาว

หุ้นตกระยะสั้น ไม่มีผลกระทบอะไร

แต่เสียงที่พูดกลับสั่นกระเส่าราวกับอยู่บน "ดอยสูง"

ในมุมหนึ่ง ผมชอบวิธีคิดนี้เหมือนกันนะครับ

เวลาที่แก้ปัญหาระยะสั้นไม่ได้ ก็ให้วางแผนระยะยาว

การปิดงบฯรายไตรมาส หรือรายปี

มนุษย์เป็นคนสร้าง "กรอบ" ขึ้นมา

เมื่อมนุษย์เป็นคนสร้าง เราก็มีสิทธิ์เปลี่ยน

คือ กติกาตามกฎหมายทำอย่างไรก็ทำไป

แต่มุมคิดของเราปรับเปลี่ยนได้

จากแผนรายปี เราก็ปรับเป็นแผนปีครึ่ง 2 ปี หรือ 2 ปี 3 เดือนก็ได้

คิดแบบ VI

เพราะตอนนี้ "กำลังซื้อ" แห้งเหือด สู้เอางบประมาณมาใช้กับการพัฒนาคน พัฒนาความสัมพันธ์กับคู่ค้า ฯลฯ

วางแผนระยะยาวดีกว่า

พอน้ำขึ้น เราก็จะพร้อมกว่าคนอื่น

บริษัทไหนที่มีกำไรสะสมอยู่ สายป่านยาวน่าจะคิดแบบนี้

เพราะสถานการณ์เศรษฐกิจวันนี้ ไม่เหมือนตอนต้นปีที่ใคร ๆ ก็คิดว่ากลางปีจะดีขึ้น

ใครจะไปนึกว่ากลางปีเลวร้ายกว่าต้นปีอีก

ตอนนี้ทุกคนคิดถึงปีหน้า

บางคนคิดไกลไปกว่านั้น

นักธุรกิจใหญ่บางคนเชื่อว่าเศรษฐกิจไทยจะซึมยาว2-3ปี

แผนธุรกิจทุกอย่างปรับใหม่หมด

ต้องอึดมากกว่าเดิม

แต่ผมยังมองโลกในแง่ดี

ผมเชื่อว่าถ้ารัฐบาลตัดสินใจปรับ ครม.เศรษฐกิจ

ดึงคนที่มีศักยภาพเป็นที่ยอมรับของนักธุรกิจ อย่างเช่น "สมคิด จาตุศรีพิทักษ์"

เข้ามา

ความรู้สึกของนักธุรกิจจะดีขึ้น

จะเชื่อมั่นมากขึ้น

ดีหรือไม่ดี ไม่รู้

แค่เชื่อว่าจะดีกว่าวันนี้

แค่นี้ก็ดีแล้วครับ

และถ้า "ท่านผู้นำ" พูดน้อยลง ไม่ทะเลาะเบาะแว้งกับผู้อื่น

เปิดพื้นที่ข่าวให้กับเรื่องเศรษฐกิจบ้าง

ทุกอย่างน่าจะดีขึ้น

คำว่า "ดีขึ้น" หมายความว่าจะไม่เลวร้ายไปกว่านี้

อยู่ในระดับประคับประคองไม่ให้ดิ่งเหวลง

เพราะวิกฤตเศรษฐกิจครั้งนี้ไม่เหมือนปี2540

ครั้งนั้นเราพังจากเรื่องการเงินธุรกิจใหญ่ที่กู้เงินต่างประเทศล้มในเมืองกรุงระเนระนาด

แต่ในต่างจังหวัดยังดีอยู่

ในขณะที่วันนี้เศรษฐกิจไทยพังจากต่างจังหวัด

เหมือนไฟลามทุ่ง

ลามจากต่างจังหวัดเข้าเมืองกรุง

ตัวเลขความเสียหายอาจน้อยกว่าปี′40

แต่จำนวนผู้คนที่ "บาดเจ็บ" มากกว่าเยอะ

การปรับ ครม.จะช่วยในเรื่อง "ความเชื่อมั่น"

พอประทังไม่ให้เลวร้ายไปกว่านี้

และถ้าสามารถพยุงความเชื่อมั่นให้ผ่านไปถึงการเลือกตั้งครั้งหน้า

ผมเชื่อว่าทุกอย่างจะดีขึ้น

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง"ปัญหา"ที่เกิดจาก "แรงกดดัน" จากประเทศตะวันตก

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการบิน ค้ามนุษย์ หรือการเจรจาค้าเสรี

ทุกอย่างจะดีขึ้นแบบงง ๆ

ไม่ใช่เพราะฝีมือรัฐบาลใหม่

แต่เป็นเพราะความเป็น "ประชาธิปไตย" ของประเทศไทย

"ประชาธิปไตย" มี "ราคา" ครับ

สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน