จาก โพสต์ทูเดย์

โดย...ทีมข่าวต่างประเทศโพสต์ทูเดย์

ปิดม่านลงไปแล้วสำหรับการประชุมรัฐมนตรีคลังและเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางของกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ 20 ประเทศ ที่กรุงอังการา ของตุรกี โดยที่ประชุมเห็นพ้องที่จะยุติการแข่งขันลดค่าเงิน หลังจากที่ก่อนหน้านี้การปรับลดอัตราอ้างอิงแลกเปลี่ยนเงินหยวนของจีนหลายครั้งติดต่อกัน ได้ทำให้หลายประเทศพิจารณาหรือไม่ก็ปรับลดค่าเงินของลงตามจนเกิดความวิตกกังวลในวงกว้างว่าโลกกำลังเข้าสู่ภาวะสงครามค่าเงินที่รุนแรงได้

สมาชิก จี20 พร้อมด้วยจีนได้เห็นพ้องที่จะหยุดการลดค่าเงินลงและหยุดนโบาย "การปกป้องตัวเอง" ทางการค้าและเศรษฐกิจในทุกรูปแบบ  ขณะที่สถานการณ์เศรษฐกิจในจีนกลายเป็นจุดสนใจมากที่สุดในเวทีหนนี้ เนื่องจากในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาเศรษฐกิจจีนเกิดความระส่ำระส่ายอย่างรุนแรง โดยเฉพาะความผันผวนที่เกิดขึ้นในตลาดหุ้นและการปรับค่าเงินของจีนให้อ่อนลง ซึ่งจุดชนวนให้เกิดความตื่นตระหนกไปทั่วโลก

ในที่ประชุม โจวเสี่ยวฉวน ผู้ว่าการธนาคารกลางจีน ได้ชี้แจงว่าการปรับลดค่าเงินหยวนที่ผ่านมาของจีนนั้นไม่ใช่ความพยายามที่จะแย่งชิงการส่งออกของประเทศคู่แข่งขันในตลาดโลก ซึ่งการที่จีนปรับลดค่าเงินดังกล่าวนั้นก็เพื่อให้มีความเสรีที่กลไกตลาดจะสามารถกำหนดทิศทางของเงินหยวนมากขึ้น ซึ่งที่ประชุมก็รับฟังและเข้าใจในการอธิบายของจีนเป็นอย่างดี

โจว ระบุด้วย ว่า  อัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนของจีนต่อเงินเหรียญสหรัฐนั้นใกล้ถึงจุดที่มีเสถียรภาพแล้วและการแทรกแซงตลาดทุนในช่วงที่ผ่านมานั้นมีขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้ตลาดดิ่งเหวลงรุนแรงไปกว่านี้ พร้อมกับยืนยันว่าผลกระทบจากความผันผวนที่เกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจภาคจริงของจีนนั้นเป็นไปอย่างจำกัด อีกทั้งในขณะนี้ยังไม่มีพื้นฐานใดๆ ที่จะทำให้ค่าเงินหยวนจะอ่อนลงในระยะยาวด้วย

ด้าน ซูจุน ผู้อำนวยการฝ่ายระหว่างประเทศของธนาคารกลางจีน ก็ให้สัมภาษณ์ที่กรุงอังการา ว่า ความเปราะบางที่เกิดขึ้นกับตลาดหุ้นจีนนั้นใกล้ที่จะมาถึงจุดสิ้นสุดแล้วเช่นกัน

ทั้งนี้ นับตั้งแต่ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตของจีนแตะจุดสูงสุดเมื่อวันที่ 12 มิ.ย.ที่ผ่านมานั้น ดัชนีเซี่ยงไฮ้ก็ปรับร่วงลงมาอย่างรุนแรงถึง 39% ทำให้มูลค่าตลาดหายไปถึง 5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐทีเดียว หลังจากที่นักลงทุนตัดลดความเสี่ยงลง ขณะที่นักวิเคราะห์ให้ความเห็นว่าที่ผ่านมานั้นจีนพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะทำให้เป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจปีนี้อยู่ที่ระดับ 7% ท่ามกลางการลงทุนและการส่งออกที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อปีที่แล้วเศรษฐกิจจีนมีอัตราการเติบโตที่ 7.4% เท่านั้น ซึ่งเป็นการขยายตัวที่อ่อนแอมากที่สุดในรอบ 24 ปี

ขณะเดียวกันที่ประชุม จี20 ยังประกาศที่จะใช้มาตรการเพื่อกอบกู้สถานการณ์ให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกนั้นกลับมาในเส้นทางปกติให้ได้

ในแถลงการณ์ร่วมของ จี20 ระบุว่า ระบุว่า ได้เกิดความเปราะบางขึ้นในตลาดการเงิน และสถาพเศรษฐกิจที่วุ่นวายอย่างยิ่ง โดย จี20 ได้เรียกร้องให้มีการใช้มาตรการต่างๆ เพื่อดึงให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกกลับมาเป็นเช่นเดิม รวมไปถึงการส่งเสริมการส่งออกด้วยและหยุดการลดค่าเงิน

"เรามีความยินดีที่ในบางประเทศมีกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง แต่กระนั้นการเติบโตของเศรษฐกิจโลกก็ถือว่าต่ำกว่าที่คาดหมายเอาไว้ เราขอประกาศถึงการใช้มาตรการที่จะต้องรักษาให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกกลับมาเป็นปกติ และเรามั่นใจว่าการฟื้นตัวของโลกจะกลับมาอยู่ในทิศทางเดิม" แถลงการณ์ของ จี20 ระบุว่า

ในระหว่างการหารือนั้น ผู้แทนจากญี่ปุ่นและบางประเทศได้ขอร้องให้จีนเดินหน้าการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจอย่างจริงจัง โดยทางด้าน ทาโร อาโสะ รัฐมนตรีคลังญี่ปุ่น ได้เรียกร้องให้จีนตระหนักถึงประเด็นปัญหาของการลงทุนที่มากเกินไป รวมไปถึงระดับของหนี้เสียที่เกิดขึ้นในภาคธนาคารของจีนด้วย

"เราเดินมาถึงจุดที่แต่ละประเทศจำเป็นต้องจัดการกับปัญหาทางโครงสร้างเศรษฐกิจแล้ว" อาโสะแถลงถึงจีนโดยตรงพร้อมกับวิจารณ์รัฐบาลกรุงปักกิ่งถึงการรับมือต่อความผันผวนที่เกิดขึ้นในตลาดทุนนั้นเป็นวิธีที่ผิดปกติที่ไม่เคยเกิดขึ้นในประเทศอื่นๆ มาก่อน

ขณะที่ทางด้าน แจ็ค ลิว รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ได้เรียกร้องให้จีนเร่งมือในการปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจจากการเน้นการส่งออกและการลงทุนไปสู่การพึ่งพาการใช้จ่ายของผู้บริโภคมากขึ้นด้วย

ทั้งนี้ กลุ่มประเทศ จี20 ประกอบไปด้วย อาร์เจนตินา ออสเตรเลีย บราซิล อังกฤษ แคนาดา จีน ฝรั่งเศส เยอรมนี อินเดีย อินโดนีเซีย อิตาลี ญี่ปุ่น เม็กซิโก รัสเซีย ซาอุดิอาระเบีย แอฟริกาใต้ เกาหลีใต้ ตุรกีสหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรป

ภาพ...เอเอฟพี

สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน