สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

สมคิด เน้นปฏิรูปศก.ฐานล่างให้เข้มแข็งก่อนขยายส่งออก

สมคิด เน้นปฏิรูปศก.ฐานล่างให้เข้มแข็งก่อนขยายส่งออก

จาก โพสต์ทูเดย์

รองนายกฯ ด้านเศรษฐกิจ ปาฐกถาเวทีสัมมนา สนช. ระบุ เน้นปฏิรูปเศรษฐกิจฐานล่างให้เข้มแข็งก่อนขยายส่งออก

วันที่ 19 ก.ย. สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จัดโครงการสัมมนาสมาชิกสนช. ประจำปี 2558 โดยมี นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช. กล่าวเปิดการสัมมนาตอนหนึ่งว่า สนช.เป็นองค์กรที่มีความสำคัญในการวางรากฐานที่มั่นคง ในการปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่ยั่งยืน ซึ่งหมายถึงประชาธิปไตยที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม โดยการดำเนินการของสนช.ที่ผ่านมาเป็นการดำเนินงานตามรัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 นอกจากงานด้านกฎหมายสนช.ยังช่วยสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ให้เข้าใจหน้าที่ของสนช.ด้วย

ขณะที่ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ ปาฐกถาในหัวข้อ “เศรษฐกิจและการเมืองการปกครองของประเทศไทย” ตอนหนึ่งว่า การเข้ามาสู่ตำแหน่งในครั้งนี้ส่วนตัวไม่เคยคิดว่าต้องกลับมาอีก คิดด้วยซ้ำว่าจะเลิกการเมืองโดยเด็ดขาด แต่หลายเรื่องพออายุมากขึ้นบางเรื่องต่อให้เดินหนีก็ต้องประสบ เพราะเป็นเรื่องของโชคชะตา ซึ่งมักส่งให้มาทำงานในช่วงที่ยากลำบากไม่เคยสบายแต่ก็ถือว่าเป็นหน้าที่

ทั้งนี้ ในช่วงที่ปลอดการเมืองส่วนตัวได้เดินทางบ่อยก็คิดว่าจะทำอย่างไรให้ประเทศไทยทัดเทียมประเทศอื่น ซึ่งตอนที่เป็นที่ปรึกษาคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ดูแล้วว่าถ้าวิธีการทำงานยังเป็นแบบนี้อยู่จะเป็นปัญหา จึงแอบสั่งการไว้เพื่อเป็นการเตรียมพร้อม เมื่อเข้ามาทำงานก็สั่งการให้ดำเนินการได้ทันที โดยนำนโยบายที่คิดไว้ล่วงหน้าเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ภายใน 2 สัปดาห์หลังรับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี 

นอกจากนี้ ยังได้กำชับให้ทุกฝ่ายกำกับดูแลเรื่องการใช้จ่ายให้ดี พร้อมทั้งพยายามทำในสิ่งที่ถูกต้องไม่ให้เกิดผลเสีย ซึ่งนโยบายส่วนใหญ่ได้รับมอบหมายจากนายกฯ โดยขอให้ตนช่วยขับเคลื่อนให้เดินต่อ ซึ่งพยายามปฏิบัติตามนั้น ส่วนการหยิบยกโครงการกองทุนหมู่บ้าน ซึ่งเป็นกลไกที่เกิดขึ้นมาหลายปีแล้วมาเป็นกลไกหนึ่งในการบริหารราชการของรัฐบาลขณะนี้ เพราะช่วงที่ผ่านมาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ทำให้ชาวนารายได้ไม่พอ ประกอบกับสิ่งที่รัฐบาลให้ไปไม่เพียงพอ

อย่างไรก็ตาม เมื่ออำนาจซื้อไม่เพียงพอทำให้เศรษฐกิจโดยรวมขาดพลัง เปรียบเหมือนคนแก่ที่ร่างกายยังดี แต่ชีพจรเต้นไม่แข็งแรง หากปล่อยนานไปทั้งร่างก็จะเกิดปัญหา เหมือนประเทศที่ขณะนี้ธุรกิจระดับบนยังแข็งแรง แต่อำนาจการซื้อของฐานรากอ่อนแอ ก็จะทำให้ผลประกอบการรายใหญ่ชะลอตัว ลักษณะดังกล่าวหากปล่อยไว้นานจะเกิดปัญหาทางสังคม เศรษฐกิจ อีกทั้งความขัดแย้งจะเกิดขึ้น

"คนจนจะคิดว่าเราละเลยทำให้ใครมาปลุกปั่นได้ง่ายมาก รัฐบาลจึงตัดสินใจใช้ 2 กลไก คือ 1.กลไกกองทุนหมู่บ้าน และ2.กลไกตำบลละ 5 ล้านบาท เพื่อเป็นการหว่านเมล็ดให้เกิดโครงการที่ยั่งยืนได้ ซึ่งสิ่งที่ตนบอกนายกฯ คือทำอย่างไรให้โครงสร้างเศรษฐกิจสองขาเท่ากัน คือขาการส่งออก และขาของชนบทที่จะทำอย่างไรใหแข็งแรงสมบูรณ์ เป็นที่มาของการปฏิรูปการเกษตร การท่องเที่ยว และการทำให้บรรยากาศการค้าขายคึกคัก ซึ่งความสามารถของประเทศจะเกิดขึ้นได้ต่อเมื่อเราสร้างความเข้มแข็งภายในได้"นายสมคิด กล่าว 

รองนายกฯ กล่าวต่อว่า 30 ปีที่ผ่านมา ประเทศเน้นเรื่องการส่งออกทั้งที่จริงแล้วส่วนที่ใหญ่ที่สุดคือการค้าภายในประเทศ ส่วตัวจึงคิดว่าจุดมุ่งหมายในการพัฒนาประเทศไม่ใช่การมองจีดีพี แต่ต้องมองที่รากฐานในประเทศ จึงเป็นที่มาของการปฏิรูป อะไรที่ทำได้ก่อนให้ทำเลย ซึ่งเป็นหน้าที่ของรัฐบาล และคสช. เนื่องจากมีเวลาทำงานอีก 1 ปีครึ่งตามโรดแม็ปใหม่ ทั้งนี้ ประเทศไทยต้องพิจารณา 3 ด้านหลัก คือ 1.ทำอย่างไรให้โครงสร้างเศรษฐกิจ 2 ขาเท่ากัน คือขาการส่งออกกับขาชนบท ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่าทำได้แต่ทำยาก เพราะการบริหารราชแผ่นดินของเรายังล้าสมัย

2.ความสามารถของประเทศ ที่ผ่านมาความสามารถของประเทศเราอยู่ที่การส่งออก แต่วันนี้ขาที่แข็งแรงของการส่งออกเริ่มจะเป็นเก๊า สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ที่มีอยู่เริ่มล้าสมัย ดังนั้น ต้องดูตัวอย่างของเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และอิตาลี ว่าทำอย่างไร รวมทั้งระบบการศึกษาโดยเฉพาะมหาวิทยาลัยที่เน้นผลิตบุคลากรโดยไม่ตอบโจทย์ความต้องการพื้นฐานทางเศรษฐกิจแต่ละพื้นที่ เช่น มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ที่อยู่ในพื้นที่ที่มีความเข้มแข็งด้านการท่องเที่ยว และการประมง แต่กลับผลิตนักศึกษาให้เหมือนกับส่วนกลาง

และ3.ระเบียบวีธีการบริหารราชการแผ่นดินที่ยังล้าสมัย เช่น การจัดสรรงบประมาณที่ยังเป็นแบบรายจ่าย รายรับมีเพียงการจัดเก็บภาษี ดังนั้น การปฏิรูปจะทำได้หรือไม่อยู่ที่รัฐบาล แต่หัวใจของการปฏิรูปคือการขับเคลื่อนของประชาชน ถ้ายังไม่สามารถทำให้ประชาชนตื่นตัวได้ก็ยังไม่สามารถปฏิรูปได้ เช่น ปัญหาการคอร์รัปชัน ถ้าประชาชนไม่ตื่นตัวคนหน้าด้านก็ยังอยู่ ไม่ใช่แค่ฝ่ายราชการที่หน้าด้าน แต่ถ้าภาคเอกชนไม่ให้ เขาก็ไม่รับอยู่แล้ว


สมคิด'โทษโชคชะตาให้นั่งเก้าอี้รองนายกฯ

โดย :

สัมนาสนช. 1 ปี “สมคิด” โทษโชคชะตาให้นั่งเก้าอี้รองนายกฯ ชี้ส่งออกไทย กำลังเป็นเก๊า ระบุจีดีพีไม่ใช่ตัวชี้วัดการพัฒนาประเทศ

ที่โรงแรมดุสิตธานี เมืองพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) จัดโครงการสัมมนาสมาชิกสนช. ประจำปี 2558 โดย นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช. กล่าวเปิดการสัมมนาตอนหนึ่งว่า สนช.เป็นองค์กรที่มีความสำคัญในการวางรากฐานที่มั่นคง ในการปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่ยั่งยืน ซึ่งหมายถึงประชาธิปไตยที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม โดยการดำเนินการของสนช.ที่ผ่านมาเป็นการดำเนินงานตามรัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 ซึ่งที่ผ่านมามีกฎหมายเข้ามาจำนวน 151 ฉบับ ผ่านความเห็นชอบไปแล้วจำนวน 119 ฉบับ นับว่าเป็นผลงานที่น่าพอใจ เพราะกฎหมายที่ออกไปนั้นเพื่อช่วยการบริหารราชการแผ่นดินนอกจากงานด้านกฎ หมายสนช. ยังช่วยสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ให้เข้าใจหน้าที่ของสนช.ด้วย

จากนั้น นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนากยกรัฐมนตรี ปาฐกถาในหัวข้อ “เศรษฐกิจและการเมืองการปกครองของประเทศไทย” ว่า การเข้ามาสู่ตำแหน่งในครั้งนี้ไม่เคยคิดว่าต้องกลับมาอีก ตนคิดด้วยซ้ำว่าจะเลิกการเมืองโดยเด็ดขาด แต่หลายเรื่องพออายุมากขึ้นบางเรื่องต่อให้เดินหนีก็ต้องประสบ เพราะเป็นเรื่องของโชคชะตา ซึ่งมักส่งให้ตนมาทำงานในช่วงที่ยากลำบากไม่เคยสบายแต่ก็ถือว่าเป็นหน้าที่ ในช่วงที่ปลอดการเมืองตนเดินทางบ่อยก็คิดว่าจะทำอย่างไรให้ประเทศไทยทัด เทียมประเทศอื่น ซึ่งตอนที่ตนเป็นที่ปรึกษาคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ตนดูแล้วว่าถ้าวิธีการทำงานยังเป็นแบบนี้อยู่จะเป็นปัญหา จึงแอบสั่งการไว้เพื่อเป็นการเตรียมพร้อม เมื่อเข้ามาทำงานก็สั่งการให้ดำเนินการได้ทันที โดยนำนโยบายที่คิดไว้ล่วงหน้าเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ภายใน 2 สัปดาห์หลังรับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี นอกจากนี้ ตนยังได้กำชับให้ทุกฝ่ายกำกับดูแลเรื่องการใช้จ่ายให้ดี พร้อมทั้งพยายามทำในสิ่งที่ถูกต้องไม่ให้เกิดผลเสีย ซึ่งนโยบายส่วนใหญ่ได้รับมอบหมายจากนายกฯ โดยขอให้ตนข่วยขับเคลื่อนให้เดินต่อ ซึ่งตนพยายามปฏิบัติตามนั้น

นายสมคิด กล่าวว่า การหยิบยกโครงการกองทุนหมู่บ้าน ซึ่งเป็นกลไกที่เกิดขึ้นมาหลายปีแล้วมาเป็นกลไกหนึ่งในการบริหารราชการของ รัฐบาลขณะนี้ เพราะช่วงที่ผ่านมาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ทำให้ชาวนารายได้ไม่พอ ประกอบกับสิ่งที่รัฐบาลให้ไปไม่เพียงพอ เมื่ออำนาจซื้อไม่เพียงพอทำให้เศรษฐกิจโดยรวมขาดพลัง เปรียบเหมือนคนแก่ที่ร่างกายยังดี แต่ชีพจรเต้นไม่แข็งแรง ช่วงแรกไม่เป็น แต่หากปล่อยนานไปชีพจรไม่เลี้ยงร่างกายสุดท้ายทั้งร่างก็จะเกิดปัญหา เหมือนประเทศที่ขณะนี้ธุรกิจระดับบนยังแข็งแรง บริษัทในตลาดหลักทรัพย์ยังดี แต่อำนาจการซื้อของฐานรากอ่อนแอก็จะทำให้ผลประกอบการรายใหญ่ชะลอตัว ลักษณะดังกล่าวหากปล่อยไว้นานจะเกิดปัญหาทางสังคม เศรษฐกิจ อีกทั้งความขัดแย้งจะเกิดขึ้น คนจนจะคิดว่าเราละเลยทำให้ใครมาปลุกปั่นได้ง่ายมาก ซึ่งภาพรวมนี้ รัฐบาลจึงตัดสินใจใช้ 2 กลไก คือ 1.กลไกกองทุนหมู่บ้านให้บริหารจัดการกันเอง และ 2.กลไกตำบลละ 5 ล้านบาท เพื่อเป็นการหว่านเมล็ดให้เกิดโครงการที่ยั่งยืนได้ ซึ่งสิ่งที่ตนบอกนายกฯ คือทำอย่างไรให้โครงสร้างเศรษฐกิจสองขาเท่ากัน คือขาการส่งออก และขาของชนบทที่จะทำอย่างไรให้แข็งแรงสมบูรณ์ เป็นที่มาของการปฏิรูปการเกษตร การท่องเที่ยว และการทำให้บรรยากาศการค้าขายคึกคัก ซึ่งความสามารถของประเทศจะเกิดขึ้นได้ต่อเมื่อเราสร้างความเข้มแข็งภายใน ได้ 

นายสมคิด กล่าวต่อว่า 30 ปีที่ผ่านมาเราเน้นแต่การส่งออก ทั้งที่สิ่งสำคัญสุดคือ เศรษฐกิจภายในประเทศ เมื่อการส่งออกดีก็ปลื้มใจว่า ตัวเลขจีดีพีดีน่าพอใจ แต่จุดมุ่งหมายการพัฒนาประเทศไม่ใช่การมองจีดีพี เพราะจีดีพีเป็นบั้นปลาย เมื่อฉีดเงินเข้าไป จีดีพีก็ดีขึ้นมา แต่สุดท้ายมันก็ตก จึงเป็นที่มาของการปฏิรูป อะไรที่ทำได้ก่อนให้ทำเลย ซึ่งเป็นหน้าที่ของรัฐบาล และคสช. เนื่องจากมีเวลาทำงานอีก 1 ปีครึ่งตามโรดแม็ปใหม่ ทั้งนี้ ประเทศไทยต้องพิจารณา 3 ด้านหลัก คือ 1.ทำอย่างไรให้โครงสร้างเศรษฐกิจ 2 ขาเท่ากัน คือขาการส่งออกกับขาชนบท ซึ่งตนเชื่อว่าทำได้แต่ทำยาก เพราะการบริหารราชแผ่นดินของเรายังล้าสมัย 2.ความสามารถของประเทศ ที่ผ่านมาความสามารถของประเทศเราอยู่ที่การส่งออก แต่วันนี้ขาที่แข็งแรงของการส่งออกเริ่มจะเป็นเก๊า กระดูกเริ่มพรุน เราต้องเสริมเหล็ก ขณะที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ที่มีอยู่เริ่มล้าสมัย ดังนั้น ต้องดูตัวอย่างของเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และอิตาลี ว่าทำอย่างไร รวมทั้งระบบการศึกษาโดยเฉพาะมหาวิทยาลัยที่เน้นผลิตบุคลากรโดยไม่ตอบโจทย์ ความต้องการพื้นฐานทางเศรษฐกิจแต่ละพื้นที่ เช่น มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ที่อยู่ในพื้นที่ที่มีความเข้มแข็งด้านการท่องเที่ยว และการประมง แต่กลับผลิตนักศึกษาให้เหมือนกับส่วนกลาง

นายสมคิด กล่าวว่า 3.ระเบียบวีธีการบริหารราชการแผ่นดินที่ยังล้าสมัย เช่น การจัดสรรงบประมาณที่ยังเป็นแบบรายจ่าย รายรับมีเพียงการจัดเก็บภาษี เรื่องเทคโนโลยีหรือไอซีที ที่ยุคสมัยนี้ เพราะระบบข้อมูลสื่อสาร เป็นเรื่องที่สำคัญ ทำอย่างไรให้ระบบข้อมูลของทุกหน่วยงานสามารถเชื่อมโยงข้อมูลได้ ทั้งเศรษฐกิจ การศึกษาฯ แต่เป็นเรื่องที่น่าเศร้าที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสท.) ทำเรื่องระบบดิจิตอลที่ให้เป็นประโยชน์แต่กลับไปทำแต่เรื่องประมูลเพียง อย่างเดียว ซึ่งนายกฯบอกว่า มีเวลาเพียงปีครึ่งเท่านั้นที่จะเดินตามโรดแมป แต่เวลาปีครึ่งก็ไม่ยาวไม่สั้น ต้องเลือกทำเรื่องใหญ่ๆที่ทำแล้วเกิดการเปลี่ยนแปลง ยืนยันว่า ตนไม่กลับมาการเมืองอีก เพราะอนาคตทางการเมืองไม่มี

“ดังนั้น การปฏิรูปจะทำได้หรือไม่อยู่ที่รัฐบาล แต่หัวใจของการปฏิรูปคือการขับเคลื่อนของประชาชน ถ้ายังไม่สามารถทำให้ประชาชนตื่นตัวได้ก็ยังไม่สามารถปฏิรูปได้และการแก้ ปัญหาคอรัปชั่น ถ้าประชาชนไม่ตื่นตัวก็ไม่สำเร็จ เพราะคนหน้าด้านยังอยู่ ไม่ใช่ฝ่ายข้าราชการที่หน้าด้าน แต่ถ้าภาคเอกชนไม่ให้ เขาก็ไม่รับอยู่แล้ว“ นายสมคิด กล่าว


สมคิด'ลั่นจบภารกิจไม่หวนกลับการเมืองอีก

โดย :

"สมคิด" รองนายกรัฐมนตรี ประกาศเสร็จภารกิจ ไม่หวนกลับการเมืองอีก ระบุปฏิรูปสำเร็จ ต้องดึงภาคประชาชนร่วม

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ กล่าวปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ "เศรษฐกิจและการเมืองการปกครอง" ภายในงานสัมมนาสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ประจำปี 2558 โดยยอมรับว่า การเข้าสู่ตำแหน่งครั้งนี้ เป็นการทำงานด้านเศรษฐกิจที่ค่อนข้างลำบาก แต่เมื่อเข้ามาแล้ว ก็จะทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ไม่ให้เกิดผลเสีย และจะขับเคลื่อนตามนโยบายที่ได้รับมอบจากนายกรัฐมนตรี

พร้อมกันนี้ ยืนยันว่า หลังเสร็จสิ้นภารกิจ จะไม่กลับมาเส้นทางการเมืองอีก ขณะเดียวกัน ชี้แจงถึงกองทุนหมู่บ้าน ว่า เป็นกลไกของรัฐบาล ที่ถูกนำมาเป็นนโยบาย เพราะช่วง 1 ปีที่ผ่านมา สินค้าราคาเกษตรตกต่ำ ทำให้กำลังซื้อจากผู้มีรายได้น้อยไม่เพียงพอ เมื่อเศรษฐกิจฐานรากอ่อนแอ จึงส่งผลเศรษฐกิจโดยรวม ดังนั้น กองทุนหมู่บ้าน จึงใช้ 2 กลไก คือ ให้หมู่บ้านจัดการกันเอง โดยมีการให้ความรู้อย่างใกล้ชิด ส่วนเม็ดเงินในตำบล จะเน้นสร้างโครงการที่เป็นประโยชน์ให้มีความยั่งยืน สำหรับหัวใจการปฏิรูปจะเกิดขึ้นได้ภาคประชาชนต้องมีส่วนร่วม


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : สมคิด เน้นปฏิรูป ศก.ฐานล่าง เข้มแข็งก่อน ขยายส่งออก

view