สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

คิดก่อน...เดินก่อน มองเห็น โอกาส ก่อน

จากประชาชาติธุรกิจ

คอลัมน์ชั้น 5 ประชาชาติ

โดย ณัฏฐ์พิชญ์ วงษ์สง่า montien_dear@yahoo.com

หลังจากสิ้นปีนี้เป็นต้นไป ธุรกิจต่าง ๆ จะคิดแบบเดิม ทำการตลาดแบบเดิม ๆ คงไม่ได้แล้ว เพราะการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือเออีซีในปลายปีนี้ มีผลต่อการวางแผนการตลาดและการลงทุนอย่างมาก

ว่ากันว่า การมองตลาดต่อไปต้องมองฐานประชากรที่ 600 ล้านคนใน 10 ประเทศ บวกกับอัตราการเติบโตเชิงเศรษฐกิจของอาเซียนใน 3-5 ปีข้างหน้าที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว เพราะปัจจัยเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่ท้าทายยิ่งสำหรับนักการตลาดและเจ้าของธุรกิจ

เชื่อว่าประเด็นนี้ธุรกิจทุกภาคส่วนรับรู้มานานแล้ว ส่วนใครจะมีความพร้อมก่อน-หลังนั้น ขึ้นอยู่กับศักยภาพ มุมมอง การปรับตัว

วันก่อนผู้เขียนมีโอกาสได้พูดคุยสนทนากับ "วิเชียร อุดมศาสตร์พร" เจ้าของบริษัท "คิมจูฟู้ด" ผู้บริหารร้านอาหารปิ้งย่างสไตล์เกาหลีแบรนด์ "Kimju" ที่ปัจจุบันเปิดให้บริการในเมืองไทยแล้วราว 30 สาขา และร้านชาบูภายใต้แบรนด์ "บูเดซิเก" อีก 4 แห่งเล่าให้ฟังว่า แม้ภาวะเศรษฐกิจของไทยในปีนี้จะไม่ค่อยดีนัก แต่เขาไม่เคยวิตกเลยเพราะเขามองว่าขณะที่ตลาดมีอุปสรรคก็ยังพอมีโอกาสเช่นกัน



เหตุผลสำคัญที่ทำให้เขาไม่วิตกกับภาวะเศรษฐกิจของไทยมากนักนั้นเป็นเพราะเขาได้เปลี่ยนแนวคิด มุมมองด้วยการหันไปโฟกัสตลาดทั้ง 10 ประเทศในอาเซียน เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับขยายฐานธุรกิจแล้วตั้งแต่เมื่อ 2-3 ปีก่อนหน้านี้แล้ว

หลังจากที่เขาเริ่มโฟกัสตลาดอาเซียน เขาก็ได้ทำการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภค ซึ่งก็พบว่าพฤติกรรมผู้บริโภคของคนในอาเซียนไม่ได้แตกต่างกันเลย ทุกอย่างใกล้เคียงกันหมด ยกตัวอย่างเช่น คนไทยชอบอาหารเกาหลี คนกัมพูชา คนเวียดนาม คนเมียนมา ต่างก็ชอบอาหารเกาหลีเช่นกัน

จากข้อมูลที่ได้ทำให้เขาเดินหน้ารุกตลาดกลุ่มประเทศในอาเซียนด้วยการเดินหน้าการหาพาร์ตเนอร์อย่างจริงจังในหลายประเทศที่มีโอกาส โดยเฉพาะกัมพูชา, ลาว, เวียดนาม และอินโดนีเซีย

กระทั่งล่าสุดเขาได้ฤกษ์เปิดตัวร้านอาหารปิ้งย่างสไตล์เกาหลีแบรนด์ "Kimju" กลางกรุงพนมเปญในปลายเดือนกันยายนนี้

"คุณวิเชียร" เล่าว่า เขาวางโพซิชันนิ่งให้ร้าน Kimju สาขาแรกที่กรุงพนมเปญนี้เป็นสาขาแฟลกชิป หรือร้านต้นแบบสำหรับทำตลาดในกัมพูชา เพราะที่นั่นเป็นสาขาที่เป็นสแตนด์อะโลน ตั้งอยู่บนทำเลที่ถือว่าเป็นดาวน์ทาวน์ เป็นซีบีดีของกรุงพนมเปญ มีความโดดเด่นมาก มีทั้งที่จอดรถและที่นั่งมากถึง 120 ที่นั่ง

"ที่นี่เราขยายธุรกิจในรูปแบบแฟรนไชส์ และแฟรนไชส์ที่ร่วมทำธุรกิจกับเราเขาก็อยู่ในธุรกิจอาหาร มีแบรนด์ของเขาอยู่แล้ว การที่จะทำให้แบรนด์คิมจูประสบความสำเร็จในตลาดกัมพูชาจึงไม่น่าจะยาก"

ที่สำคัญ "พนมเปญ" เป็นตลาดที่มีโอกาสสูงมาก ทั้งกำลังซื้อ พฤติกรรมผู้บริโภคที่กำลังเป็นเทรนด์ใหม่ ซึ่งมองว่าศักยภาพของกรุงพนมเปญน่าจะเปิดได้ราว 5 สาขาในช่วง 2 ปีนับจากนี้

และหลังจากเปิดตัวที่กรุงพนมเปญแล้ว คุณวิเชียรบอกว่าสเต็ปต่อไปเขาจะเดินหน้าศึกษาตลาดและพฤติกรรมผู้บริโภคในอีก 3 ประเทศ คือ เวียดนาม, ลาว และอินโดนีเซีย

โดยคาดว่าตลาดต่อไป คือ อินโดนีเซีย ซึ่งขณะนี้ตั้งเป้าว่าจะเปิดให้ได้ในช่วงไตรมาส 3 ของปี 2559 จากนั้นจะตามด้วยเวียดนามและลาว

เป้าหมายคร่าว ๆ ใน 4 ประเทศแรกนี้ คาดว่าน่าจะขยายได้ 15-20 สาขา ภายในเวลา 3-4 ปีข้างหน้า

"ตอนนี้เราลงทุนอีกราว 50-60 ล้านบาท สำหรับสร้างโรงงานขนาดใหญ่ สำหรับเป็นครัวกลางและฐานผลิตที่สามารถตอบสนองความต้องการของตลาดในภูมิภาคอาเซียนได้"

"คุณวิเชียร" ยังมองด้วยว่า ในอีก 3-4 ปีข้างหน้าหลังจากที่เขาขยายสาขาในตลาดอาเซียนได้สัก 20 สาขา น่าจะทำให้มีรายได้เข้ามาในสัดส่วนใกล้เคียงกับตลาดในประเทศเลยทีเดียว

และเขาเชื่อว่าเมื่อแพลตฟอร์มการลงทุนพร้อม ก็จะช่วยให้ใช้เวลาในการเริ่มต้นน้อยลงด้วย

เขาจึงเชื่อว่า สำหรับตลาดอาเซียนแล้ว คนที่คิดก่อน ทำก่อน ได้เปรียบแน่นอน ไม่ต้องรอให้ถึงเปิดเสรีเป็นทางการ


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : คิดก่อน เดินก่อน มองเห็น โอกาสก่อน

view