สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ส่องมุมมอง มาร์ค-โบโน่ เชื่อมโลกเป็นหนึ่งเดียวด้วย อินเทอร์เน็ต

จาก โพสต์ทูเดย์

โดย...ทศพล แซ่เตีย

ขณะที่ประเทศไทยกำลังกำลังถกเถียงกันเกี่ยวกับเรื่องSingle Gatewayนั้น เมื่อวันที่ 26 ก.ย. ซีอีโอของเฟซบุ๊กอย่าง "มาร์ค ซักเกอร์เบิร์ก" และ "โบโน่" นักร้องนำวง U2 ผู้เข้ามามีบทบาทผลักดันเรื่องการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต ก็ได้ร่วมมือกันเผยแพร่บทความน่าสนใจผ่านทางหนังสือพิมพ์ The New York Times เกียวกับการความมุ่งหวังหลอมรวมมนุษย์ใบนี้บนโลกให้กลายเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างแท้จริงผ่านการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต โดยมีเนื้อหาที่น่าสนใจดังนี้...

70ปีก่อนหน้านี้ สหประชาชนชาติ (ยูเอ็น)ได้ถือกำเนิดขึ้นจากแนวคิดง่ายๆ คือ "หันมาร่วมมือกันแทนการก่อสงคราม มวลมนุษยชาติจะรวมเป็นหนึ่งเดียวเพื่อต่อสู้กับความขัดแย้ง ความยากจน และโรคภัยอันตราย รวมถึงทุกๆเสียงเรียกร้องจากทั่วโลกจะต้องมีผู้ได้ยิน" ซึ่งอย่างน้อย ข้อความข้างต้นก็เป็นแผนหลักในการดำเนินงานของสหประชาชาติ

และแล้วหลังจากที่มนุษยชาติได้ร่วมมือกัน เราก็ประสบความสำเร็จจากการหยุดยั้งการแพร่กระจายของโรคร้ายต่างๆได้ ยืดอายุขัยและเพิ่มรายได้ให้แก่เพื่อนมนุษย์ เราได้ถอยร่นจากความขัดแย้งและภัยต่างๆ ที่เคยประสบ

แต่สิ่งเหล่านี้กลับไม่ได้รับการกระจายไปสู่มนุษย์ทั่วโลก ยังมีมนุษย์จำนวนมหาศาลถูกทิ้งไว้อยู่ด้านนอกความสำเร็จเหล่านี้

หากเราต้องสร้างโลกที่ไม่ใช่เพื่อ "บางคน" แต่เป็น "ทุกคน" ให้สามารถมีชีวิตที่ดีและปลอดภัย ก็ยังมีสิ่งต่างๆอีกมากมายที่ต้องทำซึ่งหนึ่งในนั้นคือ ผลักดันให้ทุกๆคนบนโลกมีตัวตนด้วยการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ภายในปี 2020

ทุกวันนี้ มนุษย์จำนวนเกินกว่าครึ่งบนโลกที่ไม่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ต ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่ดีต่อใครเลย แม้แต่คนอีกกลุ่มหนึ่งซึ่งสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตแล้ว แต่ความเป็นอยู่และความปลอดภัยของพวกเขานั้นก็ยังผูกติดอยู่กับเสถียรภาพของสังคมมนุษย์

ในศตวรรษนี้ การพัฒนาและการเชื่อมต่อบนโลกใบนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกันอย่างใกล้ชิด หากคุณต้องการจะช่วยเหลือผู้คนทั้งด้านการกินอยู่ การพยาบาล การศึกษา และการหาเลี้ยงชีพ คุณต้องเชื่อมต่อไปถึงเขาเสียก่อน ฉะนั้นอินเทอร์เน็ตไม่ควรจำกัดการให้บริการอยู่ที่มนุษย์เพียง 3,000 ล้านรายดังเช่นที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ เราจึงจำเป็นต้องมีเครื่องมือที่สามารถช่วยขยายพื้นที่เข้าถึงบริการอินเทอร์เน็ตให้ใหญ่ขึ้นเท่าที่จะเป็นไปได้

ยกตัวอย่างเช่น เกษตรกรในเอธิโอเปียและแทนซาเนียอาจสามารถใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อต่อรองราคา ติดตามสถานะการส่งสินค้า หรือการชำระค่าประกันภัยสินค้าผ่านทางโทรศัพท์มือถือในกรณีที่สภาพอากาศย่ำแย่

ประชาชนในไนจีเรียอาจสามารถใช้แอพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน เพื่อตรวจสอบว่ารัฐบาลได้ดำเนินการจัดทำนโยบายตามที่สัญญาไว้หรือไม่ ซึ่งสิ่งนี้จะส่งผลดีอย่างมากโดยเฉพาะในสตรี ซึ่งเดิมทีได้รับการเข้าถึงการศึกษาและความปลอดภัยน้อยกว่าเพศชาย

ในกัวเตมาลา สตรีผู้ตั้งครรภ์จะมีสมาร์ทโฟนคอยแจ้งเตือนเรื่องสุขภาพ  ขณะที่ในเคนยา ประชาชนจะได้เข้าถึงบริการทางการเงินโดยอาศัยแค่เพียงโทรศัพท์มือถือเท่านั้น

เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน เราทุกคนคงได้เห็นภาพผู้ลี้ภัยต่างกระจายตัวกันหาที่ซุกหัวนอนตามบริเวณชายแดนทวีปยุโรป สมาร์ทโฟนก็เป็นเครื่องมือหนึ่งที่สามารถใช้ติดต่อสื่อสารกับญาติมิตรเพื่อนสนิทได้ในยามที่ต้องแยกจากไปอยู่ค่ายลี้ภัยอื่น

อินเทอร์เน็ตยังเชื่อมต่อโลกทั้งใบให้ได้เห็นภาพร่างไร้วิญญาณเด็กผู้ลี้ภัยชาวซีเรียบนชายหาดประเทศตุรกี ซึ่งทำให้ทั่วโลกได้ตระหนักถึงความเลวร้ายของสถานการณ์ที่ผู้ลี้ภัยต้องเผชิญ

โซเชียลมีเดียไม่ใช่เป็นเพียงเครื่องมือส่งสารที่เปลี่ยนแปลงทัศนคติของมนุษย์เท่านั้น แต่ยังสามารถส่งผลไปถึงนโยบายสาธารณะด้วย ดังนั้นเราจึงควรเชื่อมโลกเข้าด้วยกัน แต่สิ่งสำคัญคือ "อย่างไร?"

เรื่องนี้ไม่มีวิธีลัด....

ในพื้นที่หลายๆ แห่ง เราจำเป็นต้องเริ่มต้นด้วยการเพิ่มช่องทางการเข้าถึงแหล่งพลังงานไฟฟ้า ดังกรณีในแอฟริกาที่ 9 ใน 10 ของพื้นที่ชนบทยังไม่มีไฟฟ้าใช้ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เราสนับสนุนแผนการริเริ่มแหล่งพลังงานไฟฟ้าในแอฟริกาของประธาธิบดี "บารัค โอบามา" (Power Africa)

เมื่อภาครัฐริเริ่มรากฐาน ภาคเอกชนก็สามารถเข้ามามีส่วนร่วมด้วย "อินเทล" มุ่งทำงานเรื่องสะเต็มศึกษา (STEM) ที่จะบูรณาการ 4 สหวิทยาการได้แก่ วิทยาศาสตร์ วิศวกรรม เทคโนโลยี และคณิตศาสตร์เข้าด้วยกัน "ไมโครซอฟท์" มุ่งทำงานเกี่ยวกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้แก่คนยากไร้ (Millennium Development Goals)

"กูเกิล" มุ่งพัฒนา Project Loon ซึ่งคือการส่งบอลลูนขึ้นไปบนฟ้าเพื่อปล่อยสัญญาณอินเทอร์เน็ตให้แก่พื้นที่ประสบภัยหรือพื้นที่ที่เข้าไม่ถึงโลกออนไลน์ ขณะที่ "เฟซบุ๊ก" ได้มุ่งหาทางมอบช่องทางเข้าถึงอินเทอร์เน็ตให้แก่ผู้คนชายขอบด้วยโครงการ Internet.org

บริษัทเทคโนโลยีและนักธุรกิจจำเป็นต้องหันมารับผิดชอบเรื่องนี้มากขึ้น ซิลลิคอลวอลเลย์ (Silicon Valley) ควรมองให้ไกลและมีปฏิกิริยาต่อประเด็นเรื่องการศึกษา เรื่องสุขอนามัย  และเรื่องวิกฤตผู้ลี้ภัยให้มากขึ้นกว่าเดิม  เรากำลังร้องชวนให้บริษัทในธุรกิจเทคโนโลยีทั้งหลายมีบทบาทเพื่อช่วยเหลือคนกลุ่มชายขอบ ผู้ยังประสบปัญหาความยากไร้และถูกกีดกันจากโลกอินเทอร์เน็ต

ทุกๆเป้าหมายของโลกต้องประสบความสำเร็จ แต่เป้าหมายของการเชื่อมโลกเข้าสู่อินเทอร์เน็ตด้วยกันทั้งหมดนั้นต้องรีบเร่งดำเนินการเพื่อให้ประสบความสำเร็จโดยด่วน เพราะเกมนี้ไม่ใช่เพียงแค่เกมหรือเรื่องเล่นๆอย่างที่เข้าใจ ฉะนั้น "ความเร่งรีบ" จะเป็นเครื่องชี้วัดความเป็นไปของเรื่องนี้


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : ส่องมุมมอง มาร์ค โบโน่ เชื่อมโลกเป็นหนึ่งเดียว อินเทอร์เน็ต

view