สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ส่องศก.ไทย ร่อแร่ หรือ รุ่งเรือง

จาก โพสต์ทูเดย์

โดย...ทีมข่าวโพสต์ทูเดย์

ผวากันทั้งเมืองเมื่อธนาคารโลกประเมินว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้จะขยายตัวได้ 2.5% และเติบโต 2% ในปี 2559 ก่อนจะขยับเป็น 2.4% ในปี 2560 เพราะเศรษฐกิจจีนยังซบเซาและเศรษฐกิจประเทศเกิดใหม่ชะลอตัว ขณะที่ภาคการส่งออกไทยยังติดลบยาวเพราะมีปัญหาเชิงโครงสร้าง ถือเป็นสัญญาณว่าคนไทยทั้งประเทศจะเผชิญกับภาวะถดถอยและภาวะซึมกระทือทางเศรษฐกิจยาวไปอีก 2 ปี บรรดาลูกจ้างที่กินเงินเดือนทั้งหลายเตรียมตัวรับมือกับภาวะรัดเข็มขัดของนายจ้างกันได้ และไม่ต้องไปคาดหวังว่าจะได้รับโบนัสก้อนโตในปลายปีกันอีกแล้ว

ขณะเดียวกัน บรรดานิสิตนักศึกษาที่จบใหม่ปีละ 2-3 แสนคน เตรียมตกงานกันได้ เพราะอัตราการขยายตัวในระดับดังกล่าวไม่สามารถเยียวยากลุ่มคนที่เข้าสู่งานใหม่ได้ แม้นายธนาคารและผู้บริหารกระทรวงการคลังจะออกมายืนยันเพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้จะโตได้ไม่น้อยกว่า 2.8-3% ส่วนปี 2559 คาดจะขยายตัวสูงกว่า 3% เป็นผลจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่จะเริ่มเห็นผล แต่ดูเหมือนว่าคนจะไม่ค่อยเชื่อ

เพราะในความจริงนั้น ผู้คนเห็นว่าการที่ภาคส่งออกที่เป็นหัวรถจักรหลักของระบบเศรษฐกิจได้ติดลบยาวมา 8 เดือนและมีแนวโน้มว่าจะติดลบยาว เป้าหมายของรัฐที่พยายามรักษาการส่งออกปีนี้ให้ติดลบ 3% มูลค่าส่งออกรวม 220,698 ล้านเหรียญสหรัฐนั้น ดูเหมือนจะห่างไกลในความเป็นจริงอยู่มาก เนื่องจากถ้าทำได้ตามเป้าหมายจะต้องส่งออกให้ได้เดือนละ 1.9 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ในอีก 4 เดือนสุดท้าย

แต่ข้อมูลจากสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย ระบุว่า ขณะนี้ยังต้องติดตามถึงตัวเลขการส่งออกในเดือน ก.ย.และ ต.ค. ที่อาจได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะการลดค่าเงินหยวนของจีนที่หากส่งผลรุนแรง อาจทำให้การส่งออกไทยทั้งปีมีโอกาสติดลบมากกว่า 5.5%

นพพร เทพสิทธา ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือฯ ระบุว่า มีสัญญาณที่น่ากลัวว่าออร์เดอร์การส่งออกในช่วงปลายปีไม่ดีอย่างที่คิด มีความกังวลถึงสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่อาจชะลอต่อเนื่องไปยังปีหน้า รวมถึงปัญหาการเงินโลกที่เข้มข้นจากการลดค่าเงิน จะส่งผลต่อกำลังซื้อทั่วโลกหยุดนิ่ง เลวร้ายที่สุดหากเกิดภาวะฟองสบู่โลกแตก จะทำให้เศรษฐกิจทั่วโลกทรุดหนักกว่าในขณะนี้

ดังนั้น จากนี้ไปผู้ประกอบการยังต้องติดตามถึงปัจจัยเศรษฐกิจโลกอย่างใกล้ชิดและขอแนะนำให้ชะลอการลงทุนขยายกำลังการผลิตสินค้า เนื่องจากเป็นช่วงระยะเวลาที่ต้องรักษาเงินสดให้มากที่สุด

สถานการณ์เช่นนี้ถือว่าเลวร้ายที่สุดต่อระบบเศรษฐกิจไทย เพราะการส่งออกที่ทำมาหาได้เข้าประเทศและสร้างกำลังซื้อสินค้าก่อให้เกิดการจ้างงานในระบบเศรษฐกิจถึง 70% ของจีดีพี ที่ตกอยู่ในภาวะเช่นนี้ไทยจะมีอะไรมาเป็นเครื่องมือในการพยุงเศรษฐกิจ

ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินว่า มาตรการเร่งกระตุ้นการเบิกจ่ายลงทุนของโครงการขนาดเล็กของภาครัฐ รวมถึงมาตรการภัยแล้งนั้น คาดว่าจะทยอยเกิดขึ้นหลังปลายปี ขณะที่ผลการเบิกจ่ายงบลงทุนภาครัฐของงบประมาณปี 2558 ยังคงน่าผิดหวัง มีการเบิกจ่ายงบลงทุนจริงได้เพียง 65% ของงบประมาณลงทุน โดยการลงทุนของรัฐในปีนี้แม้ว่าจะขยายตัว แต่ยังไม่กระชากเศรษฐกิจ

สิ่งที่จะกระตุ้นได้คือการประมูลงานรัฐในปี 2559 ได้แก่ โครงการรถไฟทางคู่ 3 สาย และโครงการมอเตอร์เวย์ พัทยา-มาบตาพุด ซึ่งอยู่ในระหว่างรอการประมูลก็น่าจะทำให้ดีขึ้น ผลของการลงทุนภาครัฐที่น้อยกว่าที่คาด ทำให้การลงทุนภาคเอกชนลดลง 3 ไตรมาส ด้านการนำเข้าเครื่องจักรที่เป็นตัวสะท้อนการเพิ่มกำลังการผลิตเริ่มเห็นสัญญาณดีขึ้นจากการเติบโตได้ 0.6% จะเห็นได้ว่าเครื่องยนต์ 3 ตัวหลักดับสนิท ฮีโร่ของไทยในขณะนี้จึงมีเพียงการท่องเที่ยวและภาคบริการเท่านั้นที่รุ่งเรือง 

สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี บอกว่า นี่คือตัวที่จะฉุดให้เศรษฐกิจไทยก้าวขึ้นมายืนอยู่ได้แทนที่ภาคการเกษตรที่ซบเซาและส่งออกที่ทรุดตัว แม้ว่าอาจจะไม่สามารถทดแทนได้

ทั้งนี้ ไทยต้องวางแผนด้านการพัฒนาการท่องเที่ยวให้เป็นตัวกระจายรายได้ออกไปให้เป็นลูกโซ่ เพื่อสร้างงานในท้องถิ่น ดูตัวอย่างจากอังกฤษที่มีการส่งออกติดลบ 10 ปี แต่มีนักท่องเที่ยวเข้าไปที่อังกฤษมาชดเชย โดยอังกฤษมีนักท่องเที่ยวเข้าประเทศปีละ 35 ล้านคน ฝรั่งเศสปีละ 80 ล้านคน ส่วนไทยนั้นกำลังทะยานขึ้นเป็น 30 ล้านคน จำนวนนักท่องเที่ยวไทยเริ่มใกล้กับอังกฤษ

สมคิด บอกว่า ถ้าพิจารณาการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวในไทยสูงกว่าอังกฤษเข้าไปแล้ว ครึ่งปีประมาณ 1.4-1.5 ล้านล้านบาท  ส่วนอังกฤษก็ตกประมาณ 1.5 ล้านล้านบาท ถ้าทั้งปีไทยมีรายได้จากการท่องเที่ยวประมาณ 2.2 ล้านล้านบาท ก็มากกว่าอังกฤษ

ดังนั้น ถ้าผลักดันการท่องเที่ยวในปีนี้ให้เติบโตขึ้นมากกว่าปีก่อน 20% และถ้าทำ 3 ปีต่อเนื่อง ทำให้ได้รวมถึง 50 ล้านคน ก็จะผลักดันให้รายได้จากการท่องเที่ยวและภาคบริการของไทยขยายขึ้นมาคิดเป็น 15-20% ของจีดีพี แสดงว่าเป็นอุตสาหกรรมใหญ่มากที่จะทำให้อุตสาหกรรมอื่นดีขึ้น นี่คือตัวฉุดที่เป็นความหวังว่าจะลากเศรษฐกิจไทยให้รุ่งเรือง


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : ส่องศก.ไทย ร่อแร่ รุ่งเรือง

view