จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์

ป.ป.ช.เตรียมสรุปสำนวนแจ้งข้อกล่าวหาร่ำ รวยผิดปกติต่อ “ธาริต เพ็งดิษฐ์-ภรรยา” หลังอายัดทรัพย์ 40.9 ล้าน พร้อมขยายเวลาให้ชี้แจง เหตุพบมีพฤติการณ์น่าเชื่อว่าจะมีการโอน ยักย้าย แปรสภาพ หรือซุกซ่อนทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการร่ำรวยผิดปกติ คาดแจ้งข้อกล่าวหาได้ต้น พ.ย.นี้ ขณะที่อดีตอธิบดีดีเอสไอฟ้องแพ่ง ป.ป.ช.100 ล้าน-ฟ้องอนุไต่สวน แต่ศาลชั้นต้นยกฟ้อง ระบุเข้าสู่กระบวนการอุทธรณ์แล้ว
       
       วันนี้ (18 ต.ค.) นายปรีชา เลิศกมลมาศ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการไต่สวนกรณีกล่าวหานายธาริต เพ็งดิษฐ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ร่ำรวยผิดปกติว่า ภายหลังคณะอนุกรรมการไต่สวนได้อายัดทรัพย์สินของนายธาริตไปเมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา มูลค่าประมาณ 40.9 ล้านบาท ซึ่งนายธาริตได้ขอต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมโดยมีการฟ้องคณะอนุกรรมการไต่สวน ต่อศาลอาญา แต่ศาลชั้นต้นได้ยกคำร้องไปแล้ว และศาลอุทธรณ์เตรียมจะพิจารณาอยู่ นอกจากนี้ยังมีการฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหายต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.100 ล้านบาทด้วย อย่างไรก็ตาม คาดว่าในต้นเดือน พ.ย.นี้จะสรุปสำนวนคดีนี้ให้เสร็จสิ้น และดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป
       
       รายงานว่า สำหรับนายปรีชา เลิศกมลมาศ กรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานอนุกรรมการไต่สวน ตามคำสั่งที่ 631/2557 ลงวันที่ 30 ตุลาคม 2557 แต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนกรณีมีเหตุอันควรสงสัยว่านายธาริต เพ็งดิษฐ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ร่ำรวยผิดปกติ
       
       คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้ตรวจพบว่า นายธาริต เพ็งดิษฐ์ มีพฤติการณ์น่าเชื่อว่าจะมีการโอน ยักย้าย แปรสภาพ หรือซุกซ่อนทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการร่ำรวยผิดปกติ จึงได้มีคำสั่งให้อายัดทรัพย์สินของ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ และนางวรรษมล เพ็งดิษฐ์ ไว้เป็นการชั่วคราวตามมาตรา 78 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 ได้แก่ เงินฝาก ที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง และยานพาหนะ รวมมูลค่า 40,954,720.58 บาท ดังต่อไปนี้
       
       1. รายการทรัพย์สินของ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ มูลค่ารวม 1,706,441.63 บาท ดังนี้
       
       1.1 เงินฝากในบัญชีเงินฝากธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) จำนวน 1 บัญชี
       
       1.2 เงินฝากในบัญชีเงินฝากธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) จำนวน 4 บัญชี
       
       1.3 เงินฝากในบัญชีเงินฝากธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน) จำนวน 1 บัญชี
       
       1.4 ที่ดินในอำเภอมโนรมย์ จังหวัดชัยนาท จำนวน 1 แปลง เนื้อที่ 2 ไร่ 38 ตารางวา
       
       1.5 ทรัพย์สินในตู้นิรภัยของธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน) สาขาสำนักธุรกิจรัชดาภิเษก ตู้นิรภัยเลขที่ 047 ตามสัญญาเช่าตู้นิรภัยลงวันที่ 20 ธันวาคม 2555
       
       2. รายการทรัพย์สินของ นางวรรษมล เพ็งดิษฐ์ มูลค่ารวม 39,248,278.95 บาท ดังนี้
       
       2.1 เงินฝากในบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) จำนวน 1 บัญชี
       
       2.2 เงินฝากในบัญชีเงินฝากธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) จำนวน 1 บัญชี
       
       2.3 เงินฝากในบัญชีเงินฝากธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) จำนวน 4 บัญชี
       
       2.4 เงินฝากในบัญชีเงินฝากธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) จำนวน 1 บัญชี
       
       2.5 ที่ดินอำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี จำนวน 1 แปลง เนื้อที่ 3 งาน 84 ตารางวา
       
       2.6 ที่ดินอำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา จำนวน 3 แปลง เนื้อที่ 4 ไร่ 50 ตารางวา
       
       2.7 บ้านเลขที่ 414 ตำบลหลักหก อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี จำนวน 1 หลัง
       
       2.7 บ้านคอนกรีตเสริมเหล็ก 2 ชั้น เลขที่ 444 และสิ่งปลูกสร้างไม่มีเลขที่ จำนวน 5 หลัง หมู่ที่ 11 ตำบลหนองน้ำแดง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา
       
       2.9 รถยนต์ยี่ห้อ MERCEDES BENZ รุ่น E 250 เลขทะเบียน ญฉ 414 กรุงเทพมหานคร
       
       2.10 รถยนต์ยี่ห้อ TOYOTA รุ่น ALPHARD เลขทะเบียน ฆฐ 515 กรุงเทพมหานคร
       
       โดยนายธาริตได้เข้าแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของตนเอง คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติ ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 79 แล้ว และขอขยายเวลา 30 วันมาแล้วโดยสิ้นสุดเมื่อวันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา
       ขณะที่นายธาริตได้ส่งเอกสารชี้แจงที่มาของทรัพย์สินที่ ป.ป.ช. มีคำสั่งให้อายัดมายังคณะอนุกรรมการไต่สวนฯ แล้ว และอนุกรรมการฯ ได้มีการตรวจสอบเอกสารชี้แจงว่าตรงกับประเด็นที่ ป.ป.ช. ตั้งข้อสงสัยหรือไม่ ทั้งในส่วนทรัพย์สิน เงินฝาก บ้าน ที่ดิน รถยนต์ รวมทั้งทรัพย์สินในตู้นิรภัย ว่ามีข้อมูลอ้างอิงที่มาของทรัพย์สิน หรือมีพยานยืนยันหรือไม่
       
       นอกจากกรณีร่ำรวยผิดปกติแล้ว ป.ป.ช.ได้สอบสวนนายธาริต กรณีบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติเขาเสียดอ้า ป่าเขานกยูง และป่าเขาอ่างหิน อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมาด้วย
       
       มีรายงานว่า เมื่อเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา นายธาริตได้ยื่นเรื่องต่อศาลแพ่งฟ้องกรรมการ ป.ป.ช. และเลขาธิการ ป.ป.ช.รวม 10 คน โดยเรียกค่าเสียหาย 100 ล้านบาท ฐานออกคำสั่งอายัดทรัพย์โดยมิชอบ ซึ่งศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกฟ้องไปแล้ว แต่นายธาริตยื่นอุทธรณ์สู้คดีต่อ ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช.มอบให้นายวิชัย วิวิตเสวี กรรมการ ป.ป.ช. และฝ่ายสำนักคดีของ ป.ป.ช.ดำเนินการส่งหนังสือไปยังศาลแพ่งเมื่อวันที่ 7 ส.ค. เพื่อแก้อุทธรณ์คดีดังกล่าว โดยยืนยันถึงเหตุผลการอายัดทรัพย์ของนายธาริตว่า เนื่องจากมีเหตุอันควรสงสัยว่านายธาริตเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งอธิบดีดีเอสไอ มีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ และน่าเชื่อว่าจะมีการโอนยักย้าย แปรสภาพ หรือซุกซ่อนทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการร่ำรวยผิดปกติ จึงมีคำสั่งอายัดทรัพย์สินนายธาริต และนางวรรษมล เพ็งดิษฐ์ ภรรยา ไว้ชั่วคราว ได้แก่ เงินฝาก ที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง และยานพาหนะ มูลค่า 40.9 ล้านบาท โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 78 พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542
       
       ส่วนกรณีกล่าวหาทางอาญานายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงคมนาคม กรณีถูกกล่าวหาว่าร่ำรวยผิดปกติเนื่องจากกระทำผิด หรือทุจริตต่อตำแหน่งหน้าที่ หรือเป็นเจ้าพนักงานเรียกรับทรัพย์สินจากผู้อื่นเพื่อประโยชน์ของตนเองหรือ ผู้อื่นหรือไม่นั้น นายปรีชากล่าวว่า ใกล้เสร็จแล้ว ตอนนี้คืบหน้าไปประมาณ 90% คาดว่าจะสามารถแจ้งข้อกล่าวหาได้ในเร็วๆ นี้ มีรายงานว่า คดีนี้ ป.ป.ช.รับดำเนินการตั้งแต่ปี 2554 และในปี 2555 คณะกรรมการ ป.ป.ช.เห็นว่านายสุพจน์ร่ำรวยผิดปกติ โดยมีทรัพย์สินมากผิดปกติเป็นเงินจำนวน 17,555,000 บาท และทองคำรูปพรรณน้ำหนัก 10 บาท ที่คนร้ายนำเงินจากการปล้นทรัพย์ไปซื้อ และเงินส่วนหนึ่งไม่ได้แจ้งไว้ในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินหนี้สินที่ยื่นต่อ ป.ป.ช.ได้มีการดำเนินการทางแพ่ง โดยการยึดทรัพย์ให้ตกเป็นของแผ่นดิน มูลค่า 46 ล้านบาท สำหรับการดำเนินการทางอาญาทางอาญายังคงอยู่ระหว่างการไต่สวน

สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน