สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

เร่งขาย-โอนบ้าน ระวังได้ไม่คุ้มเสีย

จาก โพสต์ทูเดย์

โดย...ทีมข่าวธุรกิจตลาด

เร่งขาย-โอนบ้าน ระวังได้ไม่คุ้มเสีย

มาตรการกระตุ้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เริ่มออกฤทธิ์ให้ตลาดกลับมาคึกคักได้ในระดับหนึ่ง ยิ่งเข้าใกล้สิ้นปีซึ่งเป็นช่วงเวลาที่บริษัทใหญ่น้อยจะต้องเร่ปิดยอดให้ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ หลังจาก 10 เดือนที่ผ่านมายอดขายยังไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง ก็ยิ่งทำให้ต้องเร่งเครื่อง โดยอาศัยจังหวะที่มีมาตรการช่วยปลุกกระแส โหมแคมเปญตลาดซ้ำอีกแรง เพื่อชิงยอดขายในช่วงโค้งสุดท้ายของปี

ขณะที่ผู้ประกอบการก็เชื่อมั่นว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและอสังหาฯ ที่รัฐออกมาจะช่วยปลุกความเชื่อมั่นในตลาดให้ดีขึ้น และพร้อมที่จะเดินหน้าลงทุนเปิดโครงการใหม่รองรับกับมาตรการที่จะมีผลไปถึงสิ้นเดือน เม.ย.สำหรับการลดค่าโอนและค่าจดจำนอง และถึงสิ้นปี 2559 สำหรับการนำเงินจากการซื้อบ้านมาหักลดหย่อนภาษี

โครงการที่อยู่อาศัยแนวราบทั้งบ้านเดี่ยว-ทาวน์เฮาส์ จึงกลายเป็นโครงการที่ถูกโฉลกกับมาตรการมากที่สุด เพราะสามารถก่อสร้างได้เร็วกว่าที่อยู่อาศัยแนวสูงอย่างคอนโดมิเนียม ทำให้ยังมีลุ้นที่จะใช้มาตรการได้แบบฟูลออปชั่น และแม้ว่าจะสร้างไม่ทันใช้มาตรการลดค่าโอนและจดจำนองที่จะหมดอายุก่อนในสิ้นเดือน เม.ย. 2559 แต่ก็ยังสามารถใช้มาตรการลดหย่อนภาษีไปถึงสิ้นปี โดยผู้ประกอบการอาจจะใช้วิธีออกค่าโอน ค่าจด
จำนองให้ผู้ซื้อ ซึ่งเป็นแคมเปญที่นิยมใช้กันก่อนหน้าอยู่แล้ว

ประกอบกับตัวเลขยอดขายหลังการใช้มาตรการบ่งบอกว่าความต้องการซื้อบ้านแนวราบมีอัตราสูงขึ้นอย่างชัดเจน โดย เมธา อังวัฒนพานิช รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาโครงการแนวราบ บริษัท แสนสิริ ระบุว่า การเร่งลงทุนพัฒนาโครงการพื้นฐานของภาครัฐ และมาตรการอสังหาริมทรัพย์ช่วยกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคมากขึ้น จึงทำให้อุปสงค์บ้านแนวราบโดยรวมเพิ่มขึ้น 38% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ตัวเลขจากกรมที่ดินระบุว่า ในช่วงเริ่มต้นการใช้มาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนอง มีผู้คนที่มาขอจดทะเบียนเพิ่มขึ้นวันละ 20% และเมื่อเทียบกับปีที่แล้วแบบวันต่อวันเพิ่มขึ้น 40%

ด้วยเหตุผลดังกล่าวจึงเห็นผู้ประกอบการหลายรายเข็นโครงการแนวราบออกสู่ตลาด เพื่อหวังให้มาตรการช่วยดันยอดขายให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ในช่วงเวลาที่จำกัด อาทิ บริษัท ศุภาลัย ที่มีแผนจะเปิดโครงการแนวราบอีก 3-4 โครงการ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) บริษัท แสนสิริ เตรียมเปิดโครงการใหม่เพิ่มอีกบริษัทละ 2 โครงการ ซึ่งแม้ว่าโครงการแนวราบที่เปิดใหม่ส่วนใหญ่จะเป็นการเปิดตัวตามแผนเดิม แต่ก็คงจะปรับกระบวนการก่อสร้างให้กระชับรวดเร็วยิ่งขึ้น

ขณะที่บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค มีการเร่งก่อสร้างทุกโครงการแนวราบที่มีขายอยู่ในปัจจุบันแล้ว เพื่อให้มีสต๊อกพร้อมขายพร้อมโอนให้ทันภายในปลายเดือน เม.ย. 2559 ส่วนคอนโดมิเนียมจะไม่ได้เร่งมาก เพราะมีโครงการพร้อมโอนทันมาตรการหลายโครงการอยู่แล้ว ซึ่งคาดว่าภาพรวมสต๊อกทั้งบ้านและคอนโดมิเนียมทันมาตรการอสังหาฯ จะมีประมาณ 1 หมื่นล้านบาท โดยจะยังคงเข้มเรื่องควบคุมคุณภาพ เพราะปัจจุบันกระบวนการก่อสร้างทุกโครงการแนวราบได้เข้าระบบมาตรฐาน ISO 14001 แล้ว ตรวจสอบคุณภาพด้วยหน่วยงานกลาง

อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่น่ากังวลหลังจากการเพิ่มสปีดความเร็วในการก่อสร้าง เพื่อให้บ้านเสร็จทันกับมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ คือ คุณภาพของบ้านที่จะส่งมอบให้กับลูกค้าจะเป็นเช่นไร เพราะที่ผ่านมาคุณภาพการก่อสร้างบ้านในช่วงเวลาปกติก็ยังเป็นปัญหาเกิดขึ้นอยู่เป็นระยะ ยิ่งถ้าดูตัวเลขปริมาณบ้านสร้างเสร็จเหลือขายที่มีอยู่น้อยนิดด้วยแล้ว เป็นไปได้ที่ผู้ประกอบการจะต้องไปเร่งสต๊อกบ้านที่อยู่ระหว่างก่อสร้างออกสู่ตลาดให้ได้เร็วและมากที่สุด ก็ต้องยิ่งน่ากังวลเรื่องคุณภาพบ้านมากยิ่งขึ้น

สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ นายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) ให้ความเห็นว่า การที่มีมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ แล้วอาจทำให้ผู้ประกอบการเร่งงานก่อสร้างขึ้นนั้น อย่ามองว่าเร่งหรือไม่เร่ง เพราะไม่ว่าจะเร่งก่อสร้างหรือสร้างตามเวลาปกติก็ควรให้ความสำคัญกับเรื่องคุณภาพ

“การเร่งสร้างให้ทันมาตรการ แม้จะเป็นประโยชน์กับผู้ประกอบการ ทั้งประหยัดดอกเบี้ย จะเร่งแค่ไหนไม่เป็นไร แต่ผู้ประกอบการก็ต้องพิจารณาเรื่องคุณภาพก่อสร้างด้วย เพราะเวลานี้กฎหมายคุ้มครองเข้มแข็งมากขึ้น ถ้าไม่เข้มเรื่องคุณภาพก็จะมีปัญหาในภายหลังได้” สุชัชวีร์ กล่าว

ผู้บริโภคจึงควรซื้อบ้านในช่วงการใช้มาตรการกระตุ้นอสังหาฯ อย่างระมัดระวัง เพราะอาจจะได้ประโยชน์จากมาตรการไม่คุ้มกับเงินที่จะต้องเสียไปกับการซ่อมบ้าน 


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : เร่งขาย โอนบ้าน ระวังได้ไม่คุ้มเสีย

view