สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

มีชัย แก้โจทย์ที่มานายกฯ เลิกคลุมถุงชนเลือกผู้นำจาก ส.ส.

จากประชาชาติธุรกิจ

การออกแบบรัฐธรรมนูญในฝ่ายบริหาร โดยเฉพาะปมที่มานายกรัฐมนตรี เป็นอีกหนึ่งปมที่ร้อนแรงทุกครั้งที่มีการร่างรัฐธรรมนูญ

ตั้งแต่การร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดย 36 อรหันต์คณะกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ ที่มีบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เป็นประธาน ได้เกิดการถกเถียงถึงสูตรที่มานายกฯอย่างเผ็ดร้อน ระหว่างคณะกรรมาธิการปฏิรูปการเมืองของสมบัติ ที่เสนอให้เลือกนายกฯโดยตรง แต่ถูกปฏิเสธโดยบวรศักดิ์

กระทั่ง กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ เคาะสูตรที่มานายกฯลงตัว โดยเปิดช่องให้นายกฯไม่ต้องมาจาก ส.ส. จนถูกวิจารณ์ทั่วสารทิศว่าทำรัฐธรรมนูญย้อนหลังไปไกล และยกบทเรียนความเจ็บปวดจากเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ที่มีชนวนเหตุจากเอา "พล.อ.สุจินดา คราประยูร" ซึ่งไม่ได้เป็น ส.ส.มาเป็นนายกฯ จนเกิดการประท้วงและนองเลือด ผลของเหตุการณ์นั้นทำให้รัฐธรรมนูญปี40 และ 50 ได้กำหนดให้นายกฯต้องมาจาก ส.ส.

แต่เมื่อ คสช.เลือก "มีชัย ฤชุพันธุ์" นั่งเก้าอี้ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) นำขบวนร่างรัฐธรรมนูญใหม่อีกคำรบ กลับถูกโต้แย้งว่า "มีชัย" เคยเขียนรัฐธรรมนูญที่เปิดช่องให้นายกฯไม่ต้องมาจาก ส.ส. และเป็นชนวนเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ แต่เขาก็โต้แย้งว่ารัฐธรรมนูญที่เขาและคณะร่างขึ้นยังไม่มีผลบังคับใช้ ภายหลังเหตุการณ์นองเลือดสงบลง "อานันท์ ปันยารชุน" ที่ไม่ได้เป็น ส.ส. ได้กลับมานั่งนายกฯอีกรอบหนึ่ง




และบัดนี้ กรธ.ของมีชัย ได้ชงสูตรที่มานายกฯแบบใหม่ โดยให้พรรคการเมืองที่ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้ง ให้ทำรายชื่อบุคคลที่จะมาเป็นนายกฯ 1-5 คนแนบมาด้วย เพื่อให้ประชาชนผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งได้เห็นหน้าค่าตาว่าเมื่อเลือกพรรคนี้แล้วจะได้ใครเป็นนายกฯ

"อภิชาต สุขัคคานนท์" กรธ.ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการศึกษากระบวนการฝ่ายบริหาร หัวหน้าทีมคิดค้นสูตรที่มานายกฯใหม่บอกว่า สูตรนี้เป็นสูตรแบบของไทย เราไม่ได้เอาตัวแบบมาจากไหน เป็นนวัตกรรมใหม่ที่ทำให้ประชาชนมีส่วนร่วมตั้งแต่เลือกนายกฯ

ขณะที่ "มีชัย" กล่าวว่า ข้อดีของสูตรที่มานายกฯแบบนี้คือ "คนที่จะมาเป็นนายกฯ ถูกผ่านการเห็นชอบจากประชาชนทางอ้อมแล้ว เพราะรัฐธรรมนูญกำหนดว่าเวลาเลือกตั้งทั่วไป พรรคจะต้องเสนอรายชื่อ 5 คน จดทะเบียนไว้ที่ กกต.แล้วเอาไปโฆษณาได้ คนจะรู้ทั่วไปว่าเลือกพรรคนี้ถ้าเขาได้เป็นรัฐบาล เขาจะเสนอใครเป็นนายกฯ ถ้าเราบอกให้เขาเสนอได้มากกว่า 1 ชื่อ คนก็มีโอกาสได้มากขึ้น เพราะ ณ วันเลือกตั้งหมายเลข 1 เป็นแน่ พอวันเลือกตั้งเสร็จหมายเลข 1 ง่อยเปลี้ยเสียขาก็ไม่รู้จะทำอย่างไร แต่ถ้าให้เขาส่งชื่อได้มากกว่า 1 ชื่อ ตัวเลือกนั้นก็ยังอยู่ในกรอบที่ประชาชนได้เห็นมาก่อนแล้ว"

"ไม่เปิดโอกาสให้พรรคเลือกใครต่อใครเป็นนายกฯตามอำเภอใจได้โดยประชาชนไม่รู้เห็นมาก่อนเพราะจะจำกัดในชื่อนั้น อีกทั้งเวลาคนไปลงคะแนนจะมีความหมายเพราะลงได้หลายอย่างในบัตรใบเดียว สุดท้ายพรรคจะได้รับการมองจากประชาชนที่เข้มงวดขึ้น เพราะพรรคต้องคิดอ่านล่วงหน้าว่า เมื่อตัวชนะแล้วเอาใครมาเป็นนายกฯ"

ส่วนปมนายกฯคนนอกที่สังคมกังวล "มีชัย" ตอบว่า "ปัญหาคือแล้วคนที่จะมีชื่อ 1 ใน 5 ใน 3 ต้องเป็น ส.ส.หรือไม่ คำตอบคือ ณ วันที่เสนอชื่อไม่มีใครเป็น ส.ส. เพราะยังไม่มีการเลือก คำถามต่อไปคือจะต้องมีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อหรือเป็นผู้สมัครเลือกตั้งหรือไม่ ผมคิดว่าไม่น่าจำเป็นไปบังคับ เพราะประชาชนก็เห็น"

"แต่ถ้าจะไปเอาเถ้าแก่ที่ไหนมาโดยไม่ได้เป็นผู้สมัคร แต่ประชาชนบอกว่าโอ้โห...เจ๋งเลย ก็ไม่เห็นเป็นไร เพราะประชาชนเป็นคนตัดสินใจ ถ้าใช้วิธีนี้แล้วคิดรายละเอียดปลีกย่อยให้ดี ก็จะทำให้บ้านเมืองก้าวหน้าไปอีกขั้นหนึ่ง มากกว่าจะมัวนั่งเถียงกันว่านายกฯ ต้องเป็น ส.ส.หรือไม่เป็น ส.ส. แล้วมันก็ไม่ไปไหนเสียที เถียงกันไปจนตายก็ไม่หยุด"

"เราไม่ตั้งใจให้นายกฯมาจากคนนอก เราตั้งใจให้พรรคการเมืองเสนอตัวคนให้ประชาชนได้เห็นก่อนไปสู่การเลือกตั้ง แล้วจะไม่มีใครเป็นม้ามืด เป็นอ้ายโม่งอย่างที่ว่า ทุกอย่างเปิดกันแบบแฟร์ ๆ"

"ลำพังหากให้นายกฯต้องเป็น ส.ส.เท่านั้นมันคลุมถุงชนมากไป เพราะ ส.ส.มีตั้ง 500 คน" มีชัยกล่าว


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : มีชัย แก้โจทย์ ที่มานายกฯ เลิกคลุมถุงชน เลือกผู้นำจาก ส.ส.

view