จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
ดีเอสไอเร่งคดีฟอกเงินสหกรณ์คลองจั่น พรุ่งนี้เรียกทายาทแลนด์แอนด์เฮาส์ให้ปากคำ
น.ส.รื่นวดี สุวรรณมงคล อธิบดีกรมบังคับคดี กล่าวถึงกระบวนการฟื้นฟูกิจการสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด ตามคำพิพากษาของศาลล้มละลายว่า ขณะนี้กรมบังคับคดีได้รับคำร้องของเจ้าหนี้ตามที่ส่งร่างแผนฟื้นฟูกิจการให้ ศึกษาแล้ว โดยมีเจ้าหนี้ตอบรับจำนวน 18,869 ราย คิดเป็นมูลหนี้กว่า 23,000 ล้านบาท ขั้นตอนต่อไปคือการนัดประชุมเจ้าหนี้เพื่อให้ความเห็นชอบโดยกำหนดวันนัด ประชุมเจ้าหนี้แล้วในวันที่ 21 ธ.ค.นี้ ที่อาคารยู ทาวเวอร์ โดยวันดังกล่าวเจ้าหนี้ต้องมาแสดงตน และให้ความเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบกับแผนฟื้นฟูดังกล่าว โดยมติจะยึดหลักสำคัญ 2 ส่วน คือมติเกินครึ่งหนึ่งของเจ้าหนี้ที่เข้าร่วมประชุม และมติพิเศษจากที่ประชุมกลุ่มเจ้าหนี้หนึ่งกลุ่ม อย่างไรก็ตาม ในวันดังกล่าวถือเป็นโอกาสของเจ้าหนี้ที่ควรเข้าร่วมประชุมเพื่อประโยชน์ของ ตัวเอง อย่างไรก็ตามระหว่างนี้จนถึงวันที่ 18 ธ.ค. เจ้าหนี้สามารถยื่นคัดค้านหรือขอแก้ไขโครงสร้างการจัดกลุ่มได้
ด้านพ.ต.ท.สมบูรณ์ สาระสิทธิ์ ผบ.สำนักคดีอาญาพิเศษ 3 กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบสวนคดีฟอกเงินของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด ว่า หลังสอบสวนและสั่งฟ้องดำเนินคดีอาญาครบทุกคดีแล้ว ขณะนี้ดีเอสไออยู่ระหว่างเร่งสอบสวนเพื่อสรุปสำนวนคดีฟอกเงินที่เกี่ยวข้อง อีก 3 คดี ประกอบด้วย กรณีนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์ฯ ยักยอกเงินสหกรณ์จำนวน 321 ล้านบาท ไปซื้อหุ้นบริษัท เอ็ม โฮม เอสพีวี 2 พร้อมที่ดินกว่า 300 ไร่ ใกล้วัดพระธรรมกาย โดยปัจจุบันมีการโอนหุ้นให้กับบุคคลอื่นถือแทน กรณีถ่ายโอนทรัพย์สินของนายศุภชัยไปให้กับนายสถาพร วัฒนาศิรินุกุล ผู้บริหารบริษัท เอส ดับบลิว โฮลดิ้งฯ และการโอนขายที่ดินย่านอ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ให้กับน.ส.อลิสา อัศวโภคิน ทายาทบริษัท แลนด์ แอนด์เฮาส์ เบื้องต้นจะสรุปสำนวนคดีฟอกเงินในส่วนของนายสถาพรและน.ส.อลิสา ให้แล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้ เนื่องจากมีการสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องไปพอสมควรแล้ว โดยในวันพรุ่งนี้( 18 พ.ย.) พนักงานสอบสวนนัดสอบปากคำน.ส.อลิสา ที่มีชื่อเป็นผู้ครอบครองที่ดินที่ซื้อต่อจากนายศุภชัยเป็นเงินเกือบ 300 ล้านบาท โดยเป็นที่ดินที่นายศุภชัยนำมาขายต่อหลังถูกฟ้องร้องดำเนินคดี จึงต้องตรวจสอบว่าพฤติการณ์ดังกล่าวเข้าข่ายเป็นการโอนเพื่อปกปิดทรัพย์สิน หรือเป็นการรับซื้อโดยสุจริตหรือไม่
ผบ.สำนักคดีอาญาพิเศษ 3 กล่าวต่อว่า สำหรับกรณีของเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องเช่น เจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมสหกรณ์ในฐานะนายทะเบียน ในชั้นสอบสวนพบว่า ไม่ดำเนินการตรวจสอบสหกรณ์ให้เป็นไปตามพ.ร.บ.สหกรณ์ ทั้งที่เคยได้รับการแจ้งเตือนความผิดปกติในการบริหารงานต่อเนื่อง กระทั่งมีการฟ้องร้องให้ดำเนินคดีกับนายศุภชัยในปี 2556 ขณะที่สหกรณ์เกิดปัญหาขาดทุนสะสมตั้งแต่ปี 2552 ภายในสัปดาห์นี้ดีเอสไอจะส่งสำนวนในส่วนของเจ้าหน้าที่รัฐให้สำนักงานคณะ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ไต่สวนความผิดทางอาญาต่อไป
สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน
