สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ราเมศ โต้ วัฒนา ปมจำนำข้าว

จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

"ราเมศ"โต้"วัฒนา"ปมจำนำข้าว ยกข้อกฏหมาย ซัดพท.บิดเบือนความจริง ข้อกม.ทุกวัน หวังเบนประเด็นเป็นกลั่นแกล้ง

นายราเมศ รัตนะเชวง  รองโฆษกและคณะทำงานด้านกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย    ได้แสดงความเห็นแย้งขั้นตอนกฎหมายการดำเนินคดีโครงการรับจำนำข้าวว่า ข้อโต้แย้งของนายวัฒนาเป็นการบิดเบือนหลักกฏหมายและเจตนารมย์กฎหมายแทบทั้ง สิ้น เพราะ 1. พระราชบัญญัติความรับผิดในทางละเมิดของเจ้าหน้าที่พ.ศ. 2539 มีเจตนารมณ์ คือควบคุมการทำละเมิดของเจ้าหน้าที่รัฐไม่ว่าจะทำละเมิดให้เกิดความเสียหาย กับบุคคลภายนอกหรือเจ้าหน้าที่รัฐกระทำละเมิดต่อหน่วยงานของรัฐ ก็ต้องรับผิด กรณีนางสาวยิ่งลักษณ์   ชินวัตร ถือว่าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ เมื่อกระทำละเมิดต่อหน่วยงานของรัฐทำความเสียหายให้กับงบประมาณแผ่นดิน ก็ต้องรับผิดตามหลักกฏหมายนี้ การที่บอกว่ากรณีของนางสาวยิ่งลักษณ์ไม่มีบุคคลภายนอกเข้ามาเกี่ยวข้อง เป็นการบิดเบือนหลักกฏหมาย อยากให้นายวัฒนากลับไปศึกษามาตรา 10 ของพระราชบัญญัติดังกล่าวให้ดี

2. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี  ไม่ใช่คู่กรณีกับนางสาวยิ่งลักษณ์ไม่มีส่วนได้เสียตามกฏหมาย ไม่เป็นปฏิปักษ์กับนางสาวยิ่งลักษณ์ เพราะทุกกระบวนการในเรื่องโครงการรับจำนำข้าว เป็นกระบวนการที่เป็นไปตามครรลองของกฎหมาย มีเจ้าหน้าที่ดำเนินการ มีกระบวนการยุติธรรม มีศาลในการดำเนินกระบวนการ ถ้าเป็นเช่นนายวัฒนากล่าวอ้าง ความเป็นปฏิปักษ์กับพลเอกประยุทธ์เพื่อบอกว่านี่คือกระบวนการที่ไม่ถูกต้อง แสดงว่าคดีที่มีการทุจริต บริหารงานผิดพลาดของรัฐบาลพรรคเพื่อไทยและพวกในเรื่องทุจริตก็ได้รับการยก เว้นใช่หรือไม่ ไม่น่าเชื่อว่าเป็นคำพูดที่ออกมาจากปากของนายวัฒนาซึ่งเป็นนักกฎหมาย 

3. นายวัฒนาเรียกร้องให้รัฐบาลเคารพหลักนิติธรรม แต่การทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวอย่าลืมว่าเกิดจากการบริหารงานที่ขาดหลัก นิติธรรมคือการไม่ปฏิบัติตามกฏหมายพลเอกประยุทธ์ดำเนินการตามกฏหมาย นี้คือหลักนิติธรรมรัฐบาลพรรคเพื่อไทยพูดถึงหลักนิติธรรมมากที่สุดแต่การ กระทำเป็นการกระทำที่ละเมิดต่อหลักนิติธรรมมากที่สุดเช่นกันหากนายวัฒนาไป ศึกษาหลักนิติธรรมให้ดี ก็จะกระจ่างว่าพรรคเพื่อไทยกับพวกและนายวัฒนาต่างหากที่ไม่ผดุงไว้ซึ่งหลัก นิติธรรมก็คือการไม่ยอมรับกระบวนการไม่เคารพกฎหมาย

"พรรคเพื่อไทยสลับหน้ากันออกมาบิดเบือนข้อเท็จจริง และข้อกฎหมายทุกวันเพื่อเบี่ยงเบนประเด็นทุกคดีในโครงการรับจำนำข้าวเพื่อ ให้สังคมเข้าใจผิดว่านี่เป็นการกลั่นแกล้งกันในทางการเมืองโดยไม่ได้สนใจ เนื้อหาคดีแม้แต่น้อยนี่คือความถนัดของพรรคเพื่อไทย ความจริงแล้วทุกคนในประเทศ เห็นด้วยอย่างยิ่งที่มีโครงการช่วยเหลือชาวนาซึ่งเป็นอาชีพหลักที่สำคัญของ ประเทศแต่การใช้โครงการรับจำนำข้าว เป็นเครื่องมือในการแสวงหาประโยชน์ทุจริต เป็นกระบวนการไม่มีใครเห็นด้วยอย่างแน่นอน งบประมาณแผ่นดินที่มีการทุจริตกันในโครงการนี้ ลองคิดดูว่าถ้านำไปสร้างโรงพยาบาล สร้างสถานศึกษาเชื่อว่าประชาชนทุกอำเภอในประเทศไทย ก็จะได้รับประโยชน์อย่างมหาศาล"นายราเมศ กล่าว


'วรงค์'ติงเพื่อไทย ปลูกฝังข้อมูลบิดเบือนซ้ำ

โดย :

"หมอวรงค์"ติงเพื่อไทย ปลูกฝังข้อมูลบิดเบือนซ้ำ ย้ำ"วัฒนา เมืองสุข"อย่าตัดตอนตีความ ยกตัวอย่าง ข้อกฎหมายชัดยังกล้าบิดเบือน

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีตส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงคดีจำนำข้าวว่า เป็นไปตามคาด หลังจากน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาบิดเบือนสังคม แม้นายวิษณุ เครืองาน รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมายจะแถลงชี้ให้เห็นถึงแนวทางการต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรมโดย อาศัยศาลปกครองเป็นที่พึ่ง ตามเจตนาที่น.ส.ยิ่งลักษณ์และพรรคเพื่อไทยต้องการ แต่ก็ยังดาหน้าออกมาใช้ทฤษฎีจัดปลูกฝังชุดความคิดตีซ้ำๆ เพื่อเปลี่ยน  

นพ.วรงค์ กล่าวว่า ล่าสุดนายวัฒนา เมืองสุข อดีตรมว.พาณิชย์ ก็ออกมาบิดเบือน โดยชี้ให้เห็นตามพ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ มีคู่กรณีสามฝ่ายคือ 1.เจ้าหน้าที่ของรัฐทำความเสียหายให้กับบุคคลภายนอก 2.หน่วยงานของรัฐชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่บุคคลภายนอก และ 3.รัฐใช้คำสั่งทางปกครองเรียกให้เจ้าหน้าที่ของรัฐชดใช้เงินที่เสียหายคืน หากปรากฏว่า เจ้าหน้าที่ได้ทำไปโดยจงใจ หรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง (ตามมาตรา 8) แต่กรณีของน.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่มีบุคคลภายนอกเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ถูกดำเนินคดีจากการกำกับนโยบาย แค่ประเด็นสำคัญที่นายวัฒนายกตัวอย่าง ก็รับรู้แล้วว่า นายวัฒนาอ่านกฎหมายไม่ครบทุกมาตรา แล้วนำมาบิดเบือนสังคมซ้ำๆ เพื่อให้รู้สึกว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ได้รับความเป็นธรรม

"กรณีของน.ส.ยิ่งลักษณ์นั้น ตามภาษาชาวบ้านเข้าใจง่ายๆคือ เป็นกรณีเจ้าหน้าที่ทำให้รัฐเสียหาย และเป็นการปฏิบัติหน้าที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์จึงถูกดำเนินคดีตามมาตรา 10 และนำมาตรา 8 มาบังคับโดยอนุโลม ขนาดข้อเท็จจริงในตัวบทกฎหมายที่ตรวจสอบได้ เขายังกล้าบิดเบือน แม้รัฐบาลจะยอมตามข้อเรียกร้อง แต่เขาก็จะหาข้อเรียกร้องใหม่ๆเพื่อให้สังคมเข้าใจว่า ตนเองถูกกลั่นแกล้งไม่ได้รับความเป็นธรรม ดังนั้นรัฐบาลอย่าเบื่อที่จะชี้แจงความจริงที่ถูกต้อง เพราะจะเป็นแนวทางเอาชนะทฤษฎีของเขา แต่ถ้ารัฐบาลนี้อาจชะล่าใจ เขาจะเปลี่ยนความรู้สึกชาวบ้านต่อรัฐบาล จากโจทย์อาจตกเป็นจำเลยด้วยทฤษฎีนี้ได้ทันที ที่สำคัญรัฐบาลต้องย้ำว่า ความเสียหายครั้งนี้เกิดจากน.ส.ยิ่งลักษณ์ ปล่อยให้มีการโกงโดยคนใกล้ชิด ซึ่งสังคมไทยเข้าใจเรื่องนี้ได้" นพ.วรงค์ กล่าว


'ราเมศ'อัดซ้ำ'วัฒนา'ปมจำนำข้าว ยก4ข้อกม.โต้กลับ

โดย :

ราเมศ" อัดซ้ำ "วัฒนา" ปมจำนำข้าว ยก4ข้อ กม.โต้ยิบ เชื่อพท.ไม่หวังผลทางคดี แต่หวังพลิกเกมดึงมวลชนให้คล้อยตาม

นายราเมศ รัตนะเชวง รองโฆษกและคณะทำงานด้านกฎหมาย พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายวัฒนา เมืองสุข ระบุว่าประเด็นข้อกฎหมายเรื่องการเรียกค่าเสียหายในโครงการรับจำนำข้าวว่า ไม่ได้ถามนายราเมศหรือถามใครในพรรคประชาธิปัตย์ที่ไม่มีหน้าที่ แต่ได้สอบถามนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีและบอกว่าให้ตนเป็นราชบัณฑิตทางกฎหมายก่อนแล้วจะสอบถามว่า เป็นการออกอาการจนมุมของนายวัฒนา ที่เมื่อเอาความจริงมาพูดก็ไม่สามารถที่จะชี้แจงได้ เรื่องข้อกฎหมายในเรื่องโครงการรับจำนำข้าวไม่มีอะไรที่สลับซับซ้อนประชาชน ทั่วไปก็รู้ว่าเป็นเช่นไร ไม่จำเป็นต้องเป็นถึงราชบัณฑิตทางกฎหมาย ที่สำคัญเรื่องนี้เป็นเรื่องผลประโยชน์ของประเทศชาติที่ทุกคนต้องรับรู้และ ช่วยกันอธิบาย เพราะเมื่อมีการบิดเบือนทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายก็ต้องช่วยกันชี้แจงให้ สังคมได้รับรู้ถึงความจริง

นายราเมศ. กล่าวว่า ตนไม่ได้เป็นราชบัณฑิตทางกฏหมายแต่เป็นลูกชาวบ้านธรรมดาที่ได้เล่าเรียนจบ กฎหมายมาเป็นเนติบัณฑิตไทย แต่ตนไม่เคยใช้เกียรติของความเป็นเนติบัณฑิตไทยไปในทางที่ผิด ช่วยเหลือผู้กระทำผิดที่สร้างความเสียหายให้กับประเทศชาติอย่างมหาศาล แต่สิ่งที่ต้องอธิบายเพิ่มเติมให้กับประชาชนได้เข้าใจในประเด็นหลักๆ คือ 1.กรณีเรียกค่าเสียหายจากนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยืนยันว่ารัฐบาลสามารถทำได้ตามหลักกฏหมาย การที่จะอ้างหลากหลายเหตุผลว่าเป็นนโยบายที่ได้แถลงต่อรัฐสภาจึงอยู่นอก เหนือกฎหมายนั้น ก็ฟังไม่ขึ้นเพราะนโยบายของรัฐบาลทุกรัฐบาลอยู่ภายใต้กฎหมายและความถูกต้อง จะอ้างเพื่อเป็นข้อยกเว้นให้มีการทุจริตไม่ได้ 

 2.การออกคำสั่งทางปกครองเพื่อเรียกค่าเสียหายจากนางสาวยิ่งลักษณ์สามารถ ต่อสู้ได้อย่างเต็มที่ ตั้งแต่ในชั้นคณะกรรมการพิจารณาความรับผิดทางแพ่ง เมื่อคณะกรรมการชุดนี้ได้พิจารณาเสร็จแล้วก็จะนำมาสู่การออกคำสั่งทางปกครอง ว่าจะให้ชดใช้ค่าเสียหายเป็นจำนวนเงินเท่าใด หากนางสาวยิ่งลักษณ์ไม่พึงพอใจกับคำสั่งนี้ ก็สามารถอุทธรณ์ได้ภายใน 15 วัน หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงคำสั่งนางสาวยิ่งลักษณ์ก็สามารถยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง ได้ซึ่งจะเห็นว่าเรื่องทั้งหมดก็จะไปจบที่ศาลทุกขั้นตอนสามารถต่อสู้ได้ อย่างเต็มที่ 

3.ในเรื่องการใช้คำสั่งทางปกครองเพื่อเรียกให้เจ้าหน้าที่รับชดใช้ค่า เสียหายไม่ใช่เพิ่งเคยเกิดขึ้นกับกรณีนางสาวยิ่งลักษณ์ แต่จากข้อมูลทางราชการจะเห็นว่ามีการออกคำสั่งเรียกค่าเสียหายมาแล้วกว่า 5000 เรื่อง ในสมัยรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ก็เคยออกคำสั่งทางปกครองลักษณะนี้มา 500 กว่าเรื่อง เช่นคำสั่งกรมควบคุมมลพิษที่ 118 / 2557 กรณีออกคำสั่งทางปกครองให้บุคคลซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รัฐรวมทั้งรัฐมนตรีชดใช้ ค่าสินไหมทดแทนกรณีความรับผิดในทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ที่ก่อให้เกิดความ เสียหายกรณีบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน

4.การที่แกนนำพรรคเพื่อไทยรวมถึงนางสาวยิ่งลักษณ์ได้ออกมาโต้แย้งด้วย หลากหลายเหตุผลนั้นสามารถหยิบยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ในชั้นศาลปกครองได้ทุก ประเด็นศาลปกครองใช้ระบบการไต่สวนคือเปิดโอกาสให้มีการเสนอพยานหลักฐานทุก ชนิดได้ 

 “การออกมาสื่อสารของแกนนำพรรคเพื่อไทยเขาไม่ได้หวังผลในทางคดีแต่เป็น การสื่อสารเพื่อพลิกเกมดึงมวลชนให้คล้อยตามว่าตนถูกรังแกจากการกระทำของ รัฐบาลที่มาจากการปฏิวัติที่สำคัญเกมนี้จะเริ่มในประเทศแต่ก็จะมียุทธศาสตร์ ต่อไปโดยการสื่อสารให้ต่างประเทศเกิดความเข้าใจผิดว่าเรื่องนี้เป็นการกลั่น แกล้งกันในทางการเมือง รัฐบาลต้องตั้งหลักอธิบายชี้แจงให้สังคมเข้าใจได้โดยง่ายไม่เช่นนั้นเรื่อง การทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวก็จะถูกดึงเกมไปเป็นเรื่องการกันแกล้งกันใน ทางการเมือง” นายราเมศ กล่าว


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : ราเมศ วัฒนา ปมจำนำข้าว

view