สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

เลิกใช้เงินกระดาษ โดย วีรพงษ์ รามางกูร

จากประชาชาติธุรกิจ

ข่าวจากไทยรัฐออนไลน์อ้างคำกล่าวของผู้อำนวยการสถาบัน เทคโนโลยีหลวง (Royal Institute of Technology) ว่าสวีเดนจะเป็นชาติแรกในโลกที่จะเลิกใช้ธนบัตรและเหรียญกษาปณ์อย่างสิ้น เชิง

แม้ว่าข่าวนี้จะไม่ใช่ข่าวใหญ่ แต่เป็นข่าวที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อยสำหรับนักเศรษฐศาสตร์ เพราะเคยมีการพูดกันมานานแล้วว่า ในอนาคตเมื่อระบบดิจิตอล ระบบออนไลน์พัฒนาไปไกล ขณะเดียวกันค่าจ้างแรงงานก็แพงขึ้นเรื่อยๆ ระบบการเงินทั้งระบบ รวมทั้งระบบเงินตราซึ่งใช้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนและเป็นเครื่องมือในการชำระเงินก็จะหมดความจำเป็น ต่อไปเงินพลาสติกจะเข้ามาแทนที่ และมีโอกาสสูงที่สวีเดนจะเป็นชาติแรกที่ประกาศยกเลิกการใช้เงินสดในรูปของธนบัตรและเหรียญกษาปณ์

สมัยก่อนเงินสดหมายถึงธนบัตรเหรียญกษาปณ์และบัญชีกระแสเงินสดที่สั่งจ่ายได้โดยเช็ค แต่สมัยนี้ ธนาคารอิเล็กทรอนิกส์มีการใช้บัตรธนาคาร เช่น บัตรเอทีเอ็มและบัตรเครดิตชนิดต่างๆ ของบริษัทเอกชนกันมากขึ้นเรื่อยๆ จนความต้องการใช้เงินสดในรูปของธนบัตรก็ลดลงเรื่อยๆ แม้แต่การเขียนเช็คสั่งจ่ายเงินก็ลดปริมาณลงเรื่อยๆ เพราะการชำระหนี้สามารถทำได้โดยการโอนเงินผ่านระบบออนไลน์ชนิดต่างๆ เช่น การโอนเงินผ่านระบบโทรศัพท์มือถือที่สามารถทำได้ทุกที่อย่างสะดวกรวดเร็ว การโอนเงินผ่านตู้เอทีเอ็มก็ทำกันอย่างแพร่หลาย



การซื้อขายสินค้าและบริการ ไม่ว่าจะเป็นจำนวนเงินเท่าใด มากหรือน้อย ก็สามารถใช้เงินพลาสติกหรือบัตรเครดิตหรือบัตรธนาคารได้ เพราะค่าใช้จ่ายในการโอนเงินต่ำลงเรื่อยๆ เมื่อระบบดิจิตอลพัฒนาไปเรื่อยๆ ผู้คนเข้าใจมากขึ้นเรื่อยๆ การพกพาเงินสดในรูปธนบัตรและเหรียญกษาปณ์จึงน้อยลงเรื่อยๆ

ทุกวันนี้ธนาคารหลายแห่งที่สวีเดนก็ปรับตัวกลายเป็นธนาคารอิเล็กทรอนิกส์เต็มตัวกล่าวคือไม่รับเงินสดเลย การยกเลิกการพิมพ์ธนบัตรและการผลิตเหรียญกษาปณ์ จึงเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะแปลก

เมื่อ 30 ปีก่อน ตอนที่นายพลเนวินยังคงเป็นประธานาธิบดีพม่า ท่านถือเคล็ดตามที่หมอดูบอกว่า หากต้องการมีอายุถึง 90 ปี ท่านต้องยกเลิกธนบัตรเงินจ๊าดของพม่าที่มีราคา 100 จ๊าดมาเป็น 90 จ๊าด และเป็นการทำโทษนักค้าของเถื่อน ธุรกิจใต้ดิน อาชญากรรมและพลังเศรษฐกิจของนายทุน พม่าจึงยกเลิกธนบัตรเก่าและออกธนบัตรใหม่ราคา 90-45-25 และ 10 จ๊าด ทำความเวียนหัวให้กับประชาชนเป็นอันมาก เพราะนับกันไม่ถูก พ่อค้าต้องเอาธนบัตรต่างๆ มารวมกันเป็นปึกๆ ปึกละ 1,000 จ๊าด เวลาจ่ายเงิน เพราะผู้คนเคยชินกับระบบสิบหรือระบบเมตริก แต่การที่สวีเดนกำลังยกเลิกการใช้ธนบัตรและเหรียญกษาปณ์นั้นน่าจะเป็นเหตุผลเพราะธนบัตรหมดความจำเป็น ประชาชนไม่ใช้แล้วหรือไม่ก็ใช้น้อยมาก

ถ้าหากสวีเดนประกาศยกเลิกการใช้ธนบัตรอย่างสิ้นเชิง ธุรกิจการค้าและการเงินของสวีเดนทุกอย่างก็จะมีความโปร่งใส การหนีภาษีก็ดี การฟอกเงินก็ดี การทำธุรกรรมที่ผิดกฎหมายก็จะทำไม่ได้ เพราะจะสามารถตรวจสอบย้อนหลังได้หมดไม่เหมือนการใช้ธนบัตรที่ผู้กระทำผิดสามารถปิดบังซ่อนเงินได้

แต่ในขณะเดียวกันผู้คนที่ไม่คุ้นเคยกับการใช้คอมพิวเตอร์หรือระบบอิเล็กทรอนิกส์การออนไลน์ต่างๆเช่น เด็กอายุน้อย คนสูงอายุ คนที่อยู่ในชนบทห่างไกล ซึ่งสวีเดนก็ยังมีชนบทห่างไกลอยู่ไม่น้อย ผู้คนเหล่านี้อาจจะไม่คุ้นเคยกับการใช้โทรศัพท์มือถือเพื่อกิจกรรมอย่างอื่น นอกจากใช้โทรศัพท์พูดคุยเท่านั้น หรือไม่ก็ไม่มั่นใจว่าสิ่งที่ทำ การโอนเงิน การรับจ่ายเงินทางระบบดิจิตอลจะมีความปลอดภัยถูกต้องหรือไม่ ยิ่งในกรณีเด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะตามกฎหมาย การทำนิติกรรม สำคัญๆ ต้องได้รับคำยินยอม หากจะทำการซื้อขายกันด้วยปริมาณเงินมากๆ จะมีปัญหาทางกฎหมายหรือไม่ หรือถ้ามีการผิดพลาดในการใช้เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์จะแก้ไขกันอย่างไร

ประชาชนสวีเดนส่วนใหญ่หรือเกือบทั้งหมดมีการศึกษาดีมีความเป็นอยู่ในระดับมาตรฐานสูงเกือบเท่าเทียมกันประชาชนส่วนใหญ่มีจิตใจดี ซื่อตรงต่อสิทธิและหน้าที่ของตน รับผิดชอบต่อสังคมสูง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีอาชญากรและอาชญากรรมเลย รัฐบาลสวีเดนดำริจะเลิกใช้ธนบัตร แต่ใช้ระบบการโอนเงินรับจ่ายเงินโดยระบบอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมด จึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจ ว่าผลต่อพฤติกรรมของชาวสวีเดนในการดำเนินชีวิตจะเป็นอย่างไร อาจจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเพราะในสวีเดนและประเทศอื่นๆ ในยุโรปหรืออเมริกา แคนาดา การใช้ธนบัตรก็ลดลงมาก ผู้คนแทนที่จะถือธนบัตรก็คือบัตรเครดิตและบัตรธนาคารแทน แม้แต่การซื้อข้าวของเล็กน้อยตามร้านกาแฟ หรือร้านข้างทางก็ใช้บัตรเครดิตกันทั้งนั้น

แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับนักท่องเที่ยวจากประเทศกำลังพัฒนาอย่างพวกเรา หรือนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนที่ไม่มีบัตรเครดิต หรือบัญชีธนาคารก็คงจะเดินทางไปประเทศสวีเดนไม่ได้ เพราะไม่อาจจะนำธนบัตรเงินดอลลาร์หรือเงินยูโรไปฝากเข้าธนาคารหรือแลกเงินที่ธนาคารในสวีเดนได้

พ่อบ้านหรือแม่บ้านจะไปใช้จ่ายเงินเพื่อซื้อขายอะไรหรือจะให้เงินใครหรือจะจ่ายค่าบริการอะไรที่ไม่ต้องการเปิดเผยต่อไปก็คงจะทำไม่ได้ เพราะทุกอย่างแม้แต่เรื่องเล็กเรื่องน้อยก็ต้องทำผ่านระบบบัตรเครดิต หรือบัตรธนาคารทั้งหมด มีการบันทึกไว้ตรวจสอบได้ทั้งหมด ความเป็นส่วนตัวของชาวสวีเดน หรือนักท่องเที่ยวก็คงจะต้องหมดไปด้วย

ที่ตั้งความหวังไว้ว่า การหลีกเลี่ยงภาษีก็ดี ธุรกรรมใต้ดิน เช่น ยาเสพติดก็ดี โสเภณีก็ดี จะทำไม่ได้ เพราะต้องใช้การโอนจ่ายเงินผ่านบัตรเครดิตหรือบัตรธนาคารเท่านั้น ก็ไม่น่าจะเป็นความจริง ตราบใดที่กิจกรรมต่างๆ ยังมีผู้ต้องการหลบเลี่ยงภาษี กิจกรรมที่ผิดกฎหมายต่างๆ ยังมีผู้ต้องการขายและผู้ต้องการซื้อ ผู้ซื้อและผู้ขายในกิจกรรมเหล่านี้ก็จะยังถือเงินสดในรูปธนบัตรของประเทศอื่น เช่น เงินดอลลาร์ เงินยูโร เงินปอนด์ เป็นต้น และอาจจะเป็นไปได้ด้วยซ้ำว่า เมื่อระบบธนาคารยุติการรับฝากรับจ่ายเงินสดในรูปธนบัตรของสวีเดน ความต้องการถือธนบัตรของประเทศอื่นก็น่าจะมีสูงเพิ่มขึ้น ธนบัตรของประเทศอื่นที่หมุนเวียนในประเทศสวีเดนก็จะมีปริมาณเพิ่มมากขึ้น แทนที่จะมีปริมาณลดลงและอาจจะเป็นไปได้ว่า อาจจะนำไปฝากที่ธนาคารประเทศอื่นก็ได้

การที่สถาบันการเงินสวีเดนประกาศว่า ระบบธนาคารของสวีเดนจะเลิกการรับจ่ายรับฝากเงินสดในรูปธนบัตร ซึ่งธนาคารในประเทศสวีเดนทำได้และส่วนใหญ่ก็ทำอยู่แล้ว ซึ่งในที่สุดก็จะไม่มีธนาคารหรือร้านค้าขายรับธนบัตรของสวีเดนในการซื้อขาย

แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าในประเทศสวีเดนจะไม่มีใครถือเงินสดไม่มีใครถือธนบัตรแต่จะถือเป็นธนบัตรสกุลอื่นแทน เพราะธุรกิจหลายอย่างยังต้องทำในรูปเงินสดอยู่ ตราบใดที่ยังมีคนต้องการถือเงินสด เงินสดก็จะยังคงมีหมุนเวียนในตลาดต่อไป เหมือนประเทศรอบบ้านของไทยที่ใช้ธนบัตรไทยในการซื้อขายแลกเปลี่ยนและเก็บเป็นเงินออม

ต้องคอยดูต่อไปว่าทางการสวีเดนจะยกเลิกการใช้ธนบัตรจริงหรือไม่




ที่มา : นสพ.มติชน


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : เลิกใช้เงินกระดาษ วีรพงษ์ รามางกูร

view