สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ก.ล.ต.เผยปี58 พบปั่นหุ้น-ทุจริตมากสุดรวม 72.44 ลบ.

ก.ล.ต.เผยปี58 พบปั่นหุ้น-ทุจริตมากสุดรวม 72.44 ลบ.

จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

ก.ล.ต. เผยปี 58 เปรียบเทียบปรับ 89 ราย รวม 91.44 ลบ. พบปั่นหุ้น และทุจริตมากสุด รวม 72.44 ลบ. และกล่าวโทษกรณีทำผิดพ.ร.บ.หลักทรัพย์ 77 ราย

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ในปี 2558 คณะกรรมการเปรียบเทียบปรับ ได้เปรียบเทียบปรับจำนวน 89 ราย รวมมูลค่า 91.44 ล้านบาท แบ่งเป็นกรณีการกระทำอันไม่เป็นธรรมในการซื้อขายหลักทรัพย์ ซึ่งครอบคลุมการสร้างราคา ใช้ข้อมูลภายใน(อินไซต์เทรด) และทุจริต จำนวน 23 ราย มูลค่า 72.44 ล้านบาท การออกเสนอขายหลักทรัพย์เช่นไม่จัดทำหรือรายงานข้อมูลตามกำหนด 48 ราย มูลค่า 11.73 ล้านบาท การเข้าถือหลักทรัพย์เพื่อครอบงำกิจการ 4 ราย มูลค่า 2.25 ล้านบาท การประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ 6 ราย รวม 2.45 ล้านบาท การประกอบธุรกิจจัดการลงทุน 8 ราย มูลค่ารวม 2.54 ล้านบาท

ทั้งนี้ ก.ล.ต. ได้มีการกล่าวโทษกรณีความผิดตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ฯ 77 ราย ได้แก่ การประกอบธุรกิจหลักทรัพย์โดยไม่ได้รับอนุญาต 8 ราย การกระทำอันไม่เป็นธรรมในการซื้อขายหลักทรัพย์ 6 ราย การถือครองหลักทรัพย์เพื่อการครอบงำกิจการ 1 ราย การออกและเสนอขายหลักทรัพย์ เช่น การไม่จัดทำหรือรายงานข้อมูลตามกำหนด 38 ราย ทุจริตหรือไม่ปฏิบัติหน้าที่ของผู้บริหารของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ 23 ราย อื่นๆ 1ราย

นอกจากนี้ ได้กล่าวโทษกรณีเกี่ยวกับความผิดตามพรบ.สัญญาซื้อขายล่วงหน้าอีก 4 ราย พร้อมกับได้มีการลงโทษทางบริหาร ซึ่งมีจำนวนผู้ถูกดำเนินการทั้งหมด 48 ราย แบ่งเป็นผู้แนะนำการลงทุนและนักวิเคราะห์การลงทุน 41 ราย ผู้บริหารหลักทรัพย์ และบุคคลที่มีอำนาจในการจัดการ 4 ราย ที่ปรึกษาทางการเงิน 1 ราย ผู้ควบคุมการปฏิบัติงานที่ปรึกษาทางการเงิน 2 ราย ซึ่งก.ล.ต.ได้ดำเนินการ โดยการสั่งพัก 44 รายและเพิกถอนใบอนุญาต 4 ราย

สำหรับ ปี 58 ก .ล.ต.ได้มีการสอบทานรายการที่เกี่ยวโยงและการได้มาซึ่งสินทรัพย์สำคัญ ที่ขออนุมัติที่ประชุมผู้ถือหุ้น 52 รายการ มูลค่า 1.64แสนล้านบาท และดำเนินการออกข่าวเตือนผู้ลงทุน 6 ราย รวมมูลค่า 3.39 หมื่นล้านบาท

ด้าน การตรวจสอบกรณีการกระทำไม่เป็นธรรมในการซื้อขายเช่น การสร้างราคาหลักทรัพย์ การเผยแพร่ข่าว การใช้ข้อมูลภายในรวม 70 กรณี กรณีการทุจริตการกระทำผิดของผู้บริหารบจ. บริษัทที่ออกหลักทรัพย์ และการกระทำผิดเกี่ยวกับบัญชีหรือเอกสาร 14 กรณี และกรณีการประกอบธุรกิจหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโดยไม่ได้รับ อนุญาต 15 กรณี รวมอื่นๆ อีก 3 กรณี รวม 102 กรณี


สั่งทบทวนเพิ่มบทลงโทษผู้บริหาร 'อินไซด์-ปั่นหุ้น'

โดย :

บอร์ด ก.ล.ต.สั่งทบทวนเพิ่มบทลงโทษผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน ใช้อินไซด์-ปั่นหุ้น-ทุจริต เร่งให้ได้ข้อสรุปภายในปีนี้ ชี้ต้องเข้มงวดมากขึ้น

นายรพี สุจริตกุล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า สำนักงาน ก.ล.ต.อยู่ระหว่างการทบทวนเกณฑ์การลงโทษผู้บริหารจดทะเบียนที่มีการกระทำอัน ไม่เป็นธรรมในการซื้อขายหลักทรัพย์ เช่น สร้างราคาหลักทรัพย์ การใช้ข้อมูลภายใน และทุจริต หลังจากใช้มานานแล้วประมาณ 10 ปี โดยจะให้มีความเข้มงวดมากขึ้น จากปัจจุบันกรณีพบว่าผู้บริหารบจ. กระทำผิด เพียงยอมถูกเปรียบเทียบปรับเรื่องก็จบและยังสามารถเป็นผู้บริหารของบจ.ต่อไป ได้

ทั้งนี้ ก.ล.ต. คาดว่า การพิจารณาทบทวนเพิ่มบทลงโทษดังกล่าวจะให้แล้วเสร็จภายในปีนี้และจะประกาศ ให้สาธารณชนรับทราบต่อไป ทั้งนี้สาเหตุที่มีการทบทวนดังกล่าวเนื่องจาก ก.ล.ต.ได้มีการรายงานผลการปฏิบัติงานปี 58 ให้บอร์ด ก.ล.ต.ทราบ และทางบอร์ด ก.ล.ต. จึงให้ทางสำนักงานทบทวนเรื่องดังกล่าว

ส่วนผู้บริหาร บริษัทที่ได้รับใบอนุญาตในการดำเนินธุรกิจจาก ก.ล.ต. เช่น บล. บลจ. ฯลฯ หากมีการกระทำอันไม่เป็นธรรมในการซื้อขายเมื่อถูกเปรียบเทียบปรับแล้วจะไม่ สามารถเป็นผู้บริหารของสถาบันการเงินไทยได้อีก ซึ่งเรื่องนี้จะไม่มีการทบทวนจะใช้เกณฑ์เดิมต่อไป

"สำนักงานก.ล.ต .ได้มีการประชุมกับบอร์ด ก.ล.ต.ครั้งที่แล้วได้มีการรายงานการปฏิบัติงานของก.ล.ต. ในเรื่องการดำเนินงานของก.ล.ต. ซึ่งทางบอร์ด ก.ล.ต.ต้องการให้ทางสำนักงานมีการทบทวนการลงโทษผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนที่ มีการกระทำอันไม่เป็นธรรมในการซื้อขาย เพราะเกณฑ์เดิมนั้นใช้มานานถึง 10 ปีแล้ว จึงอยากให้ทบทวนให้มีความเข้มงวดมากขึ้น แต่ยังไม่สามารถตอบได้ขณะนี้ว่าจะทบทวนอย่างไรได้บ้าง แต่คาดว่าจะเสร็จภายในปีนี้ ซึ่งจะประกาศเป็นแนวปฏิบัติของก.ล.ต. และจะเปิดเผยให้สาธารณชนทราบต่อไป" นายรพี กล่าว

นายรพี กล่าวว่า ก.ล.ต.หวังที่จะผ่านการประเมินภาพรวมภาคการเงินของไทย Financial Sector Assessment Program หรือ FSAP ซึ่งจะประเมินโดย World Bank และ IMF โดยจะเข้าจะประเมินธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) .สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย(คปภ.) และ ก.ล.ต. โดยคาดว่าจะมีการเข้าประเมินในปี 62 ซึ่งหากผ่านการประเมินนี้จะทำให้ดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศให้เข้ามา ลงทุนในไทยมากขึ้น จากที่ผ่านการประเมินดังกล่าว


วรวรรณ'เชียร์'ก.ล.ต.' เพิ่มโทษผู้บริหารแตกแถว

โดย :

"วรวรรณ" นายกสมาคมบลจ. เห็นด้วยกับ "ก.ล.ต." ที่จะทบทวนเพิ่มโทษผู้บริหารบจ.ที่กระทำไม่เหมาะสม หวังยกระดับธรรมมาภิบาลตลาดทุนไทย

นางวรวรรณ ธาราภูมิ นายกสมาคม บลจ. กล่าวว่า ทางสมาคม บลจ. เห็นด้วยกับแนวคิดของทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลัก ทรัพย์ (ก.ล.ต.) กรณีจะเพิ่มบทลงโทษผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน(บจ.) ที่มีการกระทำอันไม่เป็นธรรมในการซื้อขายหลักทรัพย์ซึ่งจะเป็นการยกระดับธร รมาภิบาล (CG) ของตลาดหุ้นไทยให้เพิ่มขึ้น จากเดิมที่ก.ล.ต. จะเข้มงวดเกี่ยวกับบทลงโทษสถาบันการเงิน ซึ่งการทบทวนครั้งนี้จะเป็นการยกระดับบทลงโทษผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนที่มี การกระทำอันไม่เป็นธรรมในการซื้อขายหลักทรัพย์ให้เท่ากับบทลงโทษผู้บริหาร สถาบันการเงิน

"ในฐานะผู้ลงทุนสถาบันเห็นด้วยที่ก.ล.ต. จะมีการทบทวนบทลงโทษผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนที่มีการกระทำอันไม่เป็นธรรมใน การซื้อขายหลักทรัพย์ จากเดิมที่ก.ล.ต.เข้มงวดกับสถาบันการเงินมากกว่า ซึ่งถึงเวลาแล้วที่ต้องยกระดับให้เท่าเทียมกัน" นางวรวรรณ กล่าว


สำนักงานสอบบัญชี,#สอบบัญชี,สำนักงานบัญชี,#ทำบัญชี,#ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : ก.ล.ต.เผย ปี58 ปั่นหุ้น ทุจริตมากสุด 72.44 ลบ.

view