สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

กูรูชี้ 5 เรื่องสำคัญที่ HR ให้คะแนนมากที่สุดขณะสัมภาษณ์งาน แนะตอบให้โดนใจ

กูรูชี้ 5 เรื่องสำคัญที่ HR ให้คะแนนมากที่สุดขณะสัมภาษณ์งาน แนะตอบให้โดนใจ

จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์

        การสัมภาษณ์งานถือเป็นไฮไลท์สำคัญของคนทำงานทุกคน ไม่ว่าจะสมัครงานในตำแหน่งเจ้าหน้าที่ทั่วไปหรือผู้บริหารระดับสูง ล้วนจำเป็นต้องผ่านสนามการสอบสัมภาษณ์ด้วยกันทั้งสิ้น สำหรับน้องใหม่ที่เพิ่งจบการศึกษา อาจตื่นเต้นกับการเตรียมตัวเพื่อให้ก้าวผ่านสนามสอบนี้ไปได้อย่างราบรื่น นพวรรณ จุลกนิษฐ กรรมการผู้จัดการ บริษัท จัดหางาน จ๊อบส์ ดีบี (ประเทศไทย) จำกัด ขอแนะนำวิธีเตรียมตัวเรียกคะแนนจาก HR ผู้สัมภาษณ์ให้ได้มากที่สุดขณะที่สัมภาษณ์งาน 5 เรื่อง
       
       เรื่องแรก ประสบการณ์ในการฝึกงาน - กิจกรรมระหว่างเรียน คุณทราบหรือไม่ว่าฝ่ายทรัพยากรบุคคล (HR) ให้ความสำคัญกับประสบการณ์ขณะฝึกงานมากถึง 75% เนื่องจากนักศึกษาจบใหม่จำนวนไม่น้อยไม่มีประสบการณ์การการทำงานในที่ทำงาน จริง สิ่งเดียวที่ทดแทนจุดนี้ได้ก็คือกิจกรรมระหว่างที่เป็นนักศึกษา และการฝึกงาน ซึ่งนอกจากจะแสดงให้เห็นว่าคุณเคยใช้ความรู้ที่เรียนมาไปใช้ทำงานจริงได้ แล้ว การฝึกงานยังช่วยให้คุณรู้จักการทำงานร่วมกันในสังคมออฟฟิศ และการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเมื่อถึงเวลาทำงานจริงอีกด้วย
       
       เรื่องที่สอง ความคิด - ทัศนคติ ความคิดหรือทัศนคติเชิงบวก ทั้งกับงานและองค์กร นับเป็นเรื่องที่ผู้หางานควรมีอย่างยิ่ง แม้ความคิดและทัศนคติจะเป็นเรื่องนามธรรม แต่ HR ผู้สัมภาษณ์ก็สามารถให้คะแนนในจุดนี้จากการสัมภาษณ์งาน โดยอาจถามจากเหตุการณ์สมมุติต่างๆ ซึ่งอาจเกิดขึ้นจริงในชีวิตการทำงาน แล้วจึงวิเคราะห์จากคำตอบที่ได้มาว่าผู้ถูกสัมภาษณ์มีทัศนคติอย่างไร เพราะสิ่งที่ HR มองหาก็คือบุคคลที่มีทัศนคติเชิงบวก ทั้งกับงาน และกับองค์กร เช่น คำถามที่เกี่ยวกับองค์กรเก่า เหตุผลที่ลาออกจากที่ทำงานเก่า ไม่ว่าคุณจะผ่านช่วงเวลาที่ไม่สู้ดีเท่าไหร่นัก การหาแง่บวกจากสิ่งเหล่านั้น ก็จะสามารถทำให้คุณได้คะแนนจากส่วนนี้ได้
       
             
       เรื่องที่สาม บุคลิกภาพ - การแต่งกาย การนำเสนอ มารยาท ผู้สัมภาษณ์งานควรใส่ใจเรื่องบุคลิกภาพ การแต่งกาย การนำเสนอ และมารยาทในขณะสัมภาษณ์งาน เนื่อง จากการแต่งกายเป็นภาพแรกที่ HR จะเห็นคุณ และเริ่มให้คะแนนตั้งแต่นาทีนั้น นอกจากเป็นการให้เกียรติสถานที่ และผู้สัมภาษณ์แล้ว ยังแสดงถึงการเตรียมพร้อมของผู้สัมภาษณ์ นอกจากนี้ HR ยังให้ความสำคัญของบุคลิกภาพของคุณตั้งแต่การก้าวเข้ามาในออฟฟิศ การพูดคุย มารยาทต่างๆ ที่คุณแสดงออกขณะรอเพื่อสัมภาษณ์งาน รวมถึงท่าทีของคุณ และความน่าสนใจขณะที่คุณนำเสนอผลงานด้วย
       
       เรื่องที่สี่ ทักษะพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งงานที่สมัคร - ภาษา คอมพิวเตอร์ ทักษะทั่วไปที่องค์กรในปัจจุบันต้องการนั้นคงหนีไม่พ้น 2 ทักษะหลักๆ คือภาษา และคอมพิวเตอร์ เนื่องจากในยุคปัจจุบันนั้นองค์กรมีความจำเป็นต้องร่วมงานกับบริษัทข้ามชาติ ต่างๆ จนบางครั้งภาษาที่ 2 อย่างภาษาอังกฤษอาจดูน้อยเกินไปสำหรับการสมัครงานในยุคนี้ หากเป็นไปได้ jobsDB อยากแนะนำให้คุณควรเรียนรู้ภาษาที่ 3 อย่างญี่ปุ่น หรือจีน เพื่อเพิ่มโอกาสด้านการทำงาน นอกจากนี้ทักษะคอมพิวเตอร์ และโปรแกรมต่างๆ นั้นก็จำเป็นมากเช่นกัน ไม่เพียงแต่ MS Office หรืออินเตอร์เน็ตที่ถือเป็นพื้นฐานของคนทำงานทุกคน คุณควรมีทักษะเฉพาะตามสายอาชีพด้วย เช่น ตำแหน่งกราฟฟิกดีไซเนอร์ ก็ควรที่จะมีความสามารถในการใช้โปรแกรม AI PS AUTOCAD หรือ 3D Max เป็นต้น
       
       และเรื่องที่ห้า ความพร้อมในการสัมภาษณ์ ความพร้อมในการสัมภาษณ์งานนี้หมายถึงการศึกษาข้อมูลขององค์กร วัฒนธรรมองค์กร หรือข่าวความเคลื่อนไหวในอุตสาหกรรมที่บริษัทที่คุณไปสัมภาษณ์งานด้วย เนื่องจาก HR จะมองว่าคุณมีความสนใจ และตั้งใจอยากจะเข้ามาทำงานในตำแหน่ง และองค์กรนี้จริง ซึ่งข้อมูลเหล่านี้สามารถหาได้ง่ายๆ จากเว็บไซต์ที่คุณเข้าไปดูตำแหน่งงานว่าง หรือเว็บไซต์ของบริษัทที่คุณจะเข้าไปสัมภาษณ์งาน เพียงแค่ทำการบ้านเล็กๆ น้อยๆ ก่อนไปสัมภาษณ์แค่นี้ รับรองได้เลยว่า HR ผู้สัมภาษณ์จะพร้อมใจกันเทคะแนนให้อย่างแน่นอน


ดีลอยท์ชี้เทรนด์HR ระบุเรื่องผู้นำองค์กรสำคัญที่สุด

โดย MGR Online

       ดีลอยท์เผยผลสำรวจแนวโน้มด้าน ทรัพยากรบุคคล 2016 ระบุเรื่องผู้นำในองค์กรยังเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และประเทศไทย ขณะที่เรื่องการออกแบบโครงสร้างองค์กรที่เหมาะสมกับการทำงานในยุคดิจิตอลมี ความสำคัญเพิ่มขึ้น
       
       บริษัท ดีลอยท์ ได้ทำการสำรวจแนวโน้มด้านทรัพยากรบุคคลทั่วโลกประจำปี 2016 (Deloitte’s Global Human Capital Trend 2016) ซึ่งครอบคลุมในเรื่อง กำลังคน ผู้นำในองค์กร และความท้าทายสำหรับฝ่ายทรัพยากรบุคคลขององค์กร โดยมีผู้เข้าร่วมการ สำรวจเป็นผู้บริหารระดับสูงและผู้บริหารด้านทรัพยากรบุคคลจากองค์กรทั่วโลก การสำรวจในปีนี้ถือเป็นหนึ่งของการสำรวจในเรื่อง ทรัพยากรบุคคลที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ซึ่งรายงานผลการสำรวจในปีนี้มีชื่อว่า “The new organization: Different by design” สำหรับรายงานผลการสำรวจในระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นี้ เป็นส่วนหนึ่งของรายงานผลสำรวจทั่วโลกซึ่งมีผู้เข้าร่วม สำรวจกว่า 213 องค์กร จากประเทศต่างๆ ในภูมิภาคนี้ ได้แก่ ประเทศไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย และอินโดนีเซีย
       
       ถึงแม้ว่าเรื่องผู้นำในองค์กรจะเป็นเรื่องที่ผู้ตอบแบบสำรวจให้ความ สำคัญเป็นอันดับแรก แต่ที่น่าประหลาดใจก็คือผลสำรวจชี้ให้เห็น ถึงช่องว่างระหว่างความสำคัญกับความสามารถในการจัดการกับเรื่องนี้กลับเพิ่ม มากขึ้น โดยร้อยละ 63 ของกลุ่มผู้ถูกสำรวจกล่าวว่า ยังไม่พร้อมที่จะรับมือกับเรื่องผู้นำภายในองค์กรของตน ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับผลของปีที่แล้วซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 41 จะเห็นว่าความไม่ พร้อมนี้เพิ่มขึ้นจากเดิมถึงร้อยละ 22
       
       ผลจากการสำรวจชี้ให้เห็นถึงสภาวะแวดล้อมทางธุรกิจในปัจจุบันที่เต็ม ไปด้วยความผันผวน ที่แม้ว่าผู้บริหารระดับสูงจะตระหนักว่า แนวโน้มต่างๆ เหล่านี้มีความสำคัญ แต่พวกเขาก็ยังต้องให้ความสำคัญกับเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนามูลค่าผู้ ถือหุ้นมากกว่าเรื่อง ทรัพยากรบุคคล และพนักงาน
       
       นางสาวนิกกี้ เวคฟีลด์ ผู้บริหารกลุ่มงานที่ปรึกษาด้านทรัพยากรบุคคลของบริษัท ดีลอยท์ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าว ว่า “เรื่องผู้นำในองค์กรเป็นเรื่องท้าทายขององค์กรต่าง ๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาโดยตลอด การจะรับมือกับ ความท้าทายนี้ได้ องค์กรจะต้องพลิกโฉมโปรแกรมการพัฒนาผู้นำ (Leadership Development Program) ต้องมีการวางแผน การพัฒนาผู้นำอย่างต่อเนื่อง โดยลงทุนเฟ้นหาและพัฒนา “ผู้นำ” ของตนตั้งแต่ระยะเริ่มแรกของการทำงาน เพื่อปรับเปลี่ยนแนวคิด และทัศนคติเดิม ๆ ที่เน้นการบังคับบัญชาแบบลำดับขั้น เพื่อนำไปสู่การสร้างผู้นำที่มุ่งเน้นเรื่องการสร้างเครือข่ายของทีม ทั้งนี้ ผู้บริหารอาวุโสในองค์กรต้องรู้จักปรับตัวและใช้ประโยชน์จากคนรุ่นใหม่ที่มี ศักยภาพในการเป็นผู้นำ”
       
       “ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีดิจิตอล การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรในตลาดแรงงาน และนวัตกรรมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น อย่างรวดเร็ว ทำให้การพลิกโฉมโปรแกรมการพัฒนาผู้นำ การออกแบบโครงสร้างองค์กรใหม่ และการผลักดันวัฒนธรรมองค์กรที่มี พนักงานเป็นศูนย์กลาง ยิ่งมีความสำคัญสำหรับองค์กรมากขึ้นไปอีก ทั้งนี้ ก็เพื่อให้องค์กรยังคงรักษาความสามารถในการแข่งขัน ในตลาดเอาไว้ได้” นางสาวเวคฟีลด์ กล่าว
       
       ทางด้านผลการสำรวจในระดับโลกได้ให้ความสำคัญกับเรื่องการออกแบบ โครงสร้างองค์กร (Organizational Redesign) เป็นอันดับ แรก แต่เรื่องนี้ติดเพียง 1 ใน 5 อันดับแรกของผลสำรวจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เท่านั้น โดยกว่าครึ่งของผู้รับการสำรวจ (ร้อยละ 53) มองว่าองค์กรตัวเองยังไม่พร้อมที่จะรับมือกับเรื่องดังกล่าว แต่องค์กรในภูมิภาคนี้ก็เริ่มให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เพิ่มขึ้น
       
       นางสาวเวคฟีลด์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า “บริษัทระดับโลกหลายบริษัทกำลังปรับเปลี่ยนโครงสร้างองค์กร จากรูปแบบลำดับขั้น (Hierarchy) ตามสายงานไปสู่ “เครือข่ายของทีม” (Networks of Teams) ที่ผสานความร่วมมือระหว่างแผนกต่างๆ ส่งเสริมให้เกิดการ ทำงานที่มีความคล่องตัว ประสานความร่วมมือ และมุ่งเน้นที่ความต้องการของผู้บริโภคเป็นหลัก”
       
       “บรรดาผู้บริหารระดับสูงขององค์กรและผู้บริหารด้านทรัพยากรบุคคลใน ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จะต้องตามให้ทันกับการ เปลี่ยนผ่านจากโครงสร้างที่เป็นอยู่ไปสู่การทำงานที่เสริมสร้างการทำงานเป็น ทีม และมีความยืดหยุ่นในการทำงาน ซึ่งหมายความว่า องค์กรจะต้องปรับเปลี่ยนองค์ประกอบด้านการบริหารทรัพยากรบุคคลครั้งใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการบริหารค่าตอบแทน การบริหาร ผลการปฏิบัติงาน รวมทั้งสมรรถนะที่กำหนดเพื่อใช้เป็นพื้นฐานในการพัฒนาบุคลากร ซึ่งมีแนวโน้มที่จะเป็นงานระดับเข็นครกขึ้น ภูเขาของบริษัทส่วนใหญ่ในภูมิภาคนี้” นางสาวเวคฟีลด์ กล่าวทิ้งท้าย
       
       เจาะลึกผลสำรวจในประเทศไทย
       
       นางสาวเกสรา ศักดิ์มณีวงศา หุ้นส่วนที่ปรึกษาธุรกิจและผู้บริหารกลุ่มงานที่ปรึกษาด้านทรัพยากรบุคคล บริษัท ดีลอยท์ ประเทศไทย กล่าว ว่า จากผลการสำรวจที่ผ่านมาเรื่องผู้นำในองค์กรเป็นเรื่อง ที่ผู้บริหารเป็นกังวลและให้ความสำคัญมากขึ้นทั้งใน ระดับโลกและระดับภูมิภาค สำหรับประเทศไทย ผู้บริหารที่เข้าร่วมการสำรวจทั้งหมด (ร้อยละ 100) ให้ความสำคัญกับเรื่องผู้นำใน องค์กรเป็นอันดับแรก ซึ่งมากกว่าผลสำรวจจากทั่วโลกที่ให้ความสำคัญเรื่องนี้อยู่ที่ร้อยละ 89 และระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออก เฉียงใต้ที่ร้อยละ 97 อย่างไรก็ดี องค์กรในประเทศไทยมีเพียงร้อยละ 38 เท่านั้นที่ระบุว่ามีความพร้อมในการรับมือกับเรื่องนี้
       
       “องค์กรในประเทศไทยมองว่าเรื่องผู้นำเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งชี้ให้เห็นว่าประเทศไทยมีความต้องการคนที่แข็งแกร่งมากพอที่จะ สามารถนำพาคนทุกระดับในองค์กรได้ องค์กรในปัจจุบันเริ่มตระหนักว่าควรจะต้องระบุผู้ที่มีศักยภาพที่จะเป็นผู้ นำตั้งแต่ระยะต้น ของการทำงาน และเลื่อนตำแหน่งขึ้นไปสู่ตำแหน่งผู้นำโดยผ่านแผนการเฟ้นหาผู้สืบทอดที่ เหมาะสม”
       
       ในเรื่องการปรับเปลี่ยนโครงสร้างองค์กรนั้น ผู้บริหารระดับสูงในประเทศไทยก็ตระหนักถึงความสำคัญ ดังเห็นได้จากตัวเลขของผู้ ตอบแบบสำรวจของไทยที่อยู่ที่ร้อยละ 93 เมื่อเปรียบเทียบกับผลสำรวจของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งอยู่ที่ ร้อยละ 91 และผลสำรวจจากทั่วโลกอยู่ที่ร้อยละ 92 แต่กระนั้น เมื่อนำผลสำรวจมาพิจารณาก็พบว่าเพียงร้อยละ 43 ของผู้ตอบแบบสอบถาม ในประเทศไทย ที่มีความพร้อมถึงพร้อมมากที่จะรับมือกับความท้าทายเรื่องนี้
       
       นางสาวเกสรายังกล่าวเสริมว่า “การที่ประเทศไทยให้ความสำคัญกับแนวโน้มเรื่องโครงสร้างองค์กร แสดงให้เห็นว่าโครงสร้าง การบริหารแบบ Top-Down ที่เป็นลำดับขั้นนั้นกำลังจะค่อย ๆ หายไป และจะถูกแทนที่โดยโครงสร้างแบบทีมงานที่มีความเชื่อม โยงกัน (Networks of Teams) ซึ่งสามารถสร้างผลงานที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลที่ดีกว่า”


สำนักงานสอบบัญชี,#สอบบัญชี,สำนักงานบัญชี,#ทำบัญชี,#ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : กูรู เรื่องสำคัญ HR ให้คะแนนมากที่สุด สัมภาษณ์งาน ตอบให้โดนใจ

view