จากประชาชาติธุรกิจ
จากผลสำรวจ 2016 Asian Trailblazers Study : Masters of Multitasking and Trans-formation จัดทำโดย "วิลลิส ทาวเวอร์ส วัทสัน" บริษัทที่ปรึกษา โบรกเกอร์ และโซลูชั่นชั้นนำระดับโลก พบว่าในช่วง 3 ปีผ่านมา กลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ของไทยเข้าซื้อกิจการในต่างประเทศเป็นจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก และสหรัฐอเมริกา
โดยช่วงปี 2557 บริษัทไทยลงทุนรวมเกือบ 4,000 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐในแถบเอเชีย ซึ่งสูงกว่าตัวเลขเมื่อหลายปีก่อนกว่าเท่าตัว รวมถึงมีจำนวนบริษัทที่มีสำนักงานใหญ่ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก คิดเป็น 40% ของบริษัทที่อยู่ในทำเนียบ Fortune Global 500 ซึ่งสูงกว่าจำนวนบริษัทที่มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในทวีปอเมริกาเหนือ (30%) หรือในยุโรป (28%) และนับว่าเติบโตสูงมากเมื่อเทียบกับเมื่อ 10 ปีก่อนที่มีจำนวนเพียง 24% ในลิสต์เดียวกัน
จากข้อมูลดังกล่าว "พิชญ์พจี สายเชื้อ" กรรมการผู้จัดการ บริษัท วิลลิส ทาวเวอร์ส วัทสัน ประเทศไทย เปิดเผยว่า ในฐานะที่ถือได้ว่าเป็นบริษัทเอเชียผู้บุกเบิก หรือ Asian Trailblazers การจะก้าวเข้าไปเสี่ยงในพื้นที่ใหม่จำเป็นต้องเร่งผลักดันธุรกิจให้เดินหน้าด้วยการเน้นการปฏิบัติที่ใช้ได้จริงมีความคล่องตัวฉับไว รวมถึงการจัดลำดับความสำคัญ การเลือกจ้างคนภายนอกที่เหมาะสม และการเรียนรู้งานอย่างรวดเร็ว
"โดยคาดหวังการประสบความสำเร็จต่อการขยายธุรกิจในต่างประเทศ เพื่อเปิดโอกาสในการพัฒนาธุรกิจด้วยการเป็นผู้นำที่มีความหลากหลาย ซึ่งมองว่าปัญหาใหญ่ที่สุดคือเรื่องความเป็นผู้นำ และรูปแบบการทำงาน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญโดยตรงต่อการสร้างศักยภาพขององค์กรที่จะประสบความสำเร็จในการเป็นบริษัทชั้นนำระดับโลก"
ดังนั้นการจะก้าวสู่การเป็นบริษัทเอเชียผู้บุกเบิกจนประสบความสำเร็จ "พิชญ์พจี" บอกว่า จะต้องวางหมากทั้ง 6 ประการ ให้เป็นคีย์สู่การวางนโยบายและกลยุทธ์ขององค์กร ประกอบด้วย
หนึ่ง กลยุทธ์เพื่อก้าวสู่ระดับโลก
"ดิฉันมีความเชื่อว่าการยิงคำถามที่ถูกต้อง (ทำไม, ที่ไหน และอย่างไร) จะช่วยกำหนดกรอบการทำงานให้กับบริษัทเหล่านี้มองหาโอกาสการขยายธุรกิจในตลาดที่พัฒนาแล้ว รวมทั้งการเข้าสู่ตลาดใหม่ไปพร้อมกัน เพราะการเติบโตแบบก้าวกระโดดจำเป็นจะต้องมีกรอบการดำเนินธุรกิจที่ชัดเจน"
สอง การบริหารจัดการระดับโลก
ประเด็นนี้ถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับบริษัทข้ามชาติ ที่ต้องการจะเติบโตในตลาดใหม่ เพราะต้องยอมรับว่าการบริหารจัดการถือเป็นสิ่งที่ยาก และท้าทายที่สุดของบริษัทข้ามชาติ และบริษัทเอเชีย เพราะเป็นกลไกที่มีความสลับซับซ้อน ตั้งแต่การสร้างความสอดคล้องในการกำหนดกลยุทธ์ และบริหารจัดการระดับโลก ซึ่งบริษัทหลายรายยังคงดำเนินธุรกิจโดยไร้กรอบการบริหารจัดการระดับโลก ยิ่งทำให้เป็นการเพิ่มปัญหาที่ท้าทายมากขึ้นไปอีก
สาม การควบรวมกิจการ
สำหรับการเข้าซื้อกิจการในต่างประเทศดูเหมือนว่า ปัจจุบันบริษัทข้ามชาติจากทุกภูมิภาคมีจำนวนการควบรวมกิจการพอ ๆ กัน และคาดหวังที่จะได้เห็นการควบรวมกิจการมากขึ้นในอีก 3 ปีข้างหน้า ซึ่งแนวโน้มการเติบโตทางธุรกิจผ่านการควบรวมกิจการจะช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับขนาดของธุรกิจ และความสำเร็จในการทำตลาดด้วย
"จากเทรนด์ตอนนี้เห็นภาพอย่างชัดเจนว่าบริษัทเอเชียผู้บุกเบิกต่าง ๆ กำลังให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนแปลงลักษณะ และความเชี่ยวชาญในการเข้าซื้อกิจการ รวมถึงการบริหารจัดการภายหลังการควบรวมกิจการที่ดีขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้ดีขึ้นด้วยเช่นกัน"
สี่ การปรับทัศนคติด้านวัฒนธรรมองค์กร
"ต้องยอมรับว่าอุปสรรคอย่างหนึ่งทางวัฒนธรรมที่สำคัญคือภาษา ลักษณะความเป็นผู้นำ และรูปแบบการสื่อสารที่แตกต่างกัน ในบางครั้งความแตกต่างเหล่านี้รุนแรงมากเสียจนส่งผลต่อการเข้าซื้อกิจการในต่างประเทศ รวมถึงการมีโอกาสสูญเสียพนักงานที่มีความสามารถอีกด้วย ดังนั้น หากบริษัทสามารถรักษาสมดุล และมีวิธีการจัดการเรื่องเหล่านี้ดีพอจะรักษาคนเก่งไปพร้อม ๆ กับการฟิตองค์กรด้วยวัฒนธรรมที่มีอยู่ดั้งเดิมได้"
ห้า การพัฒนาภาวะผู้นำ
บริษัทข้ามชาติเอเชียบางแห่งมีโปรแกรมการพัฒนาภาวะผู้นำอย่างเป็นทางการ ซึ่งต่างจากบริษัทคู่แข่งในฝั่งตะวันตก ลักษณะดังกล่าวมีการเชื่อมโยงกันกับการเคลื่อนย้ายแรงงานทั่วโลกไม่เว้นแม้แต่ผู้นำ ยิ่งมีการขยายธุรกิจไปยังตลาดใหม่ จึงจำเป็นต้องถ่ายโอนผู้นำไปบริหารด้วย ดังนั้น หากบริษัทเอเชียผู้บุกเบิกต้องการจะประสบความสำเร็จจะต้องจัดโปรแกรมพัฒนาผู้นำอย่างจริงจัง เพราะวันนี้ต้องยอมรับว่าบริษัทเอเชีย และไทยเกิดปัญหาผู้นำไม่เพียงพอต่อการขยายธุรกิจ ซึ่งนี่ถือเป็นอีกหนึ่งความท้าทายลำดับต้น ๆ ของการขยายตลาดใหม่
หก ความหลากหลายและการเป็นส่วนหนึ่งในองค์กร
ผลการวิจัยพบว่าครึ่งหนึ่งของบริษัทข้ามชาติในเอเชีย มีแผนการจัดการเรื่องความหลากหลาย และการเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร โดยแผนจัดการความหลากหลายครอบคลุมเรื่องพื้นฐาน ไม่ว่าจะเป็นเพศ อายุ โปรแกรมการพัฒนาบุคลากร และวางเส้นทางความก้าวหน้าในสายอาชีพด้วย ซึ่งแผนนี้จะเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยสร้างการมีส่วนร่วมให้กับพนักงานในวันที่องค์กรก้าวข้ามไปเป็นผู้บุกเบิก
จากข้อสรุปทั้งหมด"พิชญ์พจี" วิเคราะห์เพิ่มเติมว่าในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัทข้ามชาติไทยค่อนข้างมีมุมมองที่จำกัด และประสบความยากลำบากในการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลง รวมถึงการคิดนอกกรอบด้วย
"โดยเฉพาะองค์กรที่มีรูปแบบการเป็นธุรกิจครอบครัว ซึ่งกำลังเผชิญกับการบริหารดูแล โดยผู้นำที่เป็นทายาทรุ่นที่สอง และสาม ดังนั้น การจะเป็นบริษัทระดับโลกอย่างแท้จริง จะต้องเอาชนะความท้าทายบางอย่างที่ฝังมากับพันธุกรรมทางวัฒนธรรมด้วย"
เพื่อนำไปสู่ความสำเร็จในฐานะบริษัทผู้บุกเบิกที่แข็งแกร่งท่ามกลางความเปลี่ยนแปลง และความท้าทายของโลกธุรกิจในอนาคต
สำนักงานสอบบัญชี,#สอบบัญชี,สำนักงานบัญชี,#ทำบัญชี,#ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน