สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

สุขภาพเรื่องใกล้ตัว! รู้ได้อย่างไรว่า ร่างกายกำลังเสื่อม

จากประชาชาติธุรกิจ

หลักแรกต้องเข้าใจว่าเหตุใดมนุษย์ควรให้ความสำคัญแก่ภาวะเสื่อม เพราะภาวะเสื่อมเป็นปัจจัยสำคัญที่นำมาซึ่งโรคเรื้อรังต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นมะเร็ง หัวใจขาดเลือด ความดัน เบาหวาน

สาเหตุของความทุกข์ทรมานและการเสียชีวิตของผู้คนทั้งวัยอันควรและไม่ควร ทั้งยังเป็นเหตุของการเสียค่าใช้จ่าย งบประมาณของตนเองและประเทศจำนวนมหาศาล อันเนื่องมาจากคุณภาพชีวิตที่เสียไป ทำให้ไม่สามารถสร้างรายได้ให้ดีดังเดิมแล้ว ยังต้องมาเสียค่าใช้จ่ายในเรื่องการรักษาและการดูแล ดังนั้นเพื่อป้องกันสิ่งเลวร้ายต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้น คนเราจึงควรรู้เท่าทันความเสื่อม และหาทางระงับหรือต่อต้าน ฟื้นฟูสุขภาพให้แข็งแรงเพื่อป้องกันโรคร้ายที่เป็นภัยทั้งหลายไม่ให้เกิดขึ้น

แล้วทำอย่างไรจึงจะรู้ว่าร่างกายเสื่อมหรือไม่ และจะสามารถตรวจพบความเสื่อมโดยวิธีใด

แพทย์หญิงมะลิ วิโรจน์สกุลชัย ประธานกรรมการ โรงพยาบาลสหวิทยาการมะลิ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ชะลอวัยและต่อต้านความเสื่อม ให้ความรู้ถึงเบื้องต้นถึงวิธีการตรวจค้นหาภาวะเสื่อมในร่างกายว่า โดยส่วนมากมักเกิดกับผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป แต่อาจจะพบในผู้ที่อ่อนวัยกว่านี้ก็เป็นได้

ภาวะเสื่อมมากน้อยขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล อันมีสาเหตุเกิดจากองค์ประกอบที่ซับซ้อนหลายอย่าง ตั้งแต่เรื่องของกรรมพันธุ์ พฤติกรรมชีวิตประจำวัน และในที่สุดเป็นเรื่องฮอร์โมนแต่ละชนิดลดลงเมื่ออายุเพิ่มขึ้น เป็นต้น

สำหรับการค้นหาและประเมินความเสื่อมสามารถทำได้โดยวิธีง่าย ๆ เช่น การประเมินจากรูปร่างหน้าตาและอาการภาวะเสื่อม อาทิ อ่อนเพลียไม่มีแรง อ้วนลงพุง น้ำวุ้นในตาเสื่อม นอนไม่หลับ ความมีชีวิตชีวาอ่อนเยาว์หายไป เป็นต้น อาการเสื่อมเหล่านี้เป็นอาการที่บุคคลนั้น ๆ สามารถรับรู้ได้และปรากฏออกมาให้เห็นชัดเจน ตรวจประสิทธิภาพของสมองในเรื่องเกี่ยวกับความจำการตัดสินใจ (Cognitive Function) และในเรื่องเกี่ยวกับการเคลื่อนไหว (Motor) และความรู้สึก (Sensory) ไปจนถึงการตรวจวัดระดับฮอร์โมน ยีน อนุมูลอิสระ หรือระดับแร่ธาตุต่าง ๆ ในร่างกาย โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

"แพทย์บางรายให้ความสนใจต่อความเสื่อมน้อย ขณะเดียวกันการตรวจคัดกรองทั่วไป เน้นไปที่ค้นหาโรค แต่ไม่ได้เน้นการค้นหาความเสื่อม ทำให้ผู้ที่มีอาการผิดปกติอันเนื่องจากภาวะเสื่อมอาจไม่พบความผิดปกติที่บ่ง ชี้ว่า

เป็นโรคแพทย์ส่วนมากจึงลงความเห็นว่าไม่เป็นอะไรมาก หรือคิดไปเองหรือให้ยอมรับสภาพ ทำให้ผู้มีอาการเสื่อมได้แต่ทำใจหรืออดทน ไม่ได้ใส่ใจที่จะแก้ไข พึ่งยาแก้ปวด ยาคลายเครียดไปเรื่อย ๆ ณ ระยะนี้หมอขอเรียกว่าเป็นระยะแฝงก็ได้ ดังนั้นภาวะเสื่อมเหล่านี้จึงไม่ได้ถูกแก้ไขและยังแฝงอยู่ในร่างกาย ในที่สุดภาวะเสื่อมเหล่านี้เป็นมากขึ้นจนเกิดเป็นพยาธิสภาพกลายเป็นโรค เรื้อรังตามมา ระยะนี้จะกลับสู่ปกติยาก" แพทย์หญิงมะลิเผย

นอกจากนี้ แพทย์หญิงมะลิยังเสริมเพิ่มเติมว่า ภาวะเสื่อมหรือระยะแฝงเป็นระยะที่สามารถรักษาให้หายกลับไปเหมือนเดิมได้ โดยเฉพาะในคนอายุน้อยกว่า 40 ปี ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพก็ได้ผลแล้ว เช่น ลดน้ำหนักอย่างถูกวิธี ลดความเครียด หาเวลาออกกำลังกายมากขึ้น

มีสุขอนามัยที่ดี ฯลฯ แต่ถ้าเป็นคนที่อายุมากกว่า 40 ปี การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพยังคงไม่เพียงพอ ต้องให้ฮอร์โมนชดเชยในรายที่ตรวจว่าระดับฮอร์โมนในร่างกายต่ำกว่าเกณฑ์ร่วม กับการให้อาหารเสริม และในรายที่สูงอายุจนอวัยวะมีความเสื่อมมาก การใช้เซลล์บำบัดซึ่งจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ มีชื่อเรียกทางวิชาการว่า Regeneration Med (Anti-Aging) เป็นนวัตกรรมใหม่เพื่อลดความเสื่อมของร่างกาย

เมื่อนำเอาหลักการใหม่นี้มาต่อยอดร่วมกับการรักษาแผนปัจจุบันจะทำให้การรักษาคนไข้โรคเรื้อรัง ต่าง ๆ ได้ดีขึ้น ลดเป็นโรคระยะเริ่มต้น ทั้งยังมีโอกาสหายขาด โดยการผสมผสานเวชศาสตร์ ต่อต้านความชราร่วมกับแพทย์แผนปัจจุบัน เพื่อดูแลแบบองค์รวมนี้ ก็คือ สหวิทยาการหรือแพทย์ผสมผสาน (Interdisciplinary or Integrative Medicine) นั่นเอง


สำนักงานสอบบัญชี,#สอบบัญชี,สำนักงานบัญชี,#ทำบัญชี,#ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : สุขภาพเรื่องใกล้ตัว รู้ได้อย่างไร ร่างกายกำลังเสื่อม

view