ขนลุก! ภาพประวัติศาสตร์ ปชช.แห่ร้องเพลงสรรเสริญฯ แน่นท้องสนามหลวง “แอฟ” สะอื้น “พระองค์ท่านเป็นพระราชาผู้มีแต่ให้
จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์
เผยภาพประวัติศาสตร์ ปชช. แห่ร้องเพลง “สรรเสริญพระบารมี” ถวายอาลัยพ่อหลวงดังกึกก้องท้องสนามหลวง “แอฟ ทักษอร” สะอื้นไห้ พระองค์ท่านเป็นพระราชาผู้มีแต่ให้ สัญญาจะทำหน้าที่ของตนเองให้ดี และจะสอนลูกสาวให้ดำเนินชีวิตตามรอยเท้าพ่อหลวง “แก้ม เดอะสตาร์” เผยแค่ได้มาก็ภูมิใจ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนและคนบันเทิงรวมพลังร่วมร้องเพลง “สรรเสริญพระบารมี” น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณและร่วมถวายความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บริเวณท้องสนามหลวง จนเนืองแน่นแทบไม่มีที่ยืน โดยหนึ่งในคนบันเทิงที่ร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี คือ นางเอกดังช่อง 3 “แอฟ ทักษอร เตชะณรงค์” ซึ่งเจ้าตัวได้เผยความรู้สึกทั้งน้ำตา ว่า พ่อหลวงคือพระราชาผู้มีแต่ให้ สัญญาจะสอนลูกสาวให้เดินตามรอยเท้าพ่อหลวง
“ก็รู้สึกตื้นตันมาก ตอนแรกเราก็คิดไว้ก่อนว่าจะมาเจอภาพคนเยอะ ๆ พอมาเห็นบรรยากาศจริง ก็รู้สึกได้ถึงพลัง ซึ่งไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าจะเห็นพลังของมวลชนขนาดนี้ มันเป็นพลังของคนไทยที่รวมใจกัน แม้ทุกคนจะรู้ว่าเป็นจุดเล็ก ๆ แต่ก็พร้อมใจกันมา กว่าจะเดินมาถึงจุด ๆ นี้ได้ มันก็ยากลำบาก แต่ทุกคนก็สามัคคีมารวมตัวกัน เป็นห่วงเป็นใยช่วยเหลือซึ่งกันเป็นอย่างดี”
“ในขณะที่ร้องเพลงอยู่ แอฟมีความรู้สึกว่าท่านกำลังมองพวกเราอยู่ แอฟ เชื่อว่า บารมีของพระองค์ท่าน ยังคงคุ้มครองเราอยู่ และยังคงเฝ้ามองดูว่าประชาชนของท่านเป็นยังไง วันนี้น่าจะเป็นอีกวันหนึ่ง ที่ได้เห็นภาพแห่งความน่าภูมิใจที่ทุกคนรวมพลังกัน ให้ท่านเห็นถึงความรัก และความสามัคคีของคนไทย ถ้าเราคนไทยนึกถึงพระองค์ท่าน ก็คงจะนึกถึงพระราชาผู้เป็นผู้ให้ เป็นผู้นำที่ดีและเสียสละทุกสิ่งทุกอย่าง เพื่อที่จะให้คนไทยมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น”
สะอื้นไห้ สัญญาจะทำหน้าที่ตัวเองให้ดี และจะสอนลูกสาวให้ดำเนินชีวิตตามรอยเท้าพ่อหลวง
“ทุก ๆ คำสอนที่ท่านพระราชทานให้กับประชาชนในช่วงที่ผ่านมา แอฟ มองว่า ท่านเป็นเหมือนนักปราชญ์ แนะนำแนวทางการดำเนินชีวิตให้กับชาวไทย ซึ่งสามารถใช้ได้จนถึงปัจจุบัน แอฟ เชื่อว่า ถ้าทุกคนที่ทำตามหลักคำสอนท่าน สังคมไทยก็จะเป็นสังคมที่ดี สามารถเจริญรุ่งเรืองต่อได้ในอนาคต ในฐานะพสกนิกรชาวไทยคนหนึ่ง ลูกคนนี้ก็มีความรักพระราชาพระองค์นี้มาแต่เกิด ลูกคนนี้สัญญาว่าจะทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด (สะอื้นไห้) จะทำประโยชน์เพื่อสังคม และสอนลูกสาวของแอฟ คือ น้องปีใหม่ ให้ดำเนินชีวิตตามรอยเท้าของพ่อหลวงต่อไป”
“เมื่อเราสูญเสียผู้นำที่ยิ่งใหญ่ของเราไป คนก็มีความเสียใจเป็นเรื่องธรรมดา แต่แอฟคิดว่า พระองค์ท่านก็อยากจะให้เราเปลี่ยนความโศกเศร้านี้เป็นพลังบวก ต่อไปนี้ก็ช่วยกันพัฒนาตัวเองและสังคมไทยให้ดียิ่งขึ้นไป”
ด้าน “เปรี้ยว ทัศนียา” นางเอกวิก 7 สี เผยว่า ตนน้ำตาไหล ตื้นตันใจคนไทยร่วมร้องเพลง “สรรเสริญพระบารมี”
“วันนี้มาด้วยใจจริง ๆ และรู้สึกปลื้มใจที่ได้ร้องเพลงร่วมกับคนไทยทุก ๆ คน ยิ่งเห็นภาพคนไทยมาร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีร่วมกันก็รู้สึกตื้นตันใจ ชื่นใจที่เห็นคนไทยสามัคคีกันขนาดนี้ การได้ยินเพลงสรรเสริญดังขึ้นจากเสียงร้องคนไทย ฟังแล้วน้ำตาไหลเลย หนูว่าพระองค์ท่านเองก็ได้ยินความรักและสามัคคีของพวกเรา”
นักร้องนักแสดงสังกัดอาร์เอส “เอี๊ยง สิทธา” สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ไม่ลืมแก่นคำสอนของพ่อหลวง อยากให้คนไทยทุกคนรักกัน
“ผมรู้สึกเหมือนประชาชนคนไทยทุกคนที่เกิดมาบนแผ่นดินไทยเราสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านอยู่แล้วไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวที่พ่อแม่ได้บอกต่อกันมาหรือสิ่งที่เราเห็นจากสื่อต่าง ๆ ผมรู้สึกว่าพระองค์ท่านเสียสละมากที่สุดแล้วในประเทศนี้ การที่จะสอนคนได้ดีที่สุดก็คือการทำเป็นตัวอย่าง และผมก็เชื่อว่าสิ่งที่พระองค์ท่านทำมาทุกอย่างเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุด เราไม่ต้องไปมองใครไม่ต้องสงสัยว่าใครจะเป็นยังไงให้เราดูพ่ออย่างเดียว ทำตามแบบพระองค์ท่าน คิดดี ทำดี พูดดี แบ่งปันสิ่งดี ๆ ให้กับเพื่อนร่วมประเทศ ร่วมโลกไปเรื่อย ๆ นั่นถึงจะเป็นแก่นคำสอนของพ่อที่ว่าให้คนไทยทุกคนรักกันและสามัคคีกัน”
นักร้องสาวเสียงทรงพลัง “แก้ม เดอะสตาร์” แม้ไม่ได้มาร่วมร้องเพลง แต่แค่ได้มาตนก็ภูมิใจ
“ความรู้สึกดีมากจริง ๆ นะ และวันนี้คนเยอะมาก เราแค่ได้มาเราก็ภูมิใจแล้วนะ ถึงแม้ว่าวันนี้เราอาจจะไม่สามารถเข้าไปที่ในท้องสนามหลวงนะ ได้มาร่วมงานเราเห็นพลังของคนไทยแล้ว แก้มมาถึงศาลหลักเมืองเวลา 11.00 น. จริง ๆ มาวันนี้อยู่ตรงไหนก็ได้แต่อาจจะไม่ได้ยินเพลงเท่านั้นเอง วันนี้คนมาด้วยใจกันจริง ๆ ไม่เป็นไรหรอก อยู่ตรงไหนก็เหมือนกัน ถือว่าเราเป็นส่วนเล็ก ๆ ที่ได้ส่งพลังไปตรงที่ร้องเพื่อในหลวง รัชกาล ๙”
“เพลงสรรเสริญวันนี้มีความพิเศษอย่างมากเลยนะ เพราะว่ามันมาจากใจของประชาชนทุกคนตรงนี้ ถึงแม้เราไม่ได้ร้องแต่เรามาวันนี้มันพิเศษมาก”
“ท่านมุ้ย” ทรงน้ำเนตรคลอ ปชช. รวมพลังร้องเพลง “สรรเสริญพระบารมี” ก้องสนามหลวง ลุ้นทำลายสถิติโลก
โดย MGR Online
“ท่านมุ้ย” ทรงน้ำเนตรคลอ ปชช. รวมพลังร้องเพลง “สรรเสริญพระบารมี” ที่ท้องสนามหลวงเยอะกว่าที่คาด ลั่นเป็นครั้งสุดท้ายทำงานถวาย “ในหลวง ร.๙” ลุ้นเป็นภาพประวัติศาสตร์ทำลายสถิติโลก เตรียมออกอากาศทางทีวีทุกช่อง จนกว่าจะเปลี่ยนแผ่นดิน ด้าน “คุณแมงมุม” เผย ถ่ายทำทั้งหมด 4 รอบ ใช้กล้องไม่ต่ำกว่า 60 เครนอีก 2 ตัว ทุกคนมาด้วยใจไม่มีค่าจ้าง
วันที่ 22 ต.ค. ถือเป็นวันประวัติศาสตร์ในการบันทึกภาพและเสียง รวมพลังคนไทยร้องเพลง “สรรเสริญพระบารมี” น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณและร่วมถวายความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บริเวณท้องสนามหลวง และรอบพระบรมมหาราชวัง โดยมี “อ.สมเถา สุจริตกุล” รับหน้าที่อำนวยการเพลง “ท่านมุ้ย ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล” ทำหน้าที่ถ่ายทำบันทึกภาพและเสียง และหนึ่งในนั้นยังมี “คุณพลอยไพลิน เจนเซ่น” พระธิดาคนโตใน ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี รวมอยู่ด้วย ซึ่งยังต้องลุ้นว่าการรวมพลังในวันนี้จะสามารถทำลายสถิติโลกกินเนสส์บุ๊กที่บังกลาเทศ ซึ่งมีผู้ร่วมขับร้องจำนวน 250,000 คน ได้หรือไม่
ในส่วนศิลปินและนักแสดงที่มาร่วมงานด้วย อาทิ แอน ทองประสม, มิ้นต์ ชาลิตา, โดม จารุวัฒน์, แก้ม วิชญาณี, แกงส้ม, แอฟ ทักษอร, เด่นคุณ, เดียร์น่า, เต้ย พงศกร, นิว วงศกร, เชน ณัฐวัฒน์, เปรี้ยว ทัศนียา, เบนซ์ AF12 ฯลฯ
เมื่อเวลา 11.00 น.“ท่านมุ้ย” ประทานสัมภาษณ์ถึงงานในวันนี้ ทรงน้ำเนตรคลอเผย ปชช. มาเยอะกว่าที่คาด ทุุกคนมาด้วยใจ ไม่แบ่งค่าย ไม่มีพรรคการเมือง และถือเป็นครั้งสุดท้ายทำงานถวายในหลวง รัชกาลที่ ๙
“วันที่พระองค์ท่านสวรรคต ผมก็มีความคิดจริง ๆ แล้วในโรงภาพยนตร์มีเพลงสรรเสริญพระบารมี แต่ว่าเพลงสรรเสริญพระบารมีจะเปลี่ยนแผ่นดิน ผมว่าโอกาสที่เราจะฟังเพลงสรรเสริญพระบารมีของรัชกาลที่ ๙ มีอยู่ช่วงสุดท้ายคืออีกไม่กี่วันนี้เองนะครับ ผมก็เลยมีความคิดว่าเป็นไปได้มั้ยที่เราจะให้ประชาชนร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีร่วมกัน”
“ตอนแรกเรากะว่าจะมีเครื่องดนตรี 2 - 3 ชิ้น และคนสัก 1 พันคน ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะมีเครื่องดนตรีถึง 400 ชิ้นและก็ไม่คิดด้วยว่าจะมีประชาชนมารวมตัวกันมากขนาดนี้นะครับ ต้องขอบอกก่อนว่าที่เขามากันด้วยใจจริง ๆ ไม่มีการเกณฑ์คนมา หรือบังคับให้เขามากัน ทุก ๆ คนยืนตากแดดกันตั้งแต่ 10 โมงเช้าจนถึงตอนนี้”
“โดยเพลงนี้จะเป็นเพลงสรรเสริญพระบารมีที่ทุกคนร้องพร้อมกัน และอาจจะเป็นการทำลายสถิติโลกที่มีคนร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีมากเป็นประวัติศาสตร์ ไม่มีพรรคการเมือง ไม่มีค่าย ดารามาช่วยกันคนละไม้คนละมือโดยที่เราไม่ได้ไปบังคับเขา ทุก ๆ คนมากันด้วยใจจริง ๆ ไม่มีใครคิดเงิน รวมทั้งผู้สร้างหนังเกือบ 1 พันคน ที่เดินทางมาช่วยกัน”
“จำนวนคนเรากะเกณฑ์โดยการใช้โดรนถ่ายภาพ และก็กะด้วยสายตา ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าเป็นจำนวนเท่าไหร่ ส่วนเรื่องอุปกรณ์การถ่ายทำทุกคนก็เอามาช่วยเหลือกันโดยที่ไม่มีใครคิดเงิน แต่ผมก็ไม่ทราบนะครับว่ามีใครมาช่วยบ้าง เพราะไม่ได้มีใครมาบอกรายละเอียดเหมือนกัน วิดีโอตัวนี้กำหนดไว้ว่าจะออกอากาศเป็นอาทิตย์หน้าครับ แต่ยังไม่ทราบเหมือนกันว่าจะเป็นวันที่เท่าไหร่
น้ำตาคลอทุกคนทุกค่ายมาด้วยใจไม่มีแบ่งแยก อยากให้ประชาชนช่วยกันร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีถวายในหลวง
“ผมรู้สึกไม่เชื่อเลยว่าจะมีวันนี้ จะมีคนมาได้มากมายขนาดนี้ และเราจะถ่ายกันไปเรื่อย ๆ จนถึงตอนเย็นเลยครับ เพราะช่วงเย็นเราจะให้ทุกคนจุดเทียนเหมือนกับเป็นดวงตาล้านดวง และให้เห็นว่าทั้งหมดนี้คือประชาชน”
“ผมคิดว่าถ่ายทำไม่ยากเลยครับ เป็นสิ่งที่ง่ายที่สุดจนผมเองก็ไม่อยากจะเชื่อว่าจะมีคนมาช่วยกันมากมายขนาดนี้ ทุกคนทุกค่ายช่วยกันไม่มีการแบ่งแยก (น้ำเนตรคลอ) สิ่งที่จุดประกาย (เสียงสั่น) แนวความคิดคือ เราต้องการให้ประชาชนช่วยกันร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ถวายให้กับในหลวง และก็วันนี้ผมเองก็ได้ลูกสาวมาช่วยกันทำงานด้วย ต้องใช้อุปกรณ์และเทคนิคพิเศษมาช่วยเสริม คือ คุณไม่มีทางสามารถถ่ายประชาชนทั้งหมดได้ แต่เราก็ได้มีการขออนุญาตในการใช้โดรนด้วย”
“เดี๋ยวพอเสร็จจากการซ้อมช่วงเช้า ก็จะเริ่มถ่ายทำกันทันทีเลยครับ ซึ่งในส่วนของประชาชนก็อาจจะต้องให้ความร่วมมือด้านการขับร้องบทเพลงสรรเสริญพระบารมี ทุกอย่างสดหมด เรามีเครื่องบันทึกเสียงไมโครโฟนทั้งหมดตรงนี้ 25 ตัว แล้วมีมิกเซอร์เหมือนกับคอนเสิร์ตเลย ทุกอย่างสดหมด ตอนนี้ทุกคนกำลังซ้อมกันอยู่ เราต้องการแม็กซิมัมของประชาชน ไม่ได้เจาะเฉพาะกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ถ่ายไปทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นนักดนตรี ประชาชน เราต้องการภาพมุมกว้าง”
“ผมเลือกที่สนามหลวงไม่ต้องการจะสื่ออะไร ต้องการให้ประชาชนมาร่วมร้องเพลง สำหรับความยากในการทำงานผมเองไม่รู้เหมือนกัน มันเป็นอะไรที่ยากมาก ๆ เลย มุมกล้องโน้น มุมกล้องนี้ แดดร้อน ต้องขอบคุณทุก ๆ คนที่ร่วมใจกันมา ร่วมใจร่วมแรงกันร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี หวังว่า พอออกไปฉายในโรงภาพยนตร์แล้ว ทุกคนคงจะยืนถวายความเคารพ เพราะครั้งนี้คงเป็นครั้งสุดท้ายที่เราจะได้ทำงานถวายในหลวง”
ยันไม่เสียเงินสักบาท ออนแอร์อาทิตย์หน้าจนกว่าจะเปลี่ยนแผ่นดิน
“เรื่องงบประมาณไม่ได้เสียเงินเลยแม้แต่บาทเดียว ทุกคนร่วมใจกันมาเอง ผมเองก็ไม่ได้ขอความสนับสนุนจากภาครัฐเลย ไม่เคยขอสปอนเซอร์จากใคร ตรงนี้คืองานของประชาชนทุกคน ดาราศิลปินจากแต่ละค่าย สื่อจากทุกสำนักพร้อมใจกันมาโดยไม่แบ่งช่องแบ่งค่าย เริ่มฉายอาทิตย์หน้า จนกว่าจะเปลี่ยนแผ่นดิน ส่วนคุณพลอยไพลินจะร้องเพลงทั้งสองรอบหรือเปล่าขึ้นอยู่กับประชาชน อาจารย์สมเถา พาร้อง 10 รอบ ผมก็ถ่าย 10 รอบ ในเวอร์ชันนี่จะเห็นภาพพระราชกรณียกิจที่เราไม่เคยเห็น เพราะในหลายพระราชกรณียกิจคนไทยไม่เห็นมาก่อน ตัดอย่างนี้ดีกว่าตัดไปคงร้องไห้ไป”
“คุณแมงมุม หม่อมราชวงศ์ ศรีคำรุ้ง ยุคล” เผยถ่ายทำรอบเช้า 3 รอบ กลางคืน 1 รอบ แค่จุดเทียนไม่มีจัดไฟ ให้ภาพเล่าเรื่อง ทุกคนมาด้วยใจไม่มีค่าจ้าง
“ในส่วนของคุณพลอยไพลินจะมาร่วมร้องกี่รอบ แมงมุมไม่แน่ใจ เพราะเป็นส่วนของ อ.สมเถา แต่ได้รับแจ้งมาว่าคุณพลอยจะมา แต่ว่าเราคอนเฟิร์มไม่ได้ ท่านมาเป็นการส่วนพระองค์ เมื่อวานไม่ได้มีซ้อมที่นี่นะคะ แค่มีการเตรียมตั้งไฟ เตรียมสถานที่ ที่มีภาพท่านมาซ้อมร้องเพลง อันนั้นไม่ทราบค่ะ ไม่ใช่ทีมของแมงมุม”
“จะเริ่มอีกประมาณ 15 นาที (ประมาณ 12.00 น.) เพราะว่าตอนนี้การสื่อสารใช้ไม่ค่อยได้ เราก็ต้องใช้การกำหนดเวลา 12.45 น. กล้องทุกตัวประจำจุด กล้องทุกตัวเริ่มถ้าเกิดพูดเป็นเวลา เรียกว่าถ่ายตั้งแต่ 13.00 - 14.00 น. มีทั้งหมด 3 รอบ 13.00 - 14.00 น., 14.00 - 15.00 น. และ 16.00-17.00 น. และไปอีกทีคือ รอบ 22.00 - 23.00 น. ตอนกลางคืนไม่มีวงออเคสตร้า เราโฟกัสแค่ประชาชนอย่างเดียว มีการจุดเทียนและความรู้สึกที่ประชาชนมีต่อในหลวงของเรา ที่ให้มีการจุดเทียนเพราะมันมีเรื่องของภาพ เราไม่อยากจัดไฟ เราพยายามทำอะไรให้ดูเป็นธรรมชาติที่สุด จริงที่สุด ซึ่งจะร้องรอบเดียว แต่กล้องเรามีทั้งหมด 50 ตัว เราก็จะพยายามเก็บให้ได้มากที่สุด”
“ตอนที่เริ่มจัดเราก็ไม่ทราบว่าคนจะมาเท่าไหร่ แต่เราก็คิดว่าประชาชนอยากที่จะมาอยู่ตรงนี้ อยากเป็นส่วนหนึ่งที่เราทุกคนได้ทำถวาย ภาพที่เราเห็นตอนซ้อมทุกคนร้องจากใจ เหมือนที่ทุกคนมาด้วยใจ จะร้อนไหน ให้ทำอะไรเขาก็ให้ความร่วมมือ 100% เราอยากให้ทุกคนเท่าเทียมกันจึงไม่มีการแบ่งโซน เพราะฉะนั้นคนที่มารอตั้งแต่เมื่อคืนเขาก็จะได้อยู่หน้าที่สุด”
“อยากขอบคุณทีมงาน ไม่ว่าจะเป็นทั้งรัฐและเอกชน อาสาสมัคร ที่อดทนและทำทุกอย่างเพื่อให้งานชิ้นนี้มันเสร็จ ทุกคนใจเย็นไม่มีบ่น ตั้งแต่ทำงานมานี่เป็นครั้งแรกที่ไม่มีใครร้องว่าเหนื่อย ไม่มีใครทะเลาะกันเลย ประชาชนทุกคนก็มีความสุขที่ได้มาร่วม อยากให้ประชาชนเข้ามาร่วมกันมากกว่านี้ แต่สถานที่มีจำกัดจริง ๆ ขอโทษด้วยที่ไม่สามารถให้เข้ามาได้ ก็ดูได้จากในทีวีทุกช่อง และโรงหนังทุกโรงในประเทศไทย หวังว่าอาทิตย์หน้าคงจะได้ชม”
“กรณีกินเนสส์บุ๊กมาเก็บสถิติก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ ส่วนตัวดูแต่โปรดักชันอย่างเดียว กล้องบอกไม่ได้ว่าใช้กี่ตัว เพราะมีอาสาสมัครมาเพิ่ม ก็คงไม่ต่ำกว่า 60 ตัว เครน 2 ตัว งานนี้ไม่มีค่าจ้างใด ๆ เลย ทุกคนทำด้วยใจ ทีมงานตอนนี้ 1,300 ชีวิต ไม่รวมภาพนิ่งและทีมอาหาร ไม่รวมทีมอาสาสมัคร ไม่รวมทีมซาวนด์ เวที 27x28 เมตร”
70 ปีที่ “ในหลวง” ทรงงานหนักเพื่อพสกนิกรชาวไทย “นิว วงศกร” ภูมิใจได้เป็นส่วนหนึ่งร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี
“ในใจลึก ๆ ผมก็คาดหวังว่าจะให้เป็นงานอื่น ที่เห็นคนไทยมาแสดงความรัก ความจงรักภักดีที่มีต่อพระองค์ท่าน ไม่อยากให้เป็นโอกาสแบบนี้เลย ในเมื่อเหตุการณ์เป็นแบบนี้เราก็ต้องยอมรับความจริง สิ่งที่เราทำได้วันนี้ มันเป็นสิ่งเล็ก ๆ ที่เราจะแสดงออกถึงความจงรักภักดี ความซาบซึ้งที่มีต่อพระองค์ท่าน ซึ่งมันไม่ได้สักเสี้ยวหนึ่งที่พระองค์ท่านทำเพื่อคนไทย แต่มันก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย แล้วผมก็เห็นคนเดินทางเข้ามาจากทั่วประเทศ มีอีกหลายคนทีิ่อยากมา แต่มาไม่ได้ก็มี”
“ระหว่างการเดินทางมาก็ได้เห็นคนช่วยเหลือซึ่งกันและกัน คนไทยจิตอาสาก็มาช่วยกันในวิธีต่าง ๆ คอยดูแลซึ่งกันและกัน ซึ่งเป็นภาพที่ไม่ได้เห็นคนไทยรักกันและช่วยเหลือซึ่งกันและกันแบบนี้มานานแล้ว รู้สึกว่านี่คงเป็นสิ่งที่พระองค์ท่านคาดหวังเอาไว้ว่าจะได้เห็นคนไทยรักกันและมีความสุข ถึงวันนี้พระองค์ท่านไม่อยู่แล้ว แต่เชื่อว่าพระองค์ท่านจะรับรู้ได้ สิ่งที่พระองค์ท่านพยายามทำตลอดระยะเวลาการครองราชย์ ที่ท่านทรงงานมา 70 ปี เห็นแล้วว่าคนไทยเริ่มตระหนักในคำสอนและน้อมนำเอามาปฏิบัติตาม ผมก็คาดหวังว่ามันจะไม่หายไป จะเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ ผ่านไปอีก 10 ปี 20 ปี ก็ไม่อยากให้ลืมคำสอนของพระองค์ท่าน สอนลูกสอนหลายเรา อย่างน้อยผมคนหนึ่งล่ะจะบอกลูกบอกหลานว่าเราเกิดในสมัยรัชกาลที่ ๙ ทรงเป็นกษัตริย์ที่ไม่มีความสบาย ทรงทำงานหนักตลอดระยะเวลาการครองราชย์ ห้องทำงานของพระองค์ท่านคือสถานที่ต่าง ๆ ในประเทศไทย”
“ตลอดเวลาที่ผมทำงานถ่ายละครตามต่างจังหวัด ผมรู้สึกว่าลำบากไม่อยากจะมาแล้ว แต่พอผมได้เห็นพระราชกรณียกิจของพระองค์ท่าน พระองค์ท่านทำเพื่ออะไร พระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ ท่านทรงเสวยสุขก็ได้ แต่พระองค์ท่านทำทุกอย่าง เพราะพระองค์ท่านรักพวกเรา”
“เบนซ์ จิรโรจน์ ศรุณานิธิโรจน์ (Af12)” เชื่อจะเป็นภาพประวัติศาสตร์ที่สามารถพูดได้ว่าเรามีพระมหากษัตริย์ที่มีประชาชนรักมากที่สุด
“สิ่งแรกผมภูมิใจนะ ที่เห็นคนไทยสามัคคีกันเพื่อในหลวงของเราเป็นภาพประวัติศาสตร์มากในวันนี้ กับการเตรียมตัวเรื่องร้องเพลงสรรเสริญ จริง ๆ เพลงนี้เราก็ร้องกันมาตั้งแต่เด็กอยู่แล้ว วันนี้ก็จะเน้นในเรื่องของเครื่องแต่งกายให้สุภาพและเรียบร้อย ถึงแม้ว่าวันนี้ประชาชนเยอะ ผมมองว่าเราอยู่ตรงไหนก็ได้นะ”
“สำหรับเบนซ์สมัยก่อนเบนซ์ประกวดร้องคอรัสเพลงสรรเสริญด้วย ทุกครั้งที่ได้ร้องเพลงนี้คุณครูจะบอกเสมอว่าร้องเพลงให้พระองค์ท่าน เป็นเพลงเพื่อแสดงให้เห็นถึงความจงรักภักดีที่มีต่อพระองค์ท่าน สำหรับวันนี้พิเศษกว่าเดิม เนื่องจากประชาชนคนไทยมาร้องกันเยอะมาก มาร่วมพลังกัน เป็นภาพประวัติศาสตร์ที่เราสามารถพูดได้ว่าเรามีพระมหากษัตริย์ที่มีประชาชนรักมากที่สุด”
“เอก สรพงษ์” รับคำสั่ง “ท่านมุ้ย” สร้าง “พระนอน” ถวายบูรพมหากษัตริย์ ต้องเสร็จภายใน 10 ปี
โดย MGR Online
“เอก สรพงษ์” เผยเกิดมา 67 ปี เพิ่งเคยเห็นภาพคนมารวมตัวร้องเพลง “สรรเสริญพระบารมี” แน่นท้องสนามหลวง ล่าสุด รับคำสั่งจาก “ท่านมุ้ย” สร้าง “พระนอน” ยาว 99 เมตร ถวายบูรพมหากษัตริย์สยามประเทศทุกพระองค์ คาดสร้างเสร็จไม่เกิน 10 ปี
มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในประวัติศาสตร์ ชาวไทยรวมพลังร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณและอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สำหรับนักแสดงรุ่นใหญ่ “เอก สรพงษ์ ชาตรี” งานนี้เจ้าตัวเปิดใจมีโอกาสเข้าเฝ้าเบื้องพระยุคลบาทในหลวง รัชกาลที่ ๙ หลายครั้ง และล่าสุด “ท่านมุ้ย หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล” รับสั่งให้สร้างพระนอน ยาว 99 เมตร ถวายบูรพมหากษัตริย์สยามประเทศทุกพระองค์
“บรรยากาศในวันนี้ผมมาในฐานะติดตามท่านมุ้ย ท่านมีทีมงานเยอะ เขาประชุมงานกันเป็นอาทิตย์แล้ว ส่วนผมเพิ่งมา เลยรับสั่งจากท่านมุ้ย ท่านให้ดูแลความเรียบร้อยของประชาชน ให้ทำความเข้าใจกับประชาชนว่าเราจะถ่ายกันอย่างไร เวลาถ่ายแต่ละคนจะต้องทำตัวอย่างไร เช่นว่า ช่วยกรุณาถอดหมวก หุบร่ม ถอดแว่นตาดำ หันหน้าไปทางสนามหลวง หันหลังให้วัดพระแก้ว คอยดูแลทีมนักแสดงว่าต้องอยู่ตรงจุดไหน ทำความเข้าใจกับประชาชนเพื่อไม่ให้เขาเบื่อ นำทีมนักแสดงขึ้นมาพูดให้กำลังใจประชาชน ว่า ที่มาวันนี้ก็เพื่อพ่ออยู่หัวของเรา ไม่ว่ายังไงเราก็จะอยู่กับคุณ 4 ทุ่มใครมีแรงก็มาสู้กันอีก”
“ผมไม่เห็นมีใครมีสีหน้าเบื่อเลย ผมอยู่ตรงนี้มาตั้งแต่ 7 โมง ยืนหันหลังให้วัดพระแก้ว เขาจองที่กันไม่ไปไหนซึ่งเป็นมุมภาพที่หันหลังให้วัดพระแก้วเป็นมุมที่เราต้องการ ถ่ายทำเสร็จแล้ว เขาไม่ลุกไปไหน เขายังรอดูต่อ ผมไม่รู้สึกอยากกลับเลย เรียกว่าวันนี้คนมาแน่นเต็มพื้นที่ ผมเกิดมา 67 ปี ยังไม่เคยเห็นภาพนี้มาก่อน เป็นภาพที่เราดีใจแทนเขา เป็นความสุขเล็ก ๆ ในหัวใจเขาที่ได้มาอยู่ในวันนี้ เป็นความภูมิใจความประทับใจ เราจะได้เล่าให้ลูกให้หลานฟัง ว่าบรรยากาศวันนี้เป็นอย่างไร”
เผยทั้งเหงาทั้งว้าเหว่ ร้องเพลงสรรเสริญฯ ด้วยความรู้สึกสูญเสีย
“มันรู้สึกเหงา มันว้าเหว่ มันไม่เหมือนกับที่เราร้องในครั้งผ่าน ๆ มา วันนี้มันเหมือนเราร้องด้วยความสูญเสีย ความอาลัย ความรู้สึกมันเต็มไปด้วยความสูญเสีย อย่างเวลาได้เห็นท่านเสด็จมา ท่านจะโบกพระหัตถ์ให้กับประชาชน วันนี้พอได้หลับตา นึกถึงความรู้สึกดี ๆ ที่มีต่อพระองค์ท่านมันรู้สึกเหงา”
“ผมเคยเข้าเฝ้าฯรับรางวัลพระราชทานรางวัลตุ๊กตาทอง 2519 ผมได้รับรางวัลจากพระหัตถ์ท่าน ตอนนั้นอายุ 24 - 25 ปี เป็นครั้งหนึ่งในชีวิต เป็นความรู้สึกที่บรรยายไม่ถูกว่ามันประทับใจมากอย่างไร หลัง ๆ ก็ได้มีโอกาสตามท่านมุ้ย เลยได้ตามไปกราบพระบาท ท่านมุ้ยก็แนะนำนี่สรพงษ์ ขับรถมาให้พ่ะย่ะค่ะ ก็ไปเข้าเฝ้าอย่างไม่เป็นทางการอยู่หลายครั้งเหมือนกัน”
“พระองค์ท่านเป็นคนทำอะไรทำจริง พระองค์มีทุกอย่างแล้ว ผู้คนสรรเสริญ แต่ก็เลือกทำให้ประชาชนของพระองค์มีความสุข อย่างพวกเราทำ ก็อาจทำเอาลาภ เอายศ เอาตำแหน่ง เพื่อหน้าที่การงานที่สูงขึ้น แต่สำหรับพระองค์ท่านเองมีหมดแล้ว มีทั้งลาภ ทั้งยศ ผู้คนชื่นชม เพียงแต่ว่าสิ่งที่พระองค์ท่านทำเพื่อประชาชนนั้น พระองค์ทำแล้วมีความสุข ผมเคยไปถ่ายหนังที่ดอยตุง ไม่มีต้นไม้เลย กลับไปวันนี้มีทั้งน้ำ ผลหมากรากไม้ ประชาชนไม่ต้องปลูกฝิ่น ไม่ต้องหนี ไม่ต้องอยู่อย่างล่องลอย เขามีความสุข ตรงไหนที่แห้งแล้ง เมื่อพระองค์ท่านไปกลับมาก็จะร่มเย็น ตรงไหนที่ถนนไม่ลาดยาง ท่านเสด็จไปเมื่อไหร่ที่นั่นจะเจริญ ในหลวงไปไหนที่ตรงนั้นจะเจริญ เป็นเรื่องที่น่าแปลก ท่านเอาน้ำไปหยดลงตรงไหน ต้นไม้ก็ขึ้น คนธรรมดาอย่างเรา ๆ ทำไม่ได้หรอก”
บอกรับคำสั่ง “ท่านมุ้ย” เร่งสร้าง “พระนอน” ยาว 99 เมตร ถวายบูรพมหากษัตริย์สยามประเทศทุกพระองค์ ต้องเสร็จภายใน 10 ปี
“ผมสร้างพระพุทธเจ้า ยาว 99 เมตร ก่อนหน้าก็เคยสร้างหลวงปู่โตถวายตอนพระองค์ครองราชย์ครบ 60 ปี ตอนนี้ท่านมุ้ยให้ผมสร้างพระนอนถวายบูรพมหากษัตริย์สยามประเทศทุกพระองค์ จะสร้างไว้ที่อำเภอสีคิ้ว ที่เดียวกับวัดที่สร้างหลวงปู่โต เราจะไปซื้อที่ขยายจะให้อาจารย์เผ่า สุวรรณศักดิ์ศรี ที่เป็นศิลปินแห่งชาติออกแบบวิหารตัวอาคาร”
“สร้างพระนอนเพราะว่าตอนที่พระนเรศวรทรงทำยุทธหัตถี ท่านทรงไหว้ขอพรพระนอนที่วัดป่าโมกข์ แล้วในประเทศพม่าที่พระนเรศวรประทับอยู่ ที่ท่านถูกจับไปเป็นเชลย บริเวณนั้นมีพระนอนเยอะ พระพุทธไสยาสน์เป็นปางที่พระพุทธเจ้าโปรด เป็นปางที่เหมือนปราบทิฐิ นอนปราบทิฐิ ตอนนี้ออกแบบองค์เล็ก ๆ ไปประมาณเมตรหนึ่ง กำลังจะขยายแบบเป็น 99 เมตร คิดว่าน่าจะเสร็จไม่เกิน 10 ปีนี้ไป เพราะในหลวงรัชกาลที่ ๙ พวกเราข้าแผ่นดินต้องก้าวไปข้างหน้า ไม่มีถอยหลัง สิ่งที่พ่อทำไว้ ไม่มีมนุษย์คนไหนทำได้ ผมคิดอย่างนั้นนะ 4,000 กว่าโครงการ 4,000 กว่าเรื่องล้วนแต่มาจากมันสมองของพระองค์ และทีมงานที่จงรักภักดีต่อพระองค์ผมว่าไม่ธรรมดา”
“ตอนนี้ทุกคนว้าเหว่และเหงา แต่เราก็ยังต้องทำดีโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน โดยปิดทองหลังพระ ความดีนั้นจะอยู่กับตัวเรา หากไม่มีใครรู้แต่เราก็จะมีความสุขกับตัวเราเอง วันนี้เราได้เก็บขยะสักชิ้นหนึ่ง เราก็มีความสุขของเราเองได้โดยการทำความดี”
สำนักงานสอบบัญชี,#สอบบัญชี,สำนักงานบัญชี,#ทำบัญชี,#ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน
