จากประชาชาติธุรกิจ

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช หรือที่เหล่าพสกนิกรเรียกว่า ในหลวง หรือ พระเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 9) ทรงมีความสนพระราชหฤทัยในการถ่ายภาพมาก หลายครั้งที่เราจะเห็นพระองค์ท่านดำเนินพระราชกรณียกิจ จะเห็นพระองค์ทรงมีกล้องติดพระองค์ไปด้วยเสมอ เพื่อทรงเก็บภาพต่าง ๆ ระหว่างที่พระองค์ท่านทรงงาน และเครื่องประดับชิ้นเดียวที่พระองค์ทรงใส่ติดพระองค์ตลอดเวลาก็คือ นาฬิกา 2 สิ่งที่ทรงโปรดปรานมากที่สุด



Leica M6 รุ่น "King of Thailand"

ในโอกาสที่ฉลองสิริราชสมบัติ 50 ปี ในปี ค.ศ. 1996 ทาง Leica ได้ผลิตกล้องฟิล์มรุ่น Limited Edition Thai Jubilee M6เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียตริ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในโอกาสฉลองสิริราชสมบัติครองราชย์ครบ 50 ปี กล้องฟิล์มรุ่นพิเศษนี้ คือ Leica M6 กล้องฟิล์ม Rangfinder รุ่นยอดนิยมที่ถูกสร้างระหว่างปี ค.ศ. 1984 ถึง ค.ศ. 1998



กล้องฟิล์ม Leica M6 รุ่น "King of Thailand" วัสดุที่ใช้สร้างกล้องเป็นทองคำ 24 กะรัต และพิมพ์ตราสัญลักษณ์งานพระราชพิธีกาญจนาภิเษก ฉลองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี อยู่ด้านบนของตัวกล้อง และจับประกบคู่กับเลนส์ Summicron 50/2

กล้องรุ่นพิเศษรุ่นนี้ ถูกผลิตอย่างพิถีพิถันเพียง 700 ตัวเท่านั้น ซึ่งเดิมทีถูกขายโดย The Chulalongkorn University Development Foundation ในราคา $10,000 เงินทุนที่จัดหามาได้ถูกนำไปใช้ในโครงการที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม



นาฬิกาที่ระลึกเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ

นาฬิกาลิมิเต็ดเอดิชั่นจากแบรนด์นาฬิกา ORIENT จัดทำนาฬิการุ่นพิเศษ โดยอัญเชิญตราสัญลักษณ์งาน "พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554" ประทับบนหน้าปัด พร้อมเลขไทย ๘ และ ๔ บนหน้าปัดนาฬิกา พร้อมทั้งแสดงวันที่เป็นตัวเลขไทย ส่วนฝาหลังพิมพ์ชื่องาน



พระราชพิธี "The Celebration on the Auspicious Occasion of His Majesty the King′s 7th Cycle Birthday Anniversary, 5th December 2011" พร้อมตัวเลข 84 และหมายเลขประจำตัวเรือน โดย ORIENT ได้นำนาฬิการุ่น Classic สำหรับผู้ชายมาผลิต 1 แบบ 4 สไตล์ และนาฬิกากลไก Automatic สำหรับผู้หญิง รวมเป็น 5 แบบ ทั้งหมดจะผลิตแบบจำนวนจำกัดเพียงแบบละ 500 เรือนเท่านั้น

นาฬิกาข้อมือไซโกเฉลิมฉลอง 84 พรรษา



นาฬิกาข้อมือไซโกร่วมเฉลิมฉลองในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ84 พรรษาวันที่ 5 ธันวาคม 2554 อัญเชิญตราสัญลักษณ์เป็นตรานูนจัดทำพิเศษ (Bulging Emblem) ประดับบนหน้าปัดที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกา และระบุข้อความ "Limited Edition" เหนือตำแหน่ง 6 นาฬิกา หน้าปัดพิมพ์ลายเลขอารบิก 84 สีทอง ขีดบอกเวลาแบบนูน (Bulging Index) สีทองชมพู เข็มปลายแหลมสีทองชมพูช่องแสดงวันและวันที่ ที่ตำแหน่ง 3 นาฬิกาขอบตัวเรือน (Bezel) สีทองชมพู ตัดกับตัวเรือนสีเงินผลิตจากสเตนเลสสตีลเนื้อดี ประกอบด้วยสาย 2 แบบ ทั้งสายสเตนเลสสตีล 2 กษัตริย์ และสายหนังแท้สีเขียวอ่อนพร้อมเดินด้ายสีน้ำตาลเพิ่มความสวยงาม ซึ่งผลิตจำนวนจำกัดเพียง 2,555 เรือนเท่านั้น ราคา 19,500 บาท

รุ่นพระบารมีปกเกล้า

นาฬิกาเฉลิมพระเกียรติครองราชย์ 70 ปี ซึ่งแบรนด์ Wise ได้ผลิตนาฬิการุ่นพิเศษนี้ ภายใต้คอนเซ็ปต์ "พระบารมีปกเกล้า" โดยคัดสรรวัสดุที่มีคุณภาพสูง ตัวเรือนสเตนเลส กันน้ำ 50 เมตร

กระจก "Sapphire" Japan Movement "วันที่เลขไทย" สายหนัง ขนาดของผู้หญิง 32 mm. นาฬิกาเฉลิมพระเกียรติ สายหนัง รุ่น GM01 ตัวเรือนสีทอง กันน้ำ 50 เมตร ราคาเรือนละ 1,499 บาท

Birthplace@๘o

ในโอกาส "วันมหิดล" ปี 2551 สมาคมนักเรียนเก่าสหรัฐอเมริกา (เอยูเอ) ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับนาฬิกา CIMIER จากสวิตเซอร์แลนด์ โดยบริษัท เจอาร์ เมเยอร์ คอลเล็คชั่นส์ จำกัด เปิดให้ชาวไทยจับจองเป็นเจ้าของนาฬิกาเทิดพระเกียรติเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา ทางสมาคมนักเรียนเก่าสหรัฐอเมริกาฯ ได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้อัญเชิญอักษรพระปรมาภิไธยย่อ ภ.ป.ร. ประทับบนหน้าปัดนาฬิกา ในรูปแบบของเหรียญทองคำบริสุทธิ์ ริมขอบเหรียญประดับจุดจำนวน 80 จุด โดยรอบอันเป็นสัญลักษณ์แห่งปีมหามงคล



ส่วนหน้าปัดประดับข้อความ "Birthplace@๘o" และ "Cambridge, Mass." สื่อถึงพระชนมพรรษา 80 พรรษา และสถานที่พระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตัวเลข

ไทยบอกเวลาเคลือบทองคำ ณ ตำแหน่ง ๙ นาฬิกา หมายถึง พระมหากษัตริย์องค์ที่ 9 แห่งราชวงศ์จักรี พร้อมจารึกหมายเลขประจำเรือน ผลิตในจำนวนจำกัดเพียง 9,999 เรือนเท่านั้น

9 นาฬิกาแบรนด์ดัง

9 นาฬิกาแบรนด์ดังร่วมเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษาด้วยการรังสรรค์นาฬิกาเรือนพิเศษเพื่อให้ประชาชนได้เป็นเจ้าของ ในงาน Central International Watch Fair 2007 มีตั้งแต่แบรนด์หรูประดับอัญมณีอย่าง แฮรี่ วินสตัน ในรุ่นพิเศษ Premier Chronograph หน้าปัดประดับเพชร 217 เม็ด แซปไฟร์สีเหลือง 78 เม็ด เน้นสายและตัวเรือนสีเหลือง มูลค่า 3,100,000 บาท



แบรนด์พาร์มิจีอาร์นี เฟลอริเยร์ รังสรรค์นาฬิกาหลากรุ่นเพื่อโอกาสนี้ มีดาวเด่นเป็นรุ่นตัวเรือนผลิตจากโรสโกลด์ สลักหมายเลขประจำตัวเรือนพร้อมข้อความเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา เป็นภาษาอังกฤษ ผลิตเพียง 9 เรือน

โชพาร์ด มีทั้งรุ่นสุภาพสตรี ตัวเรือนบรรจุเพชรกลิ้ง 3 เม็ด สายทำจากยางคุณภาพพิเศษสีเหลือง ประทับอักษร Long Live the King ผลิตเพียง 200 เรือน ส่วนรุ่นบุรุษ หน้าปัดแสดงตราสัญลักษณ์ 80 พรรษา เข็มนาฬิกาสีเหลือง ฝาหลังสลักรูปแผนที่ประเทศไทย

คาร์ล เอฟ บุคเคอเรอร์ แนะนำนาฬิกาสปอร์ตหรู Patravi Chronograph GMT 42 mm. อัญเชิญตราสัญลักษณ์ 80 พรรษา สีทองประดับบนหน้าปัด ณ ตำแหน่ง 12 นาฬิกา ผลิตเพียง 80 เรือน

ยูลิส นาร์แดง ผลิตรุ่น Micheal Angelo UTC Dual Time อัญเชิญตราสัญลักษณ์ 80 พรรษา ประดับบนหน้าปัด ณ ตำแหน่ง 12 นาฬิกา โดดเด่นด้วยหน้าปัดสีเหลืองลายรัศมีแสงอาทิตย์ ผลิตเพียง 99 เรือน

โอริส สะท้อนเอกลักษณ์ความเป็นไทยด้วยตัวเลขบอกเวลาแบบไทย ณ ตำแหน่ง ๙ นาฬิกา ผลิตเพียง 1,927 เรือน ซึ่งเป็นปีคริสต์ศักราชพระบรมราชสมภพ

โอเรียนท์ สะท้อนความเป็นไทยด้วยการใช้ตัวเลข ๘, ๙ และ ๑๐ ตามตำแหน่ง 8, 9 และ 10 แต่ละเรือนสลักหมายเลขกำกับเป็นตัวเลขไทยไว้ที่ขอบด้านหลัง

ไซโก ทำนาฬิกาตั้งโต๊ะรุ่นพิเศษเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ตัวเลขบอกเวลาเป็นเลขไทย ๑ ถึง ๑๑ พิมพ์สีทอง และซิติเซ็น เป็นนาฬิกาประดับผนัง เชิญตราสัญลักษณ์ 80 พรรษา ประดับ ณ ตำแหน่ง 12 นาฬิกา และบอกเวลาด้วยตัวเลขไทย

ใครที่มีของที่ระลึกในวันสำคัญเหล่านี้อยู่ในมือ เชื่อว่าจะเป็นของล้ำค่าที่หาได้ยากยิ่งในอนาคต

สำนักงานสอบบัญชี,#สอบบัญชี,สำนักงานบัญชี,#ทำบัญชี,#ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน