สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

พระปรีชาสามารถ รัชกาลที่ 10 เจริญสัมพันธไมตรีมิตรประเทศ

จากประชาชาติธุรกิจ

ตลอดเวลา 44 ปีที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ขณะดำรงพระอิสริยยศสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ได้เสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศต่าง ๆ หลายประเทศ เพื่อกระชับสัมพันธไมตรีกับมิตรประเทศ

เจริญสัมพันธไมตรีกับมิตรประเทศ

นอกจากกระชับความสัมพันธ์กับประเทศต่างๆ ยังเป็นรากฐานสำคัญของความสงบสุขและความมั่นคงทางเศรษฐกิจ รวมถึงความเจริญก้าวหน้าของประเทศ โดยทรงเยือนมิตรประเทศทั่วทุกทวีปอย่างเป็นทางการเป็นประจำทุกปี เช่น 

เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยือนประเทศอิตาลี และทรงพบพระสันตะปาปา เมื่อวันที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2525 เสด็จพระราชดำเนินเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนระหว่างวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ถึง 8 มีนาคม พ.ศ. 2530 และเสด็จพระราชดำเนินทรงเยือนประเทศญี่ปุ่น ทรงพบสมเด็จพระจักรพรรดิ และสมเด็จพระจักรพรรดินี เมื่อวันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2530

และเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเจริญสัมพันธไมตรีในฐานะผู้แทนพระองค์ และในส่วนของพระองค์เอง มีอีกเป็นจำนวนมาก เช่น ประเทศอิหร่าน ประเทศเนปาล สาธารณรัฐสังคมนิยมศรีลังกา สหพันธ์เอกวาดอร์ ประเทศกรีซ ประเทศออสเตรเลีย

ทรงศึกษาข้อมูลก่อนเสด็จฯเยือนประเทศต่าง ๆ

นอกจากนี้ ทุกครั้งที่เสด็จพระราชดำเนิน พระองค์ทรงศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับประเทศที่จะเสด็จไปเยือน และทอดพระเนตรกิจการต่าง ๆ ของประเทศนั้น ๆ เพื่อนำมาเป็นประโยชน์ในการพัฒนาบ้านเมืองไทย เช่น เสด็จไปทรงเยี่ยมชมกิจการทหาร การจราจรทางอากาศ เมื่อทรงเยือนประเทศในทวีปอเมริกาใต้



หรือครั้งที่เสด็จพระราชดำเนินเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีน ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2528 สืบเนื่องจากประธานาธิบดีหลี เซียน เหมียน แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนและภริยา ได้เดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ในฐานะราชอาคันตุกะของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

เสด็จฯ เยือนจีนอย่างเป็นทางการ

พร้อมกราบบังคมทูลว่า "ประเทศจีนมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งหากจะได้มีโอกาสรับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมราชวงศ์ทุกพระองค์"

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จึงโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระอิสริยยศในขณะนั้น เยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ ในฐานะผู้แทนพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทั้งนี้ เดิมจีนได้กราบบังคมทูลเชิญเสด็จพระราชดำเนินในช่วงเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2529 แต่ปรากฏว่า สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระอิสริยยศในขณะนั้น ทรงมีพระราชกรณียกิจมาก ไม่สามารถจะปลีกพระองค์ไปได้ จึงต้องเลื่อนการเสด็จพระราชดำเนินไปจนกระทั่งเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2530 ซึ่งเป็นช่วงที่สภาพอากาศในจีนอยู่ในช่วงฤดูหนาว-หนาวจัดถึง -2 องศาเซลเซียส

และรัฐบาล 2 ประเทศก็ออกแถลงการณ์ การเสด็จพระราชดำเนินพร้อมกันอันมีข้อความตอนหนึ่งว่า "ในการนี้รัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีน จึงกำหนดการถวายให้ทรงเยือนกรุงปักกิ่ง เสิ่นหยาง ซีอาน หนานจิง เซี่ยงไฮ้ หางโจว เซี่ยเหมิน กว่างโจว และจูไฮ่ เพื่อทอดพระเนตรกิจการที่มีความสำคัญในการพัฒนาประเทศด้านต่าง ๆ เช่น การทหาร การศึกษา เศรษฐกิจ อุตสาหกรรม เกษตรกรรม และศิลปวัฒนธรรม นอกจากนั้น ได้จัดให้ทรงพบกับผู้นำสาธารณรัฐประชาชนจีนและผู้นำของรัฐบาลท้องถิ่นที่สำคัญอีกด้วย"

"การเสด็จพระราชดำเนินครั้งนี้จะเป็นการกระชับสัมพันธไมตรีระหว่างประเทศไทยกับสาธารณรัฐประชาชนจีนให้แน่นแฟ้น และสร้างเสริมมิตรภาพ พร้อมทั้งความเข้าใจอันดีระหว่างประชาชนทั้ง 2 ประเทศให้เพิ่มพูนยิ่งขึ้น"

ประธานาธิบดีจีนชื่นชมพระบารมี

เมื่อเสด็จถึงประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ทางรัฐบาลจีนได้ถวายพระกระยาหารค่ำแด่พระองค์อย่างเป็นทางการ ทั้งนี้ หลี เซียน เหมียน กล่าวสุนทรพจน์ตอนหนึ่งว่า

"สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เยือนประเทศจีนอย่างเป็นทางการตามคำทูลเชิญของรัฐบาลจีน ทรงได้นำมาซึ่งไมตรีจิตมิตรภาพอันล้ำลึกของประชาชนชาวไทยที่มีต่อประชาชนจีน ข้าพเจ้ารู้สึกปลื้มปีติยินดีเป็นอย่างยิ่งในนามรัฐบาลและประชาชนจีน ขอแสดงความยินดีรับเสด็จเยือนประเทศจีนของพระองค์ท่านด้วยความอบอุ่นยิ่ง"

"จีน-ไทย 2 ประเทศเป็นบ้านใกล้เรือนเคียงกันอันสนิทชิดเชื้อ ประชาชนของประเทศเราทั้งสองได้สร้างสมมิตรภาพอันมั่นคงที่สืบทอดกันมาด้วยการไปมาหาสู่กันเป็นเวลายาวนานหลายปีอันใกล้มานี้ด้วยความเพียรพยายามของทั้ง 2 ฝ่ายมิตรสัมพันธ์ของประเทศเราทั้งสอง ซึ่งสร้างขึ้นบนพื้นฐานหลัก 5 ประการ แห่งการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ได้รับการพัฒนาไปอย่างรอบด้านและรวดเร็วยิ่งขึ้น ผู้นำของประเทศเราทั้งสองได้มีการเยี่ยมเยียนกันบ่อยครั้ง และมีความจริงใจต่อกัน ทั้งนี้ได้กระชับความเข้าใจและความเชื่อถือกันอย่างมากยิ่งขึ้นทุกที ให้ประเทศเราทั้งสองมีความร่วมมือกันฉันมิตรในด้านต่าง ๆ ทั้งในด้านการเมือง เศรษฐกิจ วัฒนธรรม เทคโนโลยี และวิชาการในกิจการระหว่างประเทศ และการต่อสู้เพื่อพิทักษ์รักษาอธิปไตยแห่งชาติ คัดค้านการรุกรานและขยายอิทธิพล" 



"เราทั้ง 2 ประเทศเคารพซึ่งกันและกัน ให้ความสนับสนุนต่อกัน และมีการประสานงานกันอย่างใกล้ชิด การปฏิบัติได้พิสูจน์ให้เห็นว่า จีนและไทยเป็นมิตรกัน ไม่เพียงแต่สอดคล้องผลประโยชน์ของประชาชนประเทศเราทั้งสองเท่ากัน หากยังมีความหมายอันสำคัญต่อการรักษาสันติภาพและเสถียรภาพของส่วนภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วย การเสริมสร้างมิตรภาพสัมพันธ์ฉันเพื่อนบ้านกับประเทศไทย ซึ่งจักมั่นคงและยั่งยืนตลอดกาลนั้น เป็นความปรารถนาดีด้วยความจริงใจของเรา และก็เป็นนโยบายของรัฐบาลจีนที่แน่นอนไม่เปลี่ยนแปลง ประชาชนจีนจักเป็นเพื่อนที่เชื่อถือกันได้ของประชาชนไทยตลอดกาล"

"...สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ทรงสนพระทัยต่อการคลี่คลายขยายตัวของสัมพันธภาพระหว่างจีนกับไทยมาก การที่พระองค์เสด็จเยือนประเทศจีนอย่างเป็นทางการครั้งนี้ เป็นกรณีอันสำคัญในประวัติมิตรสัมพันธ์ระหว่างจีนกับไทย 2 ประเทศ ข้าพเจ้าเชื่อมั่นว่าการเสด็จเยือนประเทศจีนของพระองค์ท่านครั้งนี้ จะทรงอุทิศคุณประโยชน์เพื่อเพิ่มพูนความเข้าใจอันดี และมิตรภาพระหว่างประชาชนจีน-ไทย 2 ประเทศ และกระชับความร่วมมือฉันมิตรของประเทศทั้งสองให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น"

นำประสบการณ์มีค่ามาพัฒนาประเทศ

และพระองค์ทรงมีพระราชดำรัสตอบไปว่า "...ข้าพเจ้ามีความชื่นชมและรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับเชิญให้มาเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการในฐานะผู้แทนพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแห่งราชอาณาจักรไทย และได้รับการต้อนรับเป็นอันดีด้วยไมตรีจิต"

"แผ่นดินซึ่งมีชื่อเรียกขานโดยเคยชินว่า ประเทศจีนนี้เป็นแหล่งอารยธรรมใหญ่และสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน แสดงถึงความยิ่งใหญ่และความเจริญรุ่งเรืองในด้านต่าง ๆ ซึ่งมีวัฒนาการต่อเนื่องมาไม่ขาดสาย เรื่องราวของจีนแต่ละเรื่องแต่ละยุคล้วนน่าสนใจ ควรแก่การศึกษาพิจารณาเป็นอย่างยิ่ง ข้าพเจ้าจึงยินดีและพอใจที่มีโอกาสมาเยือนประเทศจีนในครั้งนี้ ทั้งต้องขอขอบใจรัฐบาลจีนอย่างมาก ที่จัดให้ได้ชมและได้ศึกษาสภาพบ้านเมือง พร้อมทั้งความเจริญต่าง ๆ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันอย่างทั่วถึง ซึ่งข้าพเจ้าเชื่อว่าจะได้รับความรู้และประสบการณ์ที่มีค่ากลับไปใช้ให้เป็นประโยชน์ได้อย่างกว้างขวาง"

"พูดถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของเรา อาจกล่าวได้ว่าจีนกับไทยมีสายสัมพันธ์อันยาวยืนสืบมาแต่โบราณกาล ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐก็ดี ระหว่างประชาชนทั้ง 2 เชื้อชาติก็ดี มีอยู่อย่างสนิทแน่นแฟ้นจนไม่อาจแยกจากกันได้ เพราะต่างฝ่ายต่างให้ความช่วยเหลือเกื้อกูลกัน และถ่ายทอดมรดกทางวัฒนธรรมให้แก่กันและกันอย่างมากมายลึกซึ้งมาตลอดทุกยุคทุกสมัย ดังนั้น ความสัมพันธ์เก่าแก่ระหว่างชาติของเราจึงย่อมเป็นพื้นฐานอันแน่นหนาและมั่นคง ที่จะรองรับและเกื้อกูลการประสานความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างราชอาณาจักรไทยกับสาธารณรัฐประชาชนจีนในยุคใหม่ให้กระชับแน่นและเจริญงอกงามยิ่งขึ้นได้อย่างดีที่สุด"


"อีกประการหนึ่ง ข้าพเจ้ายินดีที่จะกล่าวว่า ตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมา ประเทศไทยเฝ้าติดตามดูความเจริญก้าวหน้าของสาธารณรัฐประชาชนจีนมาด้วยความสนใจ และได้มองเห็นโดยเด่นชัดว่า จีนพยายามอย่างยิ่งที่จะร่วมแรงร่วมความคิดกันเป็นเอกภาพ เพื่อสร้างสรรค์และปรับปรุงโครงสร้างทางเศรษฐกิจ การพัฒนาชนบท พัฒนาเกษตรกรรม อุตสาหกรรมและเทคโนโลยีต่าง ๆ ตามนโยบายที่ทันสมัย เรามีความเชื่อมั่นว่า ภายใต้การนำของคณะผู้นำในปัจจุบัน สาธารณรัฐประชาชนจีน จะประสบความสำเร็จในการพัฒนาประเทศทุก ๆ ด้านอย่างงดงามเป็นแน่นอน"

ทอดพระเนตรงานผลิตเครื่องบินรบ

ซึ่งในการเสด็จพระราชดำเนินเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนในครั้งนั้นพระองค์ได้เสด็จทอดพระเนตรมหาวิทยาลัยเซี่ยเหมิน กระบวนการผลิตเครื่องบินไอพ่น และการสาธิตการบินของเครื่องบินไอพ่นแบบเอฟ 8-1 และเอฟ 8-2 ภารกิจด้านกองทัพ เป็นต้น

นับเป็นพระราชกรณียกิจด้านการทูตที่ทำให้ประเทศไทยอยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข

หมายเหตุ- เรียบเรียงจากหนังสือ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีน


สำนักงานสอบบัญชี,#สอบบัญชี,สำนักงานบัญชี,#ทำบัญชี,#ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : พระปรีชาสามารถ รัชกาลที่ 10 เจริญสัมพันธไมตรีมิตรประเทศ

view