จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์
เลขาฯ ป.ป.ช.งง! TI นำประเด็นประชาธิปไตยมาร่วมจัดอันดับ ทำไทยโปร่งใส ปี 59 วูบ!
โดย MGR Online
วันนี้ (25 ม.ค.) นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยว่า ป.ป.ช.ได้รับทราบรายงานขององค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ ประกาศคะแนนดัชนีการจัดอันดับความโปร่งใส หรือ Corruption Perceptions Index (CPI) ปี 2016 ที่ประเทศไทย ได้35 คะแนน อยู่อันดับที่ 101 ของโลก ซึ่ง ป.ป.ช.พบว่า มีการนำเรื่องความเป็นประชาธิปไตยมาใช้ในการจัดอันดับด้วย จากนี้ไป ป.ป.ช.จะนำมาข้อมูลทั้งหมดมาวิเคราะห์ต่อไป “ดูจากคะแนนและผลการจัดอันดับที่ออกมา ป.ป.ช.ก็ผิดหวัง เพราะเราคาดการณ์ว่าเราจะได้เกินกว่า 38 คะแนน แต่กลับตกมาที่ 35 คะแนน ก็รู้สึกผิดหวัง โดยต้องกลับไปดูอีกทีว่าเกิดอะไรขึ้นกับการประเมินในครั้งนี้” ทั้งนี้ องค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ (Transparency International : TI) ได้ประกาศค่าคะแนน Corruption Perceptions Index (CPI) ของปี 2559 ในวันพุธที่ 25 มกราคม 2560 นี้ โดยประเทศไทยได้คะแนน 35 จาก 100 คะแนนเต็ม อยู่ที่ 101จากจำนวน 176 ประเทศ อยู่ในระดับเดียวกันประเทศฟิลิปปินส์ และติมอร์ เลสเต้ ในภูมิภาคอาเซียน และเป็นอันดับที่ 6 จาก 10 ประเทศในภูมิภาคอาเซียน รองจากสิงคโปร์ บรูไน มาเลเซีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ก่อนหน้านั้น ป.ป.ช.ได้ทำข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อเป็นการสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการให้ค่าคะแนน CPI ที่วัดดัชนีการรับรู้การทุจริตประเทศไทย (Corruption Perceptions Index : CPI) จำนวน 8 ตอนเผยแพร่ในเว็บไซต์ มีรายงานว่า สำหรับรายงานของ CPI ตอนหนึ่งที่กล่าวถึงประเทศไทย โดยอ้างถึงความเป็นประชาธิปไตย มีใจความว่า Thailand dropped to 35 in its score this year, reinforcing the link between perceived corruption and political turmoil. Government repression, lack of independent oversight, and the deterioration of rights eroded public confidence in the country. Thailand's new constitution, while it places significant focus on addressing corruption, entrenches military power and unaccountable government, undermining eventual return to democratic civilian rule. Free debate on the constitution was impossible; campaigning in opposition was banned and dozens of people were detained. The military junta also prohibited monitoring of the referendum. There is a clear absence of independent oversight and rigorous debate. ขณะที่รายงานดังกล่าวมีการอ้างถึงบทความในประเด็นการเมืองในวาระต่างๆ ทั้งการเลือกตั้ง การเข้าบริหารของรัฐบาลทหาร จากองค์กรต่างๆ และสื่อมวลชน เช่น สำนักข่าวบีบีซี ยูเอ็นนิวส์ ฮิวแมนไรต์วอตช์ บทความของยูเอ็นนิวส์ “Thailand: UN rights expert warns against curbs on free speech ahead of major vote” เผยแพร่เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2559 http://www.un.org/apps/news/story.asp?NewsID=54556#.WIhsyxuLTIV บทความของฮิวแมนไรต์วอตช์ “Thailand: Junta Bans Referendum Monitoring Generals Gag Criticism of Draft Constitution” เผยแพร่เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2559 https://www.hrw.org/news/2016/06/21/thailand-junta-bans-referendum-monitoring บทความของสื่อเดอะการ์เดียน “Thailand votes in favour of military-backed constitution” เผยแพร่วันที่ 7 กันยายน 2559 https://www.theguardian.com/world/2016/aug/07/thailand-votes-in-favour-of-military-backed-constitution บทความของบีบีซี “Thai referendum: Military-written constitution approved” เผยแพร่เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2559 http://www.bbc.com/news/world-asia-36972396 |
|||
|
'องค์การต้านทุจริตโลก'ชี้ให้ระวัง ผู้นำแนวประชานิยมแบบ'ทรัมป์'
โดย MGR Online
โฆเซ อูกาซ ประธานองค์การเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ (ทีไอ) เตือนระหว่างการเปิดเผยรายงานดัชนีชี้วัดภาพลักษณ์คอร์รัปชั่นประจำปี 2016 เมื่อวันอังคาร (24 ม.ค.) ว่า ลัทธิประชานิยมเป็นการจ่ายยาผิด ดังจะเห็นได้ว่า ในประเทศที่มีผู้นำที่ชูนโยบายประชานิยมหรือผู้นำเผด็จการนั้น ระบอบประชาธิปไตยมักถดถอย และเกิดรูปแบบความพยายามในการกวาดล้างภาคประชาสังคม จำกัดเสรีภาพสื่อ และบ่อนทำลายความเป็นอิสระของฝ่ายตุลาการ “แทนที่จะจัดการกับระบบทุนนิยมแบบพวกพ้อง ผู้นำเหล่านี้มักสร้างระบบคอร์รัปชั่นในรูปแบบที่เลวร้ายกว่าเดิม” อูกาซเสริม ในรายงานดัชนีฉบับล่าสุดนี้ ทีไอยกตัวอย่างฮังการีและตุรกีที่มีผู้นำเผด็จการ และอันดับในตารางภาพลักษณ์คอร์รัปชั่นรูดลงตลอดหลายปีที่ผ่านมา ในทางกลับกัน อาร์เจนตินาที่ขับไล่รัฐบาลประชานิยมพ้นจากอำนาจ มีอันดับในตารางดีขึ้น เปรียบเทียบกันแล้ว สถานการณ์การทุจริตในอเมริกาจึงน่าเป็นห่วงมากขึ้นเช่นเดียวกัน หลังจากที่โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้ชูนโยบายต่อต้าน “ชนชั้นสูง” ในวงการการเมืองและโวจะปราบปรามทุจริตในกรุงวอชิงตัน เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว ฟินน์ ไฮน์ริช ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของทีไอ กล่าวว่า เขาไม่หวังว่า มหาเศรษฐีนิวยอร์กผู้นี้จะทำตามสัญญาที่ให้ไว้ โดยมองเห็นได้จากการที่เขาเพิกเฉยต่อแนวโน้มที่ตัวเขาเองจะเกิดปัญหาผลประโยชน์ทับซ้อน, การมุ่งโจมตีสื่อ, และการปฏิเสธไม่เปิดเผยข้อมูลการเสียภาษีเงินได้และการขอคืนเงินภาษีของตัวเอง “กลิ่นเริ่มทะแม่งตั้งแต่ตอนที่เขาแต่งตั้งลูกเขยเป็นที่ปรึกษาอาวุโส มิหนำซ้ำคณะรัฐมนตรีของเขายังเต็มไปด้วยผลประโยชน์ทับซ้อน” ไฮน์ริชสำทับ ทั้งนี้ ในดัชนีล่าสุดของทีไอนี้ อันดับของอเมริกาหล่นไปสองขั้น มาอยู่ที่ 18 จากจำนวนประเทศและดินแดนที่ได้รับการจัดอันดับในปีนี้ทั้งสิ้น 176 ราย โดยมีคะแนน 74 จากคะแนนเต็ม 100 ลดลงจากที่ได้ 76 คะแนนในปี 2015 |
||||
สำหรับดัชนีภาพลักษณ์คอร์รัปชั่นประจำปี 2016 นี้ ของทีไอ มีการให้คะแนนตั้งแต่ 0-100 คะแนน โดย 0 หมายถึงปัญหาคอร์รัปชั่นระบาดรุนแรงมากที่สุด และ 100 คือปลอดจากการคอร์รัปชั่น ขณะที่การให้คะแนนพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ อาทิ เจ้าหน้าที่รัฐต้องรับผิดชอบหรือรอดจากการถูกลงโทษจากการทุจริต การแพร่ระบาดของการติดสินบน และการตอบสนองความต้องการของประชาชนของสถาบันรัฐ ซึ่งรวบรวมข้อมูลจากผลสำรวจของธนาคารโลก, ธนาคารเพื่อการพัฒนาแอฟริกา, อิโคโนมิสต์ อินเทลลิเจนซ์ ยูนิต รวมถึงหน่วยงานอื่นๆ ปรากฏว่าในปีนี้ นิวซีแลนด์และเดนมาร์กครองอันดับ 1 ร่วมกันด้วยคะแนน 90 คะแนน ตามด้วยฟินแลนด์ สวีเดน สวิตเซอร์แลนด์ และนอร์เวย์ ในทางกลับกัน โซมาเลีย ประเทศที่อยู่ท่ามกลางสงคราม รั้งท้ายในตารางต่อเนื่องเป็นปีที่ 10 ตามด้วยซูดานใต้ เกาหลีเหนือ และซีเรีย ประเทศที่ตกอันดับแรงที่สุดคือกาตาร์ ที่ทำคะแนนน้อยกว่าปีก่อนหน้าถึง 10 คะแนน และหล่นไปอยู่อันดับที่ 31 จาก 22 ในปี 2015 โดยกาตาร์ถูกวิจารณ์อย่างหนักเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนซึ่งเกี่ยวข้องกับแรงงานก่อสร้างที่เป็นผู้อพยพ นับจากที่ประเทศแห่งนี้ได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพการแข่งขันฟุตบอลโลกประจำปี 2022 ขณะเดียวกัน อัฟกานิสถานมีการปรับปรุงชัดเจนที่สุด โดยมีคะแนนเพิ่มขึ้น 4 คะแนน แม้ตำแหน่งยังห้อยท้ายที่อันดับ 169 ก็ตาม สำหรับประเทศไทยอยู่ที่อันดับ 101 ด้วยคะแนน 35 คะแนน ลดลงจากปี 2015 สามคะแนน เวลาเดียวกัน เกือบ 70% จากทั้งหมด 176 ประเทศได้คะแนนต่ำกว่า 50 บ่งชี้ความจำเป็นในการแก้ไขอย่างเร่งด่วน รายงานแนะนำว่า เพื่อทลายวงจรอุบาทว์ระหว่างการคอร์รัปชั่นกับการกระจายอำนาจและความมั่งคั่งในสังคมอย่างไม่เป็นธรรม รัฐบาลควรสกัดช่องทางในการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ระหว่างผู้นำธุรกิจกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาล รวมทั้งยังต้องมีการควบคุมธนาคารและธุรกิจอื่นๆ ที่ให้การช่วยเหลือในการฟอกเงินอย่างเคร่งครัดขึ้น และห้ามไม่ให้บริษัทลับที่ปิดบังตัวตนของเจ้าของกิจการตัวจริง |
สำนักงานสอบบัญชี,#สอบบัญชี,สำนักงานบัญชี,#ทำบัญชี,#ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน