วิลาศ” ไล่ผู้ว่าการประปาฯ ชี้นิ่งเฉยทุจริต แฉมีต่อรองเมินสอบแลกไม่เอาผิดตัวเอง
จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์
อดีต ส.ส.กทม.ปชป.ตะเพิด ผู้ว่าการประปาฯ โวยไม่จัดการทุจริต ปูดมีเจรจาต่อรองกับรองผู้ว่าที่ทำผิด ไม่ตั้ง กก.สอบ แลกไม่เอาผิดตัวเอง สงสัย มั่วข้อมูลเป็นผู้บริหารพฤกษาเรียลเอสเตรทปื 56 มีรายได้เกิน 3,500 ล้าน ทั้งที่เคยเป็นปี 36-41 ให้เวลาบอร์ด 1 สัปดาห์ ตั้ง กก.สอบข้อเท็จจริง ขู่นิ่งฟ้อง ป.ป.ช. ระบุการประปาฯ การเงินแย่ เอาเงินกู้มาใช้รายจ่ายประจำส่อเจ๊ง แถมโกงที่กันทรารักษ์-กันทรารมย์ กว่า 100 ล้าน วันนี้ (5 ก.พ.) นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีต ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงความคืบหน้าในการติดตามการทุจริตในการประปาส่วนภูมิภาคว่า กำลังอยู่ในสถานะที่ย่ำแย่ทางการเงิน โดยในขณะนี้ต้องนำเงินกู้จากแหล่งต่างๆ มาใช้จ่ายในรายการค่าใช้จ่ายประจำ แต่ที่ดูเมือนกับว่ายังไปได้อยู่เพราะมีการลงทุนหลายโครงการกว่าหมื่นล้านที่ฝังท่อไว้เฉยๆ แต่ไม่ได้ผลิตน้ำ ไม่ทำรายได้ อย่างไรก็ตามยังเป็นสินทรัพย์แต่เมื่อเสื่อมสภาพก็จะเจ๊งทันที แต่ในขณะนี้ก็เจ๊งแล้ว ซึ่งตนเคยมีความหวังกับนายเสรี ศุภราทิตย์ ผู้ว่าการประปาส่วนภูมิภาคคนปัจจุบัน เพราะมีภูมิปัญญาด้านวิชาการดี จึงให้ข้อมูลเกี่ยวกับการทุจริตเพื่อให้แก้ไขมาโดยตลอดแต่กลับไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย ทั้งที่มีความเสียหายเกิดขึ้นจากการฝังท่อฟรี อีกทั้งยังคงมีการประมูลต่ออีกที่เขต 3 ซึ่งตนได้ให้ข้อมูลแล้วว่ามีการฮั้วกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง นอกจากนี้ก็ยังมีปัญหาไม่ส่งพื้นที่เหมือนกับในพื้นที่อื่นๆ มีการล็อกสเปกและปัญหาอื่นๆ ที่เคยเกิดขึ้นเหมือนเดิม จนตนรู้สึกว่านายเสรีควรพ้นตำแหน่งได้แล้วเพราะครบหกเดือนแล้ว ไม่ได้ทำอะไรนอกจากออกไปเยี่ยมสาขามอบนโยบาย แต่ไม่เคยแก้ปัญาทุจริต “ผมรับไม่ได้จริงๆ ท่านก็รู้ว่ามีการทุจริตแต่ทำไมไม่ทำอะไร ประมาณเดือนเศษที่ผ่านมามีเจ้าหน้าที่การประปาบอกผมว่าไปเจอกับรองผู้ว่าการประปาคนหนึ่งบอกว่าปัญหาที่เคยโดนกล่าวหาไม่มีทางผิดเพราะเจรจากับผู้ว่าต่อรองกันว่าจะไม่ตั้งกรรมการสอบ ขณะเดียวกันเขาจะไม่เล่นผู้ว่าฯ ในเรื่องคุณสมบัติการสมัครผู้ว่าการประปาฯ ผมก็ไม่เชื่อเพราะการสรรหามีกรรมการสรรหา จนกระทั่งสัปดาห์ถัดมาเขามายืนยันว่าเรื่องจริงไปถามรองผู้ว่าฯ อีกคนมาแล้ว ผมก็เริ่มคิดว่าหรือว่าจะจริงเพราะผู้ว่าฯก็ไม่สอบจริงๆ จึงเริ่มตรวจสอบว่าที่พูดกันเป็นไปได้มั้ย เริ่มจากเอกสารเขาบอกว่าผู้ว่าฯ ไปสมัครเข้ารับการสรรหาโดยเอาเอกสารว่าเคยเป็นผู้บริหารอยู่ที่บริษัท พฤกษาเรียลเอสเตท ใช้ผลงานว่าเคยบริหารบริษัทนี้เมื่อปี 56 เมื่อตามต่อในช่วงรับการสรรหาคุณสมบัติของผู้เข้ารับการสรรหา กรณีเคยเป็นข้าราชการต้องดำรงตำแหน่งรองอธิบดีหรือเทียบเท่า ถ้าเป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจต้องดำรงตำแหน่งไม่น้อยกว่ารองผู้ว่าการฯหรือรองผู้บริหารสูงสุด เช่นเดียวกับเอกชนต้องเป็นรองผุ้บริหารสูงสุดของเอกชนและต้องเป็นบริษัทเอกชนที่มีรายได้ไม่น้อยกว่า 3,500 ล้านบาท ซึ่งตนไปค้นข้อมูลว่านายเสรีเคยเป็นผู้บริหารเมื่อไหร่ ตำแหน่งอะไรที่พฤกษาเรียลเอสเตรท พบว่าเป็นกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2536 และพ้นจากตำแหน่งกรรมการผู้มีอำนาจลงนามเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2541 หากนำรายได้ช่วงนี้ไปยื่นก็จะเป็นเรื่องที่ถูกต้อง แต่มีการร้องว่านายเสรีใช้รายได้ของพฤกษาเรียลเอสเตทในปี 56 ที่มีรายได้ 3.9 หมื่นล้านบาท ซึ่งนายเสรีไม่ได้เป็นผู้บริหารแล้ว ผมจึงสงสัยว่าตรวจผิดพลาดกันได้อย่างไร นอกจากฮั้วกัน ซึ่งถ้าทำจริงก็ต้องเอาผิดต่อไป” นายวิลาศกล่าว อดีต ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนได้ตรวจสอบการยื่นเสียภาษีของนายเสรี พบว่ามีการยื่นภาษีในปี 55 อ้างว่ามีรายได้จากบริษัทไดแมกซ์ผลิตสีน้ำมันและองค์กรกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะประเทศไทย ส่วนปี 56-58 มีรายได้จากมหาวิทยาลัยรังสิต 2.4-2.6 ล้าน แต่ไม่มีรายได้จากพฤกษาเรียลเอสเตรท อย่างไรก็ตาม ตนยังไม่ได้กล่าวหาแต่อยากให้ชี้แจงหากไม่ใช่เรื่องจริง ซึ่งตนได้ทำหนังสือถึงประธานบอร์ดการประปาส่วนภูมิภาคให้ตั้งกรรมการสอบสวนว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร แถลงให้ประชาชนรับทราบ หากผิดต้องดำเนินการตามกฎหมายเพราะการยื่นเอกสารเท็จมีความผิดทางอาญา และขอข้อมูลเอกสารของนายเสรี โดยจะให้เวลาอีกหนึ่งสัปดาห์หากไม่มีความคืบหน้าจะยื่นหนังสือกล่าวหาให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบว่ามีการยื่นเอกสารเท็จ รวมทั้งเอาผิดบอร์ดที่ไม่ดำเนินการใดๆ ด้วย ซึ่งตนจะเดินหน้าโดยไม่ยอมเจรจาต่อรองกับใครทั้งสิ้น และขอเรียกร้องไปยัง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทยให้เข้ามาตรวจสอบเรื่องนี้ด้วย นายวิลาศกล่าวด้วยว่า ยังพบการทุจริตในโครงการจ้างเหมาก่อสร้างปรับปรุงขยายการประปาส่วนภูมิภาคที่ กันทรลักษ์ และกันทรารมย์ จังหวัดศีรษะเกษ วงเงินกว่า 100 ล้านบาท โดยตนได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบทั้งสองพื้นที่ พบว่ามีการตรวจรับงาน 27 กันยายน 59 แต่วันนี้ที่กันทรารักษ์และกันทรารมย์ยังไม่ได้ใช้น้ำแม้แต่หยดเดียวอ้างว่าระบบไฟยังไม่เรียบร้อย จึงสงสัยว่าตรวจรับงานได้อย่างไร นอกจากนี้ยังพบพิรุธหลายอย่าง ตั้งแต่ไม่มีการสร้างอาคารทั้งที่หลังคาพัง ประตูปิดไม่ได้ ระบบไฟมีปัญหา และมีการให้เหตุผลว่าต้องขยายกำลังผลิตรองรับลูกค้าที่เพิ่มขึ้นด้วยข้อมูลที่เกินกว่าความเป็นจริง ถือเป็นการโกงมโหฬาร ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการแถลงข่าว นายวิลาศยังได้นำภาพการลงพื้นที่ที่กันทรลักษ์ ซึ่งแสดงถึงสภาพปัญหาความไม่พร้อมของโครงการในหลายด้าน แต่กลับมีการตรวจรับงานไปแล้ว มาแสดงต่อสื่อมวลชนเพื่อเป็นหลักฐานด้วย
|
|
|
"วิลาศ" ไล่ "เสรี" พ้นผู้ว่าการประปาส่วนภูมิภาค แฉพบทุจริต 2 อำเภอศรีสะเกษกว่า 100 ล้าน
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 5 กุมภาพันธ์ ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีต ส.ส.กทม. พรรค ปชป. แถลงถึงความคืบหน้าในการติดตามการทุจริตในการประปาส่วนภูมิภาคว่า ขณะนี้การลงทุนหลายโครงการกว่าหมื่นล้านมีการฝังท่อเอาไว้ แต่ไม่ได้มีการผลิตน้ำ ซึ่งตนเคยมีความหวังกับนายเสรี ศุภราทิตย์ ผู้ว่าการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) คนปัจจุบัน เพราะมีความสามารถด้านวิชาการเป็นอย่างดี แต่ปัญหาเรื่องการทุจริตต่างๆ ที่ผ่านมา 6 เดือนกลับไม่มีการเปลี่ยนแปลง ทั้งที่มีความเสียหายเกิดขึ้นมาโดยตลอด ดังนั้น นายเสรีจึงควรพ้นจากตำแหน่ง เพราะไม่มีผลงานการแก้ปัญหาทุจริตที่เป็นรูปธรรม
นายวิลาศกล่าวต่อว่า ตนขอเรียกร้องไปยัง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้เข้ามาตรวจสอบเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม ในสัปดาห์หน้า ตนจะแถลงข่าวกรณีพบการทุจริตในโครงการจ้างเหมาก่อสร้างปรับปรุงขยายการประปาส่วนภูมิภาคที่อำเภอกันทรลักษ์และกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ วงเงินกว่า 100 ล้านบาท โดยตนได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบทั้งสองพื้นที่ พบว่ามีการตรวจรับงานตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน 2559 แต่กลับพบว่าทั้ง 2 อำเภอยังไม่ได้ใช้น้ำ โดยมีการกล่าวอ้างว่าระบบไฟยังไม่เรียบร้อย นอกจากนี้ยังพบพิรุธหลายอย่าง ตั้งแต่ไม่มีการสร้างอาคารทั้งที่หลังคาพัง ประตูปิดไม่ได้ ระบบไฟมีปัญหา และมีการให้เหตุผลว่าต้องขยายกำลังผลิตรองรับลูกค้าที่เพิ่มขึ้นด้วยข้อมูลที่เกินกว่าความเป็นจริง
ที่มา มติชนออนไลน์
สำนักงานสอบบัญชี,#สอบบัญชี,สำนักงานบัญชี,#ทำบัญชี,#ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน